- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 7 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 7 months ago
- โลกธรรมPosted 7 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 7 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 7 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 7 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 7 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 7 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 7 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 7 months ago
ปุจฉาชีวิต : ลิขิตก่อนเกิด

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 19 ก.ย. 68 )
นบีมุฮัมมัดเกิดเมื่อ ค.ศ.570 ในคาบสมุทรอาหรับที่ไร้อารยธรรม ในเวลานั้น ชาวอาหรับส่วนใหญ่ไม่รู้หนังสือและนบีมุฮัมมัดก็เป็นผู้ไม่รู้หนังสือเช่นกัน แต่เหตุผลที่พระเจ้าเลือกนบีมุฮัมมัดเป็นผู้รับคัมภีร์กุรอานที่ใช้ภาษาอันสูงส่งก็เพื่อไม่ให้มนุษย์คนใดอ้างว่าท่านเป็นผู้เขียนคัมภีร์กุรอานขึ้นมา
คัมภีร์กุรอานถูกประทานมาเพื่อเป็นทางนำในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ดังนั้น ในคัมภีร์กุรอานจึงมีเรื่องราวของมนุษย์รวมอยู่ด้วย แต่รายละเอียดบางอย่าง นบีมุฮัมมัดได้รับเอกสิทธิ์ให้เป็นผู้อธิบาย
เรื่องชีวิตมีหลากหลายมิติ คัมภีร์กุรอานบอกว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์มาจากดินและส่งมนุษย์คู่แรกมายังโลกใบนี้เพื่อแพร่ขยายเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่เรื่องการเกิดของมนุษย์ขณะอยู่ในครรภ์และความเป็นไปของมนุษย์บนโลกใบนี้ ท่านนบีมุฮัมมัดได้พูดไว้ตอนหนึ่งว่า
“วิธีการที่พวกท่านแต่ละคนถูกสร้างมาก็คือ ท่านได้ถูกรวมเข้าไว้ในรังไข่ของแม่เป็นเวลาสี่สิบวันในตอนที่เป็นเชื้ออสุจิ หลังจากนั้นในระยะเวลาเท่าๆกันก็เป็นก้อนเลือด และหลังจากนั้นก็เป็นก้อนเนื้อในเวลาเท่าๆกัน หลังจากนั้น ทูตสวรรค์(มลาอิก๊ะฮฺ)องค์หนึ่งจะถูกส่งมาเป่าวิญญาณเข้าไปในท่านและมีหน้าที่ทำตามคำบัญชาสี่ประการ นั่นคือ กำหนดปัจจัยยังชีพของท่าน ช่วงอายุของท่าน การงานของท่านและท่านจะทุกข์หรือสุข”
นบีมุฮัมมัดไม่รู้หนังสือ ท่านจึงไม่พูดสิ่งใดนอกจากสิ่งที่พระเจ้าบัญชาหรือดลใจให้ท่านพูดเพื่ออธิบายวจนะของพระเจ้า คำพูดดังกล่าวข้างต้นของท่านบอกให้เรารู้ว่า :
- วิญญาณมนุษย์มีอยู่ก่อนแล้วและได้ถูกทูตสวรรค์นำมาจุติเมื่อเสปิร์มในน้ำอสุจิของผู้ชายปฏิสนธิกับไข่ในครรภ์ของผู้หญิงได้ 120 วัน
- มนุษย์ไม่สามารถเลือกเกิดในครอบครัวที่พ่อแม่ร่ำรวย พระเจ้าต่างหากที่เป็นผู้กำหนด แต่ปัจจัยยังชีพมิได้มีแต่เฉพาะเงินเท่านั้น เพราะปัจจัยยังชีพในอิสลามยังหมายรวมถึงสุขภาพ สติปัญญา ความสามารถ อากาศที่หายใจ ครอบครัวและอื่นๆซึ่งแต่ละคนได้รับแตกต่างกันไป
- ช่วงอายุของมนุษย์แต่ละคน พระเจ้าเป็นผู้กำหนดในฐานะที่พระองค์เป็นผู้สร้างชีวิต มนุษย์จึงไม่รู้ว่าตัวเองจะตายเมื่อใด ที่ไหนและอย่างไร ถ้าใครยังไม่ถึงคราวตาย ใครก็เอาชีวิตของเขาไม่ได้ แต่ถ้าถึงคราวตาย ใครก็ไม่สามารถช่วยเขาให้รอดได้ พิธีกรรมทำบุญต่ออายุจึงไม่มีในอิสลามและไม่มีวัตถุศักดิ์สิทธิ์ใดๆสามารถคุ้มครองชีวิตมนุษย์ได้ถ้าพระเจ้าจะเอาชีวิตของเขา
- พระเจ้าสร้างมนุษย์มาไม่เพียงแต่มีหน้าตาแตกต่างกันเท่านั้น แต่ยังให้มนุษย์มีความรู้ความสามารถที่แตกต่างกันด้วย ทั้งนี้เพื่อให้มนุษย์พึงพาอาศัยซึ่งกันและกันในการทำงานสร้างสรรค์ความเจริญและอารยธรรม
- ทุกข์กับสุข ดีและร้ายเป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาเป็นของคู่กันเช่นเดียวกับสิ่งอื่นๆที่พระองค์สร้างมาเป็นคู่เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าพระองค์ทรงเป็นหนึ่งเดียว มนุษย์จะได้รับความทุกข์และสุขสลับกันไป มากน้อยหรือยาวนานเพียงใดขึ้นอยู่กับพระองค์ คำสอนศาสนาถูกส่งมาเพื่อสอนมนุษย์ให้รู้ว่าควรจะใช้ความสุขอย่างไรไม่ให้เกิดความทุกข์ตามมา และเมื่อประสบความทุกข์ มนุษย์ควรจะใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุขตามอัตภาพแม้จะอยู่บนกองทุกข์ก็ตาม
ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของหลักศรัทธาในการกฎกำหนดของพระเจ้า มุสลิมจึงเชื่อว่าทุกสิ่งที่เป็นไปรอบตัวมนุษย์และสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองมิได้เป็นเพราะความบังเอิญ แต่เป็นสิ่งที่พระเจ้าได้กำหนดไว้แล้วสำหรับมนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะดีหรือร้าย
ดังนั้น ไม่ว่าจะประสบเรื่องดีหรือร้ายในชีวิต มุสลิมจะกล่าวคำว่า “อัลฮัมดุลิลลาฮฺ” (การสรรเสริญเป็นของพระเจ้า) เป็นการน้อมรับพระประสงค์ของพระองค์
You must be logged in to post a comment Login