วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

หนุนเพาะเห็ดเยื่อไผ่สายพันธุ์ไทยลดการนำเข้าจาก ตปท.

On December 6, 2019

นายจิระ สุวรรณประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่8(สวพ.8) กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า   ปัจจุบันเห็ดร่างแหหรือเห็ดเยื่อไผ่นับเป็นเห็ดเศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมของคนไทยอย่างมาก เนื่องจากเห็ดมีสรรพคุณทางยาและคุณค่าทางโภชนาการสูง อีกทั้งเมือกเห็ดยังมี คุณสมบัติในการบำรุงผิวพรรณ จึงทำให้คนไทยหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์จากเห็ดเยื่อไผ่เพิ่มมากขึ้น  สำหรับประเทศจีนถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดการเพาะเห็ดเยื่อไผ่ และเป็นประเทศเดียวในโลกที่เพาะเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์  ซึ่งเป็นสายพันธุ์เห็ดร่างแหกระโปรงยาวสีขาว

ส่วนประเทศไทยมีการนำเข้าเห็ดเยื่อไผ่แห้งมาบริโภคภายในประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 6,500 ตัน   สำรับลู่ทางตลาดของเห็ดร่างแหหรือเห็ดเยื่อไผ่สายพันธุ์ไทยมีจุดเด่น คือ ให้ผลผลิตสูง สามารถเพาะได้ตลอดทั้งปี กลิ่นดอกไม่ฉุน ขนาดดอกใหญ่ และหนา เนื้อสัมผัสกรอบ ไม่เปื่อยยุ่ยและปราศจากสารฟอกขาว ทิศทางตลาดเกษตรกร สามารถส่งผลผลิตเห็ดเยื่อไผ่ชนิดแห้ง เพื่อการแปรรูปเป็นอาหารยังโรงแรมและ ภัตตาคาร ราคาจำหน่ายกิโลกรัมละ 2,500  – 6,000  บาท   จากราคาที่จำหน่ายในท้องตลาดอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 500 – 1,000 บาท  เห็ดเยื่อไผ่สด 14 -16 กิโลกรัมทำเห็ดแห้งได้ 1กิโลกรัมและหากประเทศไทยสามารถส่งเสริมการเพาะเห็ดเยื่อไผ่สายพันธุ์ไทยบริโภคภายในประเทศ และส่งขายตลาดต่างประเทศจะสามารถประหยัดเงินตราอย่างมหาศาลและเป็นการสร้างอาชีพใหม่ให้เกษตรกรไทยมีรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืนในอนาคต

S__5103852

นายจิระ  กล่าวด้วยว่า   ปัจจุบันการเพาะเห็ดเป็นการค้ามีการขยายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องการเพาะเห็ดให้ผลผลิตเร็ว การลงทุนไม่สูงมากนัก และขั้นตอนการปลูกไม่ซับซ้อนหรือยุ่งยาก และเป็นอาชีพที่สามารถทำรายได้ตลอดปีทําให้มีผู้สนใจที่จะเพาะเห็ดมากขึ้น การเพาะเห็ดให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพต้องเริ่มจากสายพันธุ์เห็ดที่จะนํามาเพาะเลี้ยง เนื่องจากเชื้อเห็ดที่มีการเพาะเลี้ยงในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นการคัดเลือกเชื้อพันธุ์จากธรรมชาตินำมาปรับปรุงให้อยู่ในสภาพโรงเรือนเหมาะที่จะปลูกเป็นการค้า ดังนั้นการคัดเลือก การผสมพันธุ์ การประเมินสายพันธุ์เห็ดสายพันธุ์ต่างๆ ให้ได้สายพันธุ์ที่มีคุณภาพและผลผลิตสูงเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรในแต่ละพื้นที่เป็นทางเลือกและพัฒนาวิธีการเพาะเห็ดที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่และแบบการผลิต   ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรมีภารกิจเกี่ยวกับการศึกษา วิจัย และพัฒนาพืชให้ได้พืชพันธุ์ดี เพื่อถ่ายทอด เทคโนโลยีการผลิตพืชสู่กลุ่มเป้าหมายทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร ซึ่งการวิจัยและพัฒนาเห็ดก็เป็นอีกผลงานวิจัยที่มีประโยชน์ต่อการสร้างรายได้เข้าประเทศและส่งเสริมรายได้ให้เกษตรกรไทย

S__5103854

ด้านนางสาวนพวรรณ  นิลสุวรรณ   นักวิชาการเกษตรชำนาญการ  สวพ.8   กล่าวว่า   กล่าวถึงแนวทางวิจัยว่า   ได้ทำการคัดเลือกเห็ดร่างแหสายพันธุ์ใหม่ คือเห็ดร่างแหกระโปรงสั้นสีขาวในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง มีจุดเด่นคือ ให้ผลผลิตสูง สามารถเพาะได้ตลอดทั้งปี ไม่มีกลิ่นเหม็น เนื้อสัมผัสกรอบ ไม่เปื่อยยุ่ย และไม่มีการปนเปื้อนของสารปรอทและแคดเมียม  สําหรับคุณค่าโภชนาการ เห็ดร่างแหมีส่วนประกอบของกรดอะมิโนที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้(essential amino acid) 7ชนิดและพบสารสำคัญคือสาร Phosphatidylcholine, สาร Dictyophorine A and B โดยสารดังกล่าวมีส่วนช่วยกระตุ้นการทํางานของเซลล์ประสาทและป้องกันโรคสมองเสื่อมและสารโฟลีฟีนอล (Polyphenol) ซึ่งเป็นสารสําคัญในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ในส่วนของสรรพคุณทางยาตําราแพทย์แผนจีน กล่าวว่า หากรับประทานเห็ดร่างแหระยะดอกตูม จะมีฤทธิ์สรรพคุณเป็นยาชูกำลังหรือยาโป้วสูง

S__5103855

นอกจากนี้  ปัจจุบันยังได้มีการต่อยอดเป็นเวชภัณฑ์เครื่องสำอางจากเห็ดเยื่อไผ่  เป็นเซรั่มธรรมชาติโดยสกัดจากเมือกหุ้มดอกเห็ดที่อุดมไปด้วยกรดไฮยาลูรอนิค อัลลันโทอิน ที่มีคุณสมบัติบำรุงผิวพรรณ ลดการระคายเคือง เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยและกำลังพัฒนาเป็นเวชภัณฑ์เครื่องสำอางค์รูปแบบต่างๆและนำวุ้นของเห็ดเยื่อไผ่มาทำเป็นเครื่องดื่มในอนาคตถือว่าการเพาะเห็ดเยื่อไผ่เป็นอีกช่องทางหนึ่งให้กับเกษตรกรที่สนใจทำเป็นอาชีพสร้างรายได้เป็นอย่างดี

S__5103857

S__5103859


You must be logged in to post a comment Login