วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

‘ทรัมป์’เตือน‘ซีเรีย’ใช้อาวุธเคมี

On April 11, 2018

ประธานาธิบดีสหรัฐให้คำมั่นสัญญาว่าสหรัฐจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและเด็ดขาดเพื่อตอบโต้การใช้อาวุธเคมีโจมตีในซีเรีย ซึ่งอาจหมายถึงการใช้มาตรการทางทหาร

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวระหว่างการประชุมร่วมกับผู้นำกองทัพและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติว่า จะตัดสินใจเกี่ยวกับการตอบโต้การใช้อาวุธเคมีโจมตีในซีเรีย พร้อมกล่าวด้วยว่าสหรัฐมีทางเลือกทางทหารหลายแนวทางในซีเรีย สหรัฐไม่สามารถปล่อยให้มีการใช้อาวุธเคมีในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐมีความสามารถที่จะหยุดยั้งได้

ประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อาจจะสนับสนุนการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย ในขณะที่ทั้งรัฐบาลซีเรียและรัสเซียต่างปฏิเสธ

ทางด้านนิกกี้ ฮาลีย์ ทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะตอบโต้การใช้อาวุธเคมีโจมตีในซีเรีย ไม่ว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะดำเนินการอย่างไรหรือไม่ก็ตาม เหตุการณ์ต้องสงสัยว่ามีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ในเมืองโดมา ใกล้กับกรุงดามัสกัส นครหลวงของซีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน และบาดเจ็บอีกมากกว่า 100 คน หลังจากนั้น 2 วัน ทำเนียบขาวสหรัฐเปิดเผยว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นมีรูปแบบเดียวกับอาวุธเคมีที่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย เคยใช้ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่าเป็นอาวุธเคมีชนิดใด และไม่สามารถกล่าวยืนยันได้ 100% ว่ากองทัพของประธานาธิบดีอัสซาดอยู่เบื้องหลัง

สื่อมวลชนรัสเซียรายงานอ้างแถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมรัสเซียว่า เครื่องบินขับไล่ F-15 ของกองทัพอิสราเอล 2 ลำ ถล่มฐานทัพอากาศของซีเรีย และมีขีปนาวุธ 8 ลูก ถูกยิงมาจากดินแดนเลบานอน แต่ไม่เข้าน่านฟ้าของซีเรีย ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียยิงทำลายขีปนาวุธได้ 5 ลูก ส่วนขีปนาวุธอีก 3 ลูก ตกลงทางตะวันตกของฐานทัพอากาศ อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้เชี่ยวชาญของรัสเซียที่ประจำอยู่ในซีเรียได้รับอันตรายแต่อย่างใด

กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรียเปิดเผยว่า มีนักรบเสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน ด้านสื่อมวลชนของทางการซีเรียนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่ไม่ได้ระบุจำนวน ทั้งนี้ ฐานทัพอากาศ T-4 ตั้งอยู่ในจังหวัดฮอมส์ทางตอนกลางของซีเรีย เป็นที่ทราบกันว่ากำลังจากกองกำลังพันธมิตรทั้งรัสเซียและอิหร่าน รวมทั้งนักรบจากกลุ่มฮิซโบลเลาะห์ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน


You must be logged in to post a comment Login