วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

‘ผังเมืองอีอีซี’สุดวิตถาร!

On October 10, 2018

คอลัมน์ โลกอสังหาฯ
‘ผังเมืองอีอีซี’สุดวิตถาร!
โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย
(โลกวันนี้วันสุข 12-19 ตุลาคม 2561)

มาถกกันให้ชัดๆว่าการผังเมืองอีอีซี (โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก – Eastern Economic Corridor : EEC) มีความไม่ชอบมาพากลอย่างไร ทำไมเขตเศรษฐกิจพิเศษใหญ่โตของชาติกลับไม่มีผังเมืองอะไรเลย ไม่ได้กำหนดอะไรเป็นชิ้นเป็นอันออกมา หรือหวังจะเอื้อประโยชน์กับภาคเอกชนกันเสียก่อน

“วิตถาร” แปลว่า “นอกแบบ นอกทาง (เกินวิสัยปรกติ)” ทั้งนี้ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ที่ว่าผังเมืองอีอีซีสุดวิตถารก็เพราะว่า ในการทำโครงการอะไรก็ตาม โดยเฉพาะเมืองใหม่ เขตเศรษฐกิจพิเศษ เราต้องมีผังเมืองมาเป็นจุดเริ่มต้นว่าอะไรจะอยู่ตรงไหน ทำสิ่งใดบ้าง หรืออะไรก่อนหลัง เช่น เราวางผังเมือง แม้เมืองมีมาก่อนผังเมือง เราก็พยายามที่จะวางผังเมืองให้เป็นการนำการพัฒนา (Guided Development) ไม่ใช่ปล่อยให้เมืองเติบโตไปส่งเดชโดยขาดการควบคุมเท่าที่ควร

อย่างตัวอย่างตอนที่เราสร้างเมืองใหม่บางพลี หรือเมืองชี้นำต่างๆ เราก็จะมีผังเมืองกำหนดก่อนว่าตรงไหนจะเป็นเขตอุตสาหกรรม เป็นเขตพาณิชยกรรม เป็นเขตที่อยู่อาศัย เป็นพื้นที่สีเขียว ฯลฯ ไม่ใช่ปล่อยให้สร้างกันเปะปะสับสนปนเป

ส่วนเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนทั้งหลาย ซึ่งเดี๋ยวนี้คงเลิก “ฮิต” ไปแล้ว เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว (https://bit.ly/2zVqAnh) ก็ยังมีการวางผังหรือกำหนดพื้นที่เขตอุตสาหกรรมต่างๆไว้ชัดเจน เขตเศรษฐกิจพิเศษตากก็มีการกำหนดการใช้ที่ดินไว้ชัดเจน (https://bit.ly/2Qz7Gbk) เป็นต้น

โสภณ

จะสังเกตได้ว่า “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ทั้งหลายนั้นมักกินพื้นที่ขนาดเท่าโครงการขนาดใหญ่โครงการหนึ่ง หรือตำบล หรือบางส่วนของอำเภอหนึ่ง เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงรายที่มี 3 อำเภอที่เกี่ยวข้อง (https://bit.ly/2BYWCAa) ไม่ใช่เลอะเปรอะเปื้อนลามไปถึง 3 จังหวัด (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง) แบบอีอีซี และสามารถประกาศเป็น 6-7 จังหวัด (สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด หรืออาจรวมถึงนครนายกด้วย) แค่ 3 จังหวัดก็ถือว่าเป็นภูมิภาคไปแล้ว ไม่ใช่เขตเศรษฐกิจพิเศษอะไร

เราคงยังจำได้ว่าไม่กี่เดือนมานี้มีการเดินขบวนของประชาชนเวียดนามทั้งในฮานอย โฮจิมินห์ซิตี และอื่นๆ ต่อต้านการที่รัฐบาลเวียดนามจะประกาศให้มีเขตเศรษฐกิจพิเศษ 3 แห่ง โดยแห่งหนึ่งตั้งอยู่ใกล้ชายแดนจีน คือที่อำเภอวันโด่น (Vân Đồn) จังหวัดก๋วงนินห์ (Quảng Ninh) ในครานั้นชาวเวียดนามถูกตำรวจจับไปนับพันคน แต่รัฐบาลก็ทานเสียงชาวบ้านไม่ไหวเลยเลื่อนการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ออกไป อย่างไรก็ตาม หากเราดูแผนที่จะเห็นได้ว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอหนึ่งเท่านั้น

คนเวียดนามเขาไม่ถูกมอมเมา มองออกและมองขาดว่า ขืนให้มีเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้มหาอำนาจจีนคงเป็นรายเดียวที่มาลงทุน เพราะติดชายแดนจีน คงไม่มีชาติอื่นมาแหย็มแน่นอน และด้วยเหตุนี้ชาวเวียดนามคงเห็นแล้วว่าจีนคงมาครอบงำชาติแน่นอน รัฐบาลเวียดนามอาจเห็นแก่ตัวเลขความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อความมั่นคงของเก้าอี้ของตัวเองหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ

สำหรับในพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ปรากฏมีข่าวว่า “ประชาพิจารณ์ผังอีอีซี (พฤศจิกายน 2561) กรมโยธาฯเร่งเต็มสูบก่อนประกาศใช้ปลายปีหน้า” ซึ่งก็แปลว่า

1.เรามีเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่ไม่มีผังเมือง

2.ที่ว่าปลายปีหน้าก็ไม่แน่ว่าจะได้ ทุกอย่างก็เคยเลื่อนไปได้เรื่อยๆ

3.ผังอีอีซีจะรวมแค่ 3 จังหวัด หรือ 7-8 จังหวัดในภาคตะวันออก เพราะอีกสักพักอีอีซีก็คงมีประกาศเพิ่มเป็น 7-8 จังหวัดเข้าไปแล้ว ผังนี้จะล้าสมัยหรือไม่

ในอีกด้านหนึ่งก็มีข่าว “ซีพีกว้านที่นา 2 อำเภอ ขึ้นเมืองใหม่แปดริ้ว” (http//bit.ly/2wRI5ml) ระบุว่า “ปิดพิกัดที่ดินหมื่นไร่ “เจ้าสัวซีพีผุดสมาร์ทซิตีระหว่างบ้านโพธิ์ไปแปลงยาว…อีกจุดสถานีจอมเทียนเตรียมขึ้นเมืองมิกซ์ยูส ด้าน “สุรพงษ์” มือขวา “คีรี” ระบุไร้ปัญหาหาก ปตท. วิ่งซบซีพี มั่นใจชนะประมูล…เป้าหมายประมาณ 10,000 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นเมืองใหม่และนิคมอุตสาหกรรม ทำเลตั้งอยู่ระหว่าง อ.บ้านโพธิ์ไปทาง อ.แปลงยาว ห่างจากสถานีรถไฟความเร็วสูงประมาณ 20 กิโลเมตร ล่าสุดได้ซื้อที่ดินซึ่งเป็นที่นาจากชาวบ้านแล้วบางส่วน ราคาเฉลี่ย 1 ล้านบาทต้นๆต่อไร่ และแปลงด้านในต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อไร่ ซึ่งที่ตั้งของแปลงที่ดินสามารถเชื่อมระหว่างเมืองอีอีซี ทั้งไปทาง จ.ชลบุรี ระยอง และเข้า อ.แปลงยาว เขตที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมได้สะดวก”

นี่คงให้คำตอบว่าทำไมจึงไม่มีการวางผังเมืองล่วงหน้า ทำไมจนป่านนี้ผังเมืองยังไม่เกิด ก็เพราะพวก “เจ้าสัว” ยังรวบรวมที่ดินไม่เสร็จ ขืนออกผังเมืองออกมาให้เป็นพื้นที่สงวนเพื่อเกษตรกรรม เหล่า “เจ้าสัว” ก็เจ๊งนั่นเอง ปรกติแล้วในเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งหลายเขากำหนดเป็นเขตเล็กๆคล้ายกับเมืองใหม่หรือนิคมอุตสาหกรรม แต่นี่เรากำหนดทั้ง 3 จังหวัด และสามารถขยายได้ทั้ง 6-7 จังหวัดในภาคตะวันออกโดยไม่ต้องออกพระราชบัญญัติใหม่ และยังอาจลามไปทั่วประเทศ

ถ้าคิดให้ดีจะมีความต้องการเมืองใหม่ หรือตามแผนคร่าวๆในอีอีซี ระบุว่าจะมีเมืองใหม่ ฉะเชิงเทรา พัทยา และระยอง ซึ่งเมืองใหม่ฉะเชิงเทรากำลังจะได้รับการปั้นโดยกลุ่มเจ้าสัว ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ ในเมืองใหม่เหล่านี้ต่อไปมหาอำนาจทั้งหลายโดยเฉพาะจีนจะสามารถมาซื้อได้ทั้ง 100% ภาษีก็ไม่ต้องเสีย (แต่คนไทยในพื้นที่อื่นทั่วประเทศต้องเสียภาษี) ต่อไปก็ใช้เงินตราต่างประเทศได้โดยใช้เงินบาทแค่เศษเงินทอนแบบในกัมพูชา ต่อไปจะถือว่ามีเขตเช่าอาณานิคมจีนบนแผ่นดินไทยแน่นอน

ในนานาอารยประเทศ การวางผังเขตเศรษฐกิจพิเศษรัฐบาลควรกำหนดไว้เลยว่าตรงไหนจะทำอะไร เพื่อให้เกิดการประสานสัมพันธ์กับแผนและผังอื่นๆ การจะเวนคืนที่นับหมื่นนับแสนไร่ก็จะต้องมีการจ่ายค่าทดแทนที่เป็นธรรมตามมาตรฐานสากล ที่เวนคืนตรงไหนจะนำมาทำอะไร โดยในบริเวณนั้นๆก็จะต้องจัดให้มีการประมูลเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ไม่ใช่ปล่อยให้ “เจ้าสัว” ไปกว้านซื้อตามชอบใจแล้วค่อยมาบรรจุลงไปในแผน อย่างนี้จะเป็นการเอื้อนายทุน เอื้อต่างชาติ โดยคนไทยแทบไม่ได้อะไรหรือไม่

ฤาบางประเทศชอบแต่ทำโครงการใหญ่ๆที่นายทุนใหญ่ๆได้ประโยชน์ และมีบางคนได้เงินทอน เจริญพวงแน่พี่น้องงง


You must be logged in to post a comment Login