วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

แท็กทีม‘ลุงตู่’

On April 18, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

เปิดตัวเป็นทีม “ลุงตู่” อีกกลุ่มสำหรับพรรคพลังชลของตระกูล “คุณปลื้ม” เมื่อ 2 พี่น้องเจ้าของพรรค “สนธยา-อิทธิพล” ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ทำให้เริ่มต่อภาพจิ๊กซอว์ทางการเมืองได้ชัดเจนขึ้นเมื่อรวมพลังเฉพาะกิจกับกลุ่มบ้านริมน้ำ สายสัมพันธ์เก่าๆในอดีต ส.ส.กลุ่ม 16 ที่ต่างเติบโตทางการเมือง มีไพร่พลเป็นของตัวเอง และกลุ่ม กปปส. ภารกิจที่ว่ายากอาจกลายเป็นง่าย เพราะครั้งนี้เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่ต้องชนะเลือกตั้ง ขอแค่มีเสียงมากพอเป็นตัวแปรโหวตเลือกนายกฯในบัญชีพรรคการเมือง ซึ่งภารกิจนี้ไม่ยาก เพราะ 2 พรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยไม่คิดร่วมหอลงโรงกันอยู่แล้ว

อย่างที่บอกไว้ก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ว่า หลังเสร็จงานสาดน้ำรื่นเริง ภาพการเมืองที่อึมครึมคลุมเครือก่อนหน้านี้จะเริ่มมีความชัดเจนขึ้น

เปิดทำงานวันแรก 17 เมษายน ประเดิมด้วยการเปิดตัวทีม “ลุงตู่” ที่จะมาร่วมทำภารกิจให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กลับมาครองอำนาจหลังเลือกตั้ง

เมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง โดยให้นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

เท่านั้นยังไม่พอ ยังแต่งตั้งให้นายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อีกด้วย

การมีตำแหน่งในรัฐบาลเท่ากับประกาศตัวว่าเป็นทีม “ลุงตู่” ไม่ว่าจะยังทำพรรคพลังชลต่อไป หรือยกพรรคให้คนอื่นมาสวมสิทธิบริหารจัดการ หรือปิดบ้านย้ายไปอยู่สังกัดใหม่ที่มีข่าวว่าจะตั้งขึ้นภายในเดือนมิถุนายน

เป็นอันว่าทีม “ลุงตู่” ได้ผู้เล่นหน้าเก่าเก๋าเกมเจ้าของพื้นที่ภาคตะวันออกมาเป็นกำลังเสริมสำคัญ

การันตีด้วยตัวเลข ส.ส. เฉพาะพื้นที่จังหวัดชลบุรีจากการเลือกตั้งครั้งหลังสุดวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ด้วยจำนวน 6 ที่นั่ง จากทั้งหมด 7 ที่นั่ง

แม้จะพยายามแผ่อิทธิพลให้ครอบคลุมภาคตะวันออกทั้งหมด แต่ยังไม่สามารถสู้บารมีของพรรคประชาธิปัตย์ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อผนึกกำลังกับกลุ่มบ้านริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา ที่มีกระแสข่าวว่าจะมาร่วมทีม “ลุงตู่” ด้วย ซึ่งกลุ่มนี้มีอดีต ส.ส. อยู่ในสังกัดแต่ฝากพรรคอื่นดูแลไว้กว่า 20 คน ทุกคนพร้อมกลับมารวมตัวกันเมื่อได้รับสัญญาณรวมพล

เป้าหมายที่จะต้องได้ ส.ส. อย่างน้อย 50 ที่นั่ง ไม่น่าจะเป็นเรื่องไกลเกินฝัน

ต้องไม่ลืมว่าไม่ใช่มีแค่กลุ่มชลบุรี กลุ่มบ้านริมน้ำ ก่อนหน้านี้ นายสกลธี ภัททิยกุล และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำ กปปส. ก็เข้าพบพูดคุยกับหัวหน้าค่ายอย่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มาแล้ว ก่อนที่จะตามมาด้วยการแต่งตั้งให้นายสกลธีเป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)

ว่ากันว่าการตั้งให้เป็นรองผู้ว่าฯ กทม. ก็เพื่อให้มีเหตุผลในการยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

ถ้าไม่มีเป้าหมายอื่นใครจะเอาอนาคตทางการเมืองไปเสี่ยงกับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. ที่มีเวลานั่งทับอำนาจได้ไม่นาน

ก้นยังไม่ทันร้อนก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งหากเป็นไปตามโรดแม็พการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อาจเกิดขึ้นช่วงไตรมาส 3 หรือไตรมาสสุดท้ายของปี

นอกจาก 3 กลุ่มก้อนอย่าง กปปส. บ้านริมน้ำ และกลุ่มชลบุรี ที่เปิดตัวเป็นทีม “ลุงตู่” แล้ว ยังมีอดีต ส.ส. ที่ไม่ยึดติดพรรค มั่นใจฐานเสียงตัวเอง พร้อมย้ายค่ายมารวมตัวกันเฉพาะกิจด้วย เช่น นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต ส.ส.สิงห์บุรี พรรคชาติไทย ที่เข้าฝากเนื้อฝากตัวกับนายสมคิดมาแล้ว

ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่านายสุชาติและนายสนธยาเคยเป็นอดีตสมาชิก ส.ส.กลุ่ม 16 กลุ่ม ส.ส.ดาวรุ่งรุ่นใหม่ต่างพรรคที่รวมตัวกันทำงานการเมืองในช่วงหลังรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร เช่น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ นายเนวิน ชิดชอบ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์  นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต ส.ส.ราชบุรี นายเกษม รุ่งธนเกียรติ อดีต ส.ส.สุรินทร์ เป็นต้น

หากทั้งหมดกลับมารวมกันเฉพาะกิจอีกครั้ง ภารกิจที่ว่ายากอาจกลายเป็นง่าย เพราะครั้งนี้เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่ต้องชนะเลือกตั้ง

แต่อยู่ที่ให้ได้ ส.ส. ไม่ต่ำกว่า 50 ที่นั่งในสภา เพื่อเป็นตัวแปรสำคัญในการโหวตเลือกนายกฯในบัญชีพรรคการเมือง ทำอย่างไรก็ได้ให้มีเสียงสนับสนุนคนในบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองไม่ถึง 375 เสียง

ภารกิจนี้ไม่ยาก เพราะ 2 พรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยไม่คิดร่วมหอลงโรงกันอยู่แล้ว


You must be logged in to post a comment Login