นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า จากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้นายทะเบียนพรรคการเมืองยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาตินั้น เมื่อตรวจสอบข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องพบว่า มติ กกต. ที่ให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติอาจไม่ชอบด้วย พ.ร.ป.พรรคการเมือง และระเบียบ กกต. เนื่องจากอาจมีการไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอน ดังนั้น วันนี้ (14 ก.พ.) ในเวลา 11.00 น. ตนจะไปยื่นหนังสือให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาไม่รับคำร้องของ กกต. ไว้วินิจฉัย

ที่สำนักงานศาลปกครอง นายประทีป คงสิบ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายข่าวและเนื้อหารายการ สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี เข้ายื่นคำฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักงาน กสทช. ต่อศาลปกครองกลาง กรณี กสทช. มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตสถานีวอยซ์ทีวี 15 วัน ด้วยเหตุผลว่ามีการนำเสนอรายงานข่าวหลายรายการที่มีลักษณะส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง โดยสถานีวอยซ์ทีวีได้มีการยื่นคำขอต่อศาลปกครองกลางเพื่อขออุทธรณ์คำสั่ง กสทช. ดังกล่าว และขอให้ศาลปกครองกลางไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้จอดำ เพื่อให้สถานีกลับไปดำเนินรายการได้ตามปรกติ โดยนายประทีปกล่าวว่า เหตุผลที่มายื่นคำร้องในวันนี้มี 3 ประเด็นหลักคือ 1.การสั่งปิดสถานีวอยซ์ทีวีกระทบกับความเสียหายทางธุรกิจของบริษัทอย่างรุนแรง ซึ่งตัวเลขความเสียหายเท่าที่ประเมินไว้ประมาณ 76 ล้านบาท โดยเป็นการประเมินจากโอกาสเรื่องโฆษณาในช่องทางต่างๆของทางสถานีเป็นระยะเวลา 15 วันที่ถูกสั่งปิด แต่การเรียกร้องค่าเสียหายตรงนี้คงจะเป็นขั้นตอนต่อไป...

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า สถานการณ์ของบ้านเมืองในช่วงเวลาที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นภาพความเป็นจริงหลายอย่าง ซึ่งผมคิดว่าทุกภาคส่วนในสังคมไทยต้องตั้งสติและร่วมมือกันทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เพื่อช่วยนำพาให้ประเทศเดินต่อไปข้างหน้าได้ พรรคการเมืองต้องช่วยกันสร้างบรรยากาศการเมืองสร้างสรรค์ ช่วยกันนำเสนอนโยบายให้ประชาชนได้ตัดสินใจ หลีกเลี่ยงการให้ร้ายป้ายสี สร้างความเกลียดชังระหว่างกัน กกต. ในฐานะองค์กรอิสระที่มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งต้องมีความเป็นอิสระในการทำงานอย่างแท้จริง จัดการเลือกตั้งให้มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ รัฐบาลควรมีมารยาททางการเมือง แม้วันนี้จะไม่ได้อยู่ในสถานะรัฐบาลรักษาการ แต่วันนี้ผู้นำรัฐบาลกลายเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมืองหนึ่ง ท่านคือหนึ่งในผู้เล่นในการเลือกตั้งครั้งนี้ ดังนั้น ควรอย่างยิ่งที่จะต้องเคร่งครัดกับการทำตามกติกา ไม่สร้างภาระให้กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วยการอนุมัติงบประมาณก้อนใหญ่ โยกย้ายข้าราชการ ในภาวะที่ทุกฝ่ายกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และที่สำคัญที่สุดคือ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้การเลือกตั้งมีความยุติธรรม รวมทั้งการทำหน้าที่ที่สำคัญด้วยการออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้ง เพื่อตัดสินเลือกอนาคต เลือกทางเดินของประเทศด้วยตัวท่านเอง “ทุกส่วนที่ได้กล่าวถึงล้วนเป็นกลไกที่จะช่วยกันขับเคลื่อนประเทศให้เดินไปข้างหน้าได้ เพื่อส่งมอบประเทศที่มีความมั่นคงแข็งแรง มีอนาคตให้กับลูกหลาน มิใช่ประเทศที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง และพลังที่จะช่วยให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้นั้นคือ พลังของความรัก ความปรารถนาดีที่มีต่อกัน มิใช่พลังของความเกลียดชังที่จะทำลายทุกสิ่งที่เห็นต่างกับตน”...

ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายสุรชัย ชินชัย ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญส่งสำเนาคำร้องยุบพรรคของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้แก่ ทษช. โดยระบุว่า หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ กกต. ก็ขอให้ศาลส่งสำเนาคำร้องให้แก่ ทษช. เพื่อที่พรรคจะได้มีโอกาสโต้แย้ง ชี้เเจ้งข้อกล่าวหา ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย รวมทั้งเเสดงพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุ เพื่อประกอบการพิจารณาและวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมขอชี้เเจงต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า การปฏิบัติของ กกต. เป็นการข้ามขั้นตอน ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และไม่ปฏิบัติตามกฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ซึ่งต้องแจ้งให้คู่กรณีทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวนและกรรมการ แต่ปรากฏว่า กกต. กลับทำมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่แจ้ง ทษช. ก่อน เปรียบได้กับตำรวจส่งฟ้องคดีต่อศาลโดยไม่สอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาก่อน ซึ่งการกระทำของ กกต. กระทบกระเทือนสิทธิของ ทษช. จึงเสนอคำร้องเสนอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมกิจกรรม “เพิ่มและขยายพันธุ์ไม้ป่าชายเลน” กับประชาชนด้วยการยิงเม็ดแสมเข้าสู่ป่าชายเลน ณ จุดชมวิวป่าชายเลนทะเลกรุงเทพ เขตบางขุนเทียน จากนั้นเดินทางจากจุดชมวิวป่าชายเลนทะเลกรุงเทพโดยรถจักรยานไปยังท่าเรือเจ้าแม่ศรีนิล ก่อนล่องเรือตามเส้นทางศรีกุมารกลับมายังท่าเรือแพรขวัญใจ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ถึงมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่า “ไม่เกี่ยวอะไรกับผม ไปถามคนที่ยุบนู่น” เมื่อถามว่ามองว่าเป็นการเร่งรัดเกินไปหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็ไม่รู้สิ ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อถามว่าคิดว่าสถานการณ์จะวุ่นวายและมีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่มีหรอก ประชาชนเขารู้ อย่าไปดูถูกประชาชนเขาก็แล้วกัน และตนก็ไม่ได้มีข้อกังวลอะไร จะไปกังวลอะไรล่ะ ตนก็ทำงาน กังวลกับงานของตน ยังไม่เสร็จตั้งเยอะแยะ ตนกังวลกับงานของตนดีกว่า คนอื่นเขามีหน้าที่กันอยู่แล้ว ก็ให้เขาทำหน้าที่กันต่อไป เข้าใจไหม...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลฎีกามีคำพิพากษาสั่งจำคุก 6 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยคดีบุกทำเนียบรัฐบาลเมื่อปี 2551 ปรากฏว่าในจำนวนนี้มีแกนนำ 2 คนที่มีรายชื่อเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองไปเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาคือ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย โดยมีรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรคด้วย ขณะที่นายสุริยะใส กตะศิลา มีรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ลำดับที่ 7 ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (6) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42 (8) กำหนดลักษณะต้องห้ามบุคคลที่ห้ามใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำคำร้องของ กกต. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 แล้ว ล่าสุดสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องไว้ในทางธุรการ และอยู่ระหว่างการตรวจคำร้อง โดยสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะเสนอคำร้องดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เวลา 13.30 น.

ที่ ม.สยาม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าจะไม่ดีเบตกับนักการเมืองคนไหน และขออย่าไปฟังนักการเมืองดีแต่พูดแต่ปฏิบัติไม่ได้ ว่า เป็นสิทธิของท่าน แต่การดีเบตของผู้ที่จะอาสามาบริหารประเทศเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ การเลือกคนมาบริหารและดูแลทรัพยากรประเทศนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ผู้สมัครต้องแสดงวิสัยทัศน์ อันเป็นสิ่งที่ผู้สมัครในระบอบประชาธิปไตยสากลทำกัน และขอย้ำว่าตนขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งที่ทับซ้อนทางผลประโยชน์ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นผู้แต่งตั้ง ส.ว. 250 คน ที่มีอำนาจโหวต พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯได้อีกสมัย ทับซ้อนทางผลประโยชน์อย่างชัดเจน ขอให้แสดงสปิริตและมารยาททางการเมืองลาออกจากทั้ง 2 ตำแหน่ง เมื่อถามถึงจุดยืนการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักษาชาติที่มีการเสนอบัญชีนายกฯที่ไม่ได้เป็น ส.ส. อยู่ด้วย นายธนาธรกล่าวว่า ขอพูดให้ชัด จุดยืนของพรรคคือไม่เอาการสืบทอดอำนาจ คสช....

ที่พรรคไทยรักษาชาติ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค และนายพิชิต ชื่นบาน ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคไทยรักษาชาติ โดย ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่าอยู่ในขั้นตอนกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ หากทราบรายละเอียดคำร้องแล้วจะให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงเวลา 15.00 น. จะมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอใช้สิทธิรับทราบข้อกล่าวหาเพื่อชี้แจงพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ยังงงๆว่าในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา กระบวนการเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ดังนั้น จึงอยากขอใช้สิทธิในฐานะพรรคการเมือง เมื่อถามถึงการเดินหน้าหาเสียงหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า ขณะนี้ทีมหาเสียงของเราที่แบ่งเป็น 7 ทีมยังลงพื้นที่อยู่อย่างต่อเนื่อง และผู้ประสานงานของพรรคก็ประสานงานกับ ส.ส. โดยตลอด ส่วนแกนนำพรรคในส่วนกลางจะพิจารณาเรื่องการลงพื้นที่ในอาทิตย์หน้า เพราะอาทิตย์นี้รู้สึกว่าทุกอย่างชุลมุนพอสมควร...

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาสั่งพิพากษาจำคุก 8 เดือนไม่รอลงอาญา 6 แกนนำ พธม. บุกทำเนียบรัฐบาลเมื่อปี 2551 ว่า นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรครวมพลังประชาชาติไทย จะหมดโอกาสเข้าไปทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนในสภา รวมทั้งจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองทันทีนานถึง 10 ปี ยอมรับตรงๆว่าเสียดายคนหนุ่มอนาคตไกลคนนี้ เพราะจากการที่ได้รู้จักและสัมผัสการทำงาน เห็นว่านายสุริยะใสมีเลือดนักสู้เต็มเปี่ยม อย่างไรก็ตาม ทางพรรคได้เร่งเข้าไปดูแลครอบครัวของนายสุริยะใสเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว ซึ่งเลือกที่จะต่อสู้คดีจนถึงที่สุดโดยไม่คิดจะหลบหนีเหมือนนักการเมืองบางคน ด้านนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการบริหารพรรค รปช. กล่าวว่า คุกขังนายสุริยะใสได้แต่กาย แต่กั้นขวางจิตวิญญาณของเขากับเราไม่ได้ แม้จะสูญเสียสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่เขาจะกลายเป็นวีรบุรุษในคุก และเวลา...

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าจะไม่ขึ้นเวทีดีเบตกับใคร ว่า อยากให้ทุกคนเข้าใจกระบวนการประชาธิปไตยว่าคนที่อาสามาเป็นผู้นำของประเทศต้องพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และนโยบาย เพื่อที่ประชาชนจะได้ทราบและมีสิทธิเปรียบเทียบ เพราะการสื่อสารเพียงข้างเดียวไม่ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ซักถาม หรือแลกเปลี่ยนวิพากษ์วิจารณ์ใช้เหตุผลกัน ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าอย่าไปฟังคนที่พูดมากแต่ไม่ปฏิบัตินั้น ตนอยากบอกว่าในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ไม่มีใครพูดมากเท่า และคนที่พูดไม่เก่งก็ไม่ได้แปลว่าจะทำงานดี นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเพิ่มงบประมาณสำหรับบัตรทองอีก 1.9 แสนล้านบาทว่า ประชาชนคงเข้าใจว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงการอนุมัติงบประมาณอะไรที่ผิดไปจากเดิมจากที่เคยทำมา 4-5 ปี ทั้งนี้ รัฐบาลชุดนี้ไม่เหมือนรัฐบาลในอดีตในช่วงการเลือกตั้ง เพราะมีอำนาจเต็ม จึงได้บอกไปแล้วว่าอยากให้ช่วยกันทำให้เกิดบรรยากาศการแข่งขันที่เป็นธรรม แต่จะทำหรือไม่ถือเป็นสิทธิของรัฐบาล สิ่งที่อยากเตือนคือ ประชาชนไม่ชอบคนเอาเปรียบคนอื่น