วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

บิทคอยน์ไม่มีค่าเยี่ยงอสังหาริมทรัพย์

On May 2, 2024

คอลัมน์ :โลกอสังหาฯ

ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  2 พ.ค.   67)

หลายคนบอกว่าบิทคอยน์น่าลงทุนเพราะตอนนี้ราคาขึ้นไปใหญ่แล้ว ผมก็คงต้องบอกว่า มีแต่ราคา ไม่ได้มีมูลค่าอะไรเลย พวกที่เล่นบิทคอยน์ ก็เป็นพวกเก็งกำไรระยะสั้น หวังรวยจากการซื้อๆ ขายๆ เท่านั้น

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) มาอธิบายให้ทราบว่าเราไม่ควรให้ค่าบิทคอยน์ เพราะมันเป็นแค่แชร์ลูกโซ่ที่หวังจะได้ประโยชน์จากการซื้อๆ ขายๆ และทำกำไรจากผู้ที่เข้ามาใหม่ หรือผู้ที่ซื้อขาย โดยหวังว่าตนเองจะไม่ได้เป็นคนสุดท้ายที่ “เสียค่าโง่” ถือบิทคอยน์ติดดอยกันไป

คนเล่นบิทคอยน์ในต่างประเทศรายเด่นๆ หลายรายจะเผยว่าตนเองสะสมบิทคอยน์เท่านั้นเท่านี้เพื่อยืนยันว่าตนเองศรัทธาในบิทคอยน์จริง แต่ถ้าถามผู้นำวงการบิทคอยน์ไทย ก็คงแทบไม่มีใครกล้าบอกว่าตนเองซื้อไว้ หรือครอบครองไว้เท่าไหร่แล้ว บางท่านที่เชียร์บิทคอยน์เย้วๆ ก็คงซื้อมาตั้งแต่สมัยที่ราคาถูกๆ ก่อนถูกปั่นราคาขึ้นมาประมาณ 2.3 ล้านบาท ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังขึ้นๆ ลงๆ พวกผู้นำขบวนจึงคงแทบไม่กล้าซื้อเข้า

การขึ้นลงของราคาบิทคอยน์ก็ผันผวนเป็นอย่างมาก ขนาดพวก “เซียน” “ปรมาจารย์” ยังขยาด แต่ได้แต่เชียร์ให้คนซื้อๆ กันไป ที่สำคัญคงมีแต่แมงเม่าและผู้ที่เชื่อในการวาดฝันเล่าเรื่อง “สตอรี่” ในสังคมยูโทเปียใหม่ที่ “ไร้ราก” ขาดเหตุผลที่เล่นกันอยู่ โดยหลงคิด่าตนเองฉลาด จะไม่ “เสียท่า” คนอื่นๆ  คนพวกนี้ก็เป็นเพียงส่วนน้อยเพราะต่างก็คงครอบครองบิทคอยน์เท่ากระผีกริ้นแบบชั่วประเดี๋ยวประด่าวแล้วก็ขายทิ้งไปเป็นระยะๆ

ยิ่งในกรณีราคา โอกาสที่จะคาดการณ์ ทำนายว่าราคาจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด แทบจะไม่มีโอกาสเลย แทบจะต้องใช้ “ลูกแก้ว” (แบบแม่มด) หรือลางสังหรณ์เท่านั้น กระบวนท่าในการสร้างแบบจำลองต่างๆ เพื่อการศึกษาทิศทางการเติบโตแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลย บ้างก็ว่าราคาจะขึ้นกระฉูดกว่านี้อีกนับเท่าตัวในเวลาไม่เกิน 1 ปี บ้างก็ว่าราคาจะตกลงเท่านั่นเท่านี้ นี่อาจเป็นทฤษฎีสมคบคิดเพียงเพื่อหลอกแมงเม่าให้บินเข้ากองไฟเท่านั้น

มีข่าวการจับกุมแก้งขุดบิทคอยน์เป็นระยะๆ พวกนี้มักขโมยไฟหลวงมาขุด เนื่องจากต้องใช้ไฟมหาศาล ไม่มีปัญญาซื้อไฟใช้เอง ไม่คุ้มที่จะขุดด้วยไฟถูกกฎหมาย วงการนี้จึงมีมิจฉาชีพแฝงอยู่เป็นอันมาก นี่ก็เป็นการยืนยันอย่างหนึ่งว่าในบรรดาผู้นำวงการ ปรมาจารย์ เซียน ฯลฯ ในวงการนี้ คงไม่ได้ขุดเองหรือ Pool กับใครขุดนักหนา เนื่องจากต้องใช้ไฟปริมาณมหาศาล ยิ่งพวกที่คุยว่าใช้พลังแสงอาทิตย์ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าจะใช้พลังงานประเภทนี้คงต้องมีโซลาฟาร์มขนาดนับร้อยๆ ไร่เลยทีเดียว

ประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องไฟก็คือการทำลายสิ่งแวดล้อมจากการขุดบิทคอยน์ ซี่งมีผลการศึกษาของสหประชาชาติระบุชัดว่าการขุดบิทคอยน์ใช้ไฟฟ้ามหาศาล ไฟฟ้าที่ผลิตนี้ก็มักมาจากการทำลายสิ่งแวดล้อมแทบทั้งสิ้น ที่อ้างตนว่าใช้พลังแดด ลมหรืออื่นๆ ก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น การใช้ไฟมหาศาลเช่นนี้เป็นปมเงื่อนที่ซ่อนอยู่โดยผู้สร้างบิทคอยน์ ต่อไปประชาชนคนเล็กคนน้อยก็คงเข้าไม่ถึงบิทคอยน์ ต้องคอยซื้อจากคนขาย กลายเป็นเบี้ยล่าง เป็นประชากรชั้นสอง ชั้นสามในโลกที่มีแต่บิทคอยน์ (ที่พวกนั้นเขาฝันเอาไว้เพราะเงินของทางราชการจะเสื่อมค่าหมด)

ยังมีการศึกษาระบุว่าธุรกิจราวหนึ่งในสี่ของบิทคอยน์ดำเนินการโดยพวกมิจฉาชีพ แน่นอนว่าในวงการอื่นก็มีมิจฉาชีพเข้ามาใช้เงิน ใช้ทองในการทำธุรกรรมแบบอาชญากรรม แต่คิดดูว่าในวงการบิทคอยน์ ราวหนึ่งในสี่ใช้บริการโดยพวกมิจฉาชีพ/อาชญากร แสดงว่าบิทคอยน์อาจถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพวกนี้ เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยรายชื่อที่แท้จริงของผู้ครอบครอง การโอนเงินทองในวงลับๆ ล่อๆ ผ่านบิทคอยน์จึงเป็นสิ่งที่อาชญากรชอบ

พวกนิยมบิทคอยน์ยังฝันว่ารัฐบาลในโลกนี้ (แทบ) ไม่มีดีสักราย ทั้งที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ประเทศประชาธิปไตยที่แท้ก็มีอยู่ไม่น้อย แม้ว่าหลายประเทศถูกปกครองโดยระบอบเผด็จการทรราช รัฐบาลเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของประชาชน แต่กลับถูกมองในแง่ร้าย ในการอยู่ร่วมกันในสังคม เราจึงต้องมีรัฐบาล มีบุคคลที่ 3 และ/หรือรัฐบาลในการยืนยันตัวตนธุรกรรมหรือตัวตนของเรา ไม่ใช่บิทคอยน์ที่แม้แต่ชื่อ-นามสกุลจริงยังไม่กล้าเผย

แต่ที่แน่นอนอย่างหนึ่งก็คือ บิทคอยน์ส่วนใหญ่ถูกครอบครองโดยคนกลุ่มน้อยนิด อย่างนายซาโตชิ นากาโมโตะ คนสร้างบิทคอยน์ก็ครองอยู่ 1.1 ล้านเหรียญ ใน 22,000 บัญชี กิจการใหญ่ๆ ครองอยู่ราว 90% ของทั้งหมด ที่มาเล่นบิทคอยน์กันสนุกก็เป็นคนเพียงแค่กระผีกริ้น กลุ่มเล็กๆ ที่มีผู้นำขบวนที่พยายามชักจูงให้คนมาเล่น และแมงเม่า เป็นไปได้ที่อาชญากรสร้างบิทคอยน์นี้ขึ้นมาให้คนจำนวนมากที่ครอบครองบิทคอยน์จำนวนน้อยนิดได้เล่น เพื่อปกปิดอาชญกรรมของพวกเขา

จะบอกว่าบิทคอยน์มีมูลค่าก็คงไม่ใช่ แต่มีราคา ในการประเมินราคาสิ่งหนึ่งๆ เช่น บิทคอยน์ อาจใช้ราคาเฉลี่ยในรอบ 1 เดือน คล้ายๆ กับในการประเมินค่าโรงแรม ก็อาจดูจากรายได้ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อนำมาวิเคราะห์ถึงมูลค่า แต่กรณีบิทคอยน์ไม่ได้สร้างสรรค์อะไรขึ้นมา เป็นเพียงการซื้อขายโดด ต่างจากหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่มีสินค้าและบริการเป็นมูลค่าอยู่เบื้องหลัง และมีทางการมาคอยควบคุม ไม่ใช่คุมโดยคนส่วนน้อยที่ถือบิทคอยน์มากๆ

ลงทุนในบิทคอยน์จึง “โคตร” เสี่ยง ไปทำอย่างอื่นที่สร้างสรรค์กว่านี้ดีกว่า ยกเว้นเล่น “เอามันส์” ชั่วครั้งชั่วคราวแบบจตุคามรามเทพ


You must be logged in to post a comment Login