วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

กาอย่างไรไม่เสียของ

On March 8, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 8 มี.ค. 62)

เมื่อพรรคไทยรักษาชาติถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ ทำให้ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคถูกตัดสิทธิไปโดยปริยาย ในยุคที่การเมืองแบ่งเป็น 2 ขั้ว จึงเกิดคำถามว่าผู้สนับสนุนพรรคไทยรักษาชาติควรลงคะแนนอย่างไรไม่ให้เสียของ หากคิดชั้นเดียวก็ง่ายแค่ลงคะแนนให้พรรคใดก็ได้ที่มีแนวทางการเมืองแบบเดียวกัน หากมองจากความเป็นจริงที่พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง แต่ตามระบบใหม่จะไม่ได้ส่วนแบ่งโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อ มวลชนกลุ่มนี้ก็ต้องตีโจทย์ให้แตกว่าจะลงคะแนนอย่างไรให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อไปงอกเงยในพรรคการเมืองอื่นที่เห็นว่าอยู่ฝ่ายเดียวกัน

ไม่มีอะไรพลิกสำหรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี

ในรายละเอียดคำพิพากษาที่อธิบายยืดยาวสรุปออกมาสั้นๆได้ว่า การเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเป็นการกระทำที่เล็งเห็นผลที่จะได้รับทางการเมือง เป็นการดึงสถาบันมายุ่งเกี่ยวทางการเมือง ซึ่งขัดต่อหลักการประเพณีการปกครองที่สถาบันกษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมืองและเป็นกลางทางการเมือง จึงมีมติให้ยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี

ผลจากคำตัดสินทำให้ผู้สมัคร ส.ส. ทั้งแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักษาชาติถูกถอนสิทธิการเป็นผู้สมัครไปโดยปริยาย เพราะพรรคถูกยุบก่อนเลือกตั้ง

นับเป็นพรรคการเมืองที่มีอายุสั้นเพียง 6 เดือน ได้รับการรับรองเป็นพรรคการเมืองวันที่ 7 ตุลาคม 2561 และถูกศาลสั่งยุบวันที่ 7 มีนาคม 2562

แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่บ้างตรงที่กรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิล้วนเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ เป็นพวกตัวสำรองแถว 2 แถว 3 ไม่ใช่ตัวแสดงนำ แม้จะถูกตัดสิทธิไป 10 ปี ก็ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบมากนัก เพราะผู้เล่นหลักที่เหลือยังโยกย้ายไปอยู่พรรคอื่นและทำกิจกรรมทางการเมืองได้ต่อไป

เมื่อไม่มีพรรคไทยรักษาชาติสถานการณ์ในสนามเลือกตั้งก็ต้องเปลี่ยนไป เพราะใน 150 เขตเลือกตั้งที่ผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติถูกถอนสิทธิจากการยุบพรรค คะแนนของผู้สมัครเหล่านี้จะต้องถูกผ่องถ่ายไปยังพรรคการเมืองอื่น

ในสถานการณ์ที่การเมืองแบ่งออกเป็น 2 ขั้วชัดเจน พรรคการเมืองที่จะได้ประโยชน์จากการยุบพรรคไทยรักษาชาติคือพรรคการเมืองที่แสดงตนชัดเจนว่าเป็นพรรคที่มีแนวคิดทางการเมืองไปในทิศทางเดียวกันกับพรรคไทยรักษาชาติ เช่น พรรคเพื่อไทย เพื่อชาติ เสรีรวมไทย อนาคตใหม่ ประชาชาติ

ประเด็นที่น่าสนใจคือ มวลชนฝั่งนี้จะต้องลงคะแนนอย่างไรเพื่อให้ได้ผลตามต้องการมากที่สุด

ที่ผ่านมามีการคาดการณ์กันว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. มาเป็นอันดับหนึ่ง และด้วยระบบเลือกตั้งแบบแบ่งสันปันส่วนผสมแบบใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวจะทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้โควตา ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียว

จึงน่าสนใจว่าถ้าคะแนนของพรรคไทยรักษาชาติสวิงมาที่พรรคเพื่อไทยอาจจะกลายเป็นคะแนนที่สูญเปล่า โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยนอนมา

ถ้าคะแนนของพรรคไทยรักษาชาติไปกองรวมที่พรรคเพื่อไทยอาจเป็นคะแนนที่สูญเปล่า เพราะอย่างไรก็ไม่ได้ส่วนแบ่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ

แต่ปัญหาคือประชาชนผู้ลงคะแนนจะรู้ได้อย่างไรว่าเขตไหนผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยมีโอกาสชนะเลือกตั้งสูง ถ้าไปลงคะแนนให้พรรคแนวร่วมแล้วผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งจะกลายเป็นว่าเสียเปล่าทั้งขึ้นทั้งล่อง

ในเขตที่ไม่มีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยอาจไม่มีปัญหา แต่ในเขตที่มีผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ผู้สนับสนุนพรรคไทยรักษาชาติคงต้องคิดหนักว่าจะกาบัตรอย่างไรไม่ให้เสียเปล่า

เป็นหน้าที่ของฝ่ายการเมืองที่ต้องสื่อสารกับมวลชนให้ชัดเจนถึงแนวทางลงคะแนนเลือกตั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

อย่างไรก็ตาม ต้องสื่อสารอย่างแยบยลไม่โฉ่งฉ่าง เพราะอาจไปติดกับดัก “ฮั้ว” ทางการเมืองที่อาจพากันพังไปทั้งหมดได้


You must be logged in to post a comment Login