วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

ช่วยบนความพอดี

On June 12, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 12 มิ.ย. 63)

เมื่อเร็วๆนี้ โลกออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวดีๆ ที่เด็กน้อยปั่นจักรยานพาแม่ที่ตาบอดไปกินก๋วยเตี๋ยว โดยเฟสบุ๊กชื่อ สมรัก โคกขํา โพสต์เรื่องราวของน้อง เด็กชาย ป.4 รับจ้างบวชตามวัดที่มีงานศพ ซึ่งได้ค่าจ้างมาครั้งละ 300 บาท ครั้งนี้คนโพสต์เห็นน้อง จึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวดีๆ นี้ลงเฟซบุ๊ก ว่า “สุดยอดของเด็กชายคนนี้ เด็ก ป.4 ไปรับจ้างบวชเณรได้เงินมา 300 ปั่นจักรยานพาแม่มากินก๋วยเตี๋ยว แม่ตาบอด คือทำให้แม่ทุกอย่าง หนู คือ เด็กกตัญญูที่สุด”

โดยผู้โพสต์ เล่าว่า บังเอิญไปเจอน้อง เลยได้ถ่ายรูปมา น้องเป็นเด็กดีมากๆ อยู่กับแม่พิการตาบอด อาศัยอยู่ใต้ถุนบ้านญาติ ซึ่งน้องจะไปรับจ้างบวชหน้าไฟ ตามงานศพที่วัดอยู่บ่อยๆ ซึ่งล่าสุดเพิ่งบวชได้เงินมา 300 หรือบางวันถ้าไม่มีบวช ก็จะไปรับจ้างตามบ้าน แล้วแต่คนจ้าง วันละ 50-60 บาท หลังจากบวชเสร็จ จึงพาแม่ตาบอดไปกินก๋วยเตี๋ยว ซึ่งคุณไก่เล่าเสริมว่า แม่ไม่ได้มีรายได้อะไร นอกจากเงินดูแลคนพิการที่ได้เพียง 800 บาทต่อเดือน เมื่อเรื่องราวถูกโพสต์ ชาวโซเชียลก็ต่างพากันแชร์เรื่องราวของน้อง และเป็นกำลังใจให้กับน้องอย่างล้นหลาม

ต่อมานายธีรศักดิ์ ลิขิต นายอำเภอพรานกระต่าย มอบหมายให้ นางสาวดวงกมล ติ๊บปะละวงศ์ ปลัดอำเภอศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ตรวจสอบกรณีดังกล่าว พบว่า นางบุญแทน บุญสวัสดิ์ อายุ 39 ปี และ ลูกชายชื่อเด็กชายชานุพงษ์ คำขาว อายุ 10 ปี ได้เดินทางมาอาศัยอยู่กับ นางสาวพิมพ์พร แผ่ทอง หมู่ที่ 13 ตำบลถ้ำกระต่ายทอง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร บุตรสาวคนโต เนื่องจากตนตาข้างขวาบอดจากการถูกลูกหลงกระสุนปืนเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว และเมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา ตาข้างซ้ายเริ่มมีอาการพร่ามัวจนมองไม่เห็น ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จึงได้เดินทางมาพักอาศัยอยู่กับบุตรสาว พร้อมกับบุตรชายตามที่เป็นข่าว

พูดถึงเรื่องเด็กทำแบบนี้ ถ้าช่วยกันส่งเสริม แต่ต้องพอดี พองาม อย่าให้มันหวือหวาเหมือนลุงแท็กซี่ได้เงินบริจาคถึง 10 ล้านบาท หรือยายคนนั้นที่เอาลูกของตัวเองกรอกน้ำยาล้างห้องน้ำ เพื่อเรียกคะแนนสงสาร แต่เด็กคนนี้ไม่ได้ทำอะไรในลักษณะเรียกคะแนนสงสาร เราสงสารสนับสนุนก็ต้องพอดีๆ อย่าให้เด็กเหลิง อาตมาเองก็สร้างอนุสาวรีย์ให้แม่ เอาไว้เป็นที่ระลึกในความดีงามของแม่ที่ให้การเลี้ยงดูเรามา

นอกจากนี้ ยังเคยทำมีเรื่องของเด็กหญิงวัลลี ณรงค์เวทย์ ตอนนั้นก็ฮือฮาสร้างเป็นภาพยนตร์ทำให้อนาคตของเด็กหญิงวัลลีตอนนั้นดีงามเป็นตัวอย่าง เป็นต้นแบบ ก็ต้องถือว่า โชคดีที่เมืองไทยเรามีเรื่องแบบนี้มาสลับฉากให้เรารู้สึกอบอุ่น ภูมิใจว่า เมืองไทย สายเลือดกตัญญูยังเข้มข้น ยังเข้มแข็ง ยังมีอยู่ต่อไปเรื่อยๆ สร้างความอบอุ่น ความรู้สึกประทับใจมาหลายๆครั้งหลายๆหน ยังไงก็ขอให้คนไทยให้กำลังคนดี เด็กดี แต่ว่า อย่าให้มากเกินไป และอย่าปล่อยให้เขาขาดแคลน ขัดสน ฝืดเคือง ข้นแค้น

ขอให้เขาอยู่ได้ แล้วเขาก็ได้ช่วยตัวเองของเขาไปเรื่อยๆ บางวันถ้าไม่ได้ไปรับจ้างบวชหน้าไฟงานจูงศพขึ้นเมรุอะไรก็ไปรับจ้างทำงานได้วันละ 50-70 บาท ก็พอที่จะเอามากิน มาใช้ เลี้ยงดูแม่ตาบอดได้ ก็ต้องขออนุโมทนาทั้งคนที่จะให้การช่วยเหลือ และตัวของเด็กที่สร้างคุณงามความดีในวัย 10 ปีนี่ ซึ่งต้องถือว่า ยังเล็กอยู่ แต่ว่า ความกตัญญูจิตใจยิ่งใหญ่ก็สามารถที่จะให้ข้าว ให้น้ำ ให้การเลี้ยงดูตอบแทนแม่ได้อย่างยอดเยี่ยม

ขอให้เป็นกำลังใจให้อยู่ทำความดีนี้เหมือนเกลือรักษาความเค็ม แต่ประชาชนต้องให้บทเรียนอย่าให้เขามากเกินไปจนเหลิงหลง และก็อย่าให้เขาขาดแคลน ขัดสน ฝืดเคือง ข้นแค้น ให้เขาอยู่ได้พอดี พองาม พอเหมาะ พอสม ให้เขาเรียกว่า ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมาน ให้เกิดความมีกำลังใจที่จะเลี้ยงดูแม่ต่อไป หวังว่า เรื่องอย่างนี้เราควรจะได้เพาะบ่มอบรม ให้การสนับสนุน สร้างสมเด็กดีไว้ประดับชาติอีกต่อไปนานๆ

อย่าทำชั่วไฟไหม้ฟาง และไม่ต้องให้จนล้นเหลือเฟือฟาย เอาพอเหมาะ พอดี ทางสายกลางกัน ไม่ใช่ว่า พอเห็นข่าวออกก็แห่กันบริจาคเงินเหมือนที่บริจาคให้กับลุงแท็กซี่ 10 ล้าน แม่ค้าร้องไห้หน่อยให้ 4-5 ล้านบาท อันนี้เราเอาพอดีๆก็แล้วกัน

 

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login