วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

อย่ากลบ‘ธรรมสังเวช’

On July 5, 2019

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 5 ก.ค. 62)

เรื่องงานศพ งานบวชของเมืองไทย มีอะไรแปลกๆอยู่ตลอด เมื่อไม่นานมานี้ก็มีเรื่องงานบวชที่มีการแห่กันอย่างสนุกสนานใกล้โรงเรียนวัด จนกระทั่งเกิดปัญหาตีรันฟันแทง ทำร้ายครู นักเรียนกันอย่างรุนแรง จนมีผู้ถูกจับ ถูกปรับ ติดคุกกันไปพอสมควร และมีคำพูดคำหนึ่งว่า “นี่มันงานบวช ไม่ใช่งานศพ ก็จะต้องสนุกกันอย่างนี้ ต้องเล่น ต้องสนุก ต้องดัง” จะให้สงบเหมือนงานศพได้ไง

ล่าสุดมีงานศพคุณยายคนหนึ่งชื่อยายปราณี วัย 66 ปี อยู่ที่ จ.ชลบุรี ได้สั่งเสียลูกหลานเรื่องจัดงานศพขอให้ครึกครื้น ทางครอบครัวจึงจ้างแตรวงคณะ “ประสิทธิ์สังคีต” ขนสมาชิกกว่าครึ่งร้อยร้องเล่นเต้นกันภายในวัดอย่างสนุกสนาน เรียกว่าแตกต่างจากงานศพโดยทั่วไป เนื่องจากยายปราณีได้สั่งเสียลูกหลานไว้ ไม่อยากให้จัดงานศพแบบโศกเศร้า อยากให้จัดงานกันแบบรื่นเริง ลูกหลานก็ทำให้ จึงสนุกสนานกันอย่างที่คุณยายต้องการ

การจัดงานศพอย่างสนุกสนานเป็นเรื่องที่แปลกและเพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ มีแต่ว่าเขาทำพินัยกรรมว่า อย่าให้มีโน่น มีนี่ อย่าให้เป็นเผาศพ เผาทรัพย์ อย่าให้คนมาสนุกสนานจนลืมนึกถึงมรณานุสติ ไม่คิดถึงความตาย คิดแต่สนุกกันไปจนกลบ “ธรรมสังเวช” คือธรรมที่ระลึกนึกถึงความตายแล้วก็เกิดสังเวชใจว่า ชีวิตอยู่ไปก็แค่นี้ แล้วจะเป็นเหตุให้ธรรมสังเวชไปลดความรุนแรงและความทะเยอทะยาน ยึดมั่น ถือมั่นในความมี ความเป็น

นั่นแหละเป็นประโยชน์ตรงนี้ ถ้าทำงานศพให้สงบแล้วเกิดธรรมสังเวช ให้พระเทศน์สอนเรื่องคนเป็นต้องหยุดความรุนแรง เพราะคนตายหยุดสนิทแล้ว ไม่รุนแรงกับใครแล้ว ก็เป็นเรื่องที่พระมาเทศน์ มาสอน ไม่ใช่เป็นเรื่องสนุกอย่างที่เป็นข่าวที่ จ.ชลบุรี ทำให้นึกถึงหลวงพ่อพุทธทาสที่ท่านได้เขียนพินัยกรรมในการจัดงานศพของท่านไว้อย่างยอดเยี่ยม บอกว่าไม่ต้องให้ใครมาสรงน้ำ ไม่ต้องมาสวด ไม่ต้องมาเผาศพ ให้ทำงาน ทำหน้าที่กันไป ไม่จำเป็นต้องให้คนแห่ไปกันมาก ท่านบอกว่าเสียเวลา

สมัยที่คุณชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ยังมางานเผาศพหลวงพ่อพุทธทาสไม่ทันเลย เพราะท่านไม่ให้บอกใคร แม้แต่อาตมาเองก็ยังไปไม่ได้ เพราะผู้จัดงานก็ทำตามที่หลวงพ่อพุทธทาสได้ทำเป็นพินัยกรรมไว้ เพราะฉะนั้นใครที่จะตายเป็นรายต่อไปอย่าเอาตัวอย่างคุณยายนี้เลย เพราะจะเสียธรรมเนียม จารีตประเพณีของการตายอย่างมีสติสัมปชัญญะคุมเชิงอยู่บ้าง

เอาแต่ความสนุกมาคุมงานกันมันจะเสียธรรมเนียมไทยๆไป จะกลายเป็นเผาศพ เผาทรัพย์ แล้วเอิกเกริก คึกคะนอง จะกลายเป็นเรื่องไม่มีมรณานุสติ ซึ่งเป็นที่ระลึกนึกรู้ว่าความตายจะมาถึง จะได้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ก็ขอฝากไว้อย่างนี้

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login