วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

อริยสัจ4 / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On April 28, 2017

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

การไหว้ครูเป็นการทำพิธีเพื่อรำลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ หรืออาจเป็นเรื่องความเชื่อทางไสยศาสตร์ที่ตนเองเชื่อมั่นนั้น แต่ร่างทรงที่สันกำแพง เชียงใหม่ ร่ายรำทำพิธีตามความเชื่อผีสางแล้วใช้มีดดาบแทงหน้าอกตัวเองตัดเส้นเลือดใหญ่ตาย เป็นความเชื่อแบบเดรัจฉานวิชา เพราะเป็นวิชาที่ไม่ได้ดับทุกข์ แต่กลับไปเพิ่มทุกข์

เพราะฉะนั้นเรื่องความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แล้วไปทดลองกับตัวเองจนบาดเจ็บล้มตาย มีมามากมายและคงจะมีต่อไป ตราบใดที่มนุษย์ยังงมงายเครื่องลางของขลัง ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่ายายแก่คนหนึ่งยิงไม่เข้า แต่ไม่ใช่เป็นได้กับทุกคน เป็นเรื่องของช่วงเวลา ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นธรรมสัจจะ เฉพาะกาล เฉพาะเวลา เฉพาะคน มันมีช่วงจังหวะและเวลา เมื่อผิดพลาดก็บาดเจ็บล้มตาย บาดเจ็บ

เรื่องพวกนี้สำหรับคนที่เชื่อมั่นก็อาจมีบางคนที่รอดปลอดภัย แต่พวกที่อวดศักดา อวดอภินิหาร หนังเหนียวต่างๆ มักจะไม่รอด เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของโลภะ โทสะ โมหะของคนที่วนอยู่อย่างนี้แหละ

ถามว่านี่บอกว่าอยู่ยงคงกระพัน หนังเหนียวนั้น เมื่อเกิดโลภแล้วเกิดโมหะจะทำอย่างนี้เป็นอย่างนี้ ให้ตัวเองโด่งดัง แต่สุดท้านก็ล้มโครม ชีวิตจบสิ้น เพราะมันผิดทาง พระพุทธเจ้าจึงบอกให้เดินไปสู่ทางที่จะดับทุกข์ รู้ถึง “อริยสัจ 4” เรียนรู้ถึงทุกข์ เหตุของทุกข์และวิธีดับทุกข์ เรียนให้รู้ เรียนให้ดี ชีวิตก็จะอยู่รอดปลอดภัย

ถ้าเรียนเรื่องของขลัง ของศักดิ์สิทธิ์ อภินิหาร แม้หนังเหนียว แต่ไม่ได้ทำให้ดับทุกข์ดับปัญหา แต่ทำให้ทรนงตน ย่ามใจ เหลิงกับความศักดิ์สิทธิ์ ในที่สุดก็หมดไปสิ้นไป

อาตมาเองในชีวิตตั้งแต่เด็ก เห็นเรื่องความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ของญาติผู้ใหญ่เก่าๆในอดีต มีคาถาเสกเป่าอะไรต่างๆ กันน่าดู จะกินข้าวอิ่มแต่ละมื้อก็น่ารำคาญ ต้องปั้นเสก กว่าจะได้กินแต่ละคำ ต้องเรียกแม่ธรณี แม่คงคามาคุ้มครองรักษา ร่ายมนต์ไปกินข้าวไป จะกินอะไรก็ต้องเสกเป่า ที่น่าสมเพชเวทนาคือไปรบราฆ่าฟันกัน ตีรันฟันแทงเขา เอาจอบเอาเสียมตีก้านคอ ตีก้านหู ไม่ตาย หนังเหนียว แต่ช้ำข้างในจนหนองไหลออกทางหู ทุกข์ทรมานมาก

นี่เป็นเดรัจฉานวิชาที่ทำให้คนย่ามใจ ฮึกเหิม แล้วก็ไปรังแกข่มเหงคนอื่นอีก บางครั้งก็จะต้องอวดศักดาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีอะไรที่เป็นจริง เพราะวิชาเหล่านี้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง บางทีข้างขึ้นดี ข้างแรมไม่ดี มันยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมากมาย เรียนแล้วต้องไม่เหลิง ไม่ย่ามใจ ไม่กำเริบเสิบสาน ไม่อวดศักดา ถึงจะเรียกว่า “คมในฝัก” ไม่ใช่ “คมนอกฝัก” แทงตัวเองให้คนอื่นดู เพื่อจะได้รู้ว่าหนังเหนียว ผลสุดท้ายก็ตายจากโลกนี้ไป เพราะความลุ่มหลงงมงาย ก็ขอให้ชาวไทย ชาวพุทธมุ่งเรียนรู้ถึงอริยสัจ 4 แก้ปัญหาความทุกข์ดีที่สุด จะได้อยู่สบาย อยู่ปลอดภัย

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login