พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิเสธตอบคำถามกรณีอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติประกาศเดินหน้าจัดเวทีปราศรัย 4 ภาค ยุติการสืบทอดอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยกล่าวเพียงว่า ขณะนี้ทุกคนทำงานตามหน้าที่ปรกติในการดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนจะเป็นการปลุกระดมก่อม็อบหรือไม่นั้น ทุกคนคงหวังอย่างยิ่งว่าอยากให้ประเทศชาติเกิดความสงบเรียบร้อย เนื่องจากผ่านเหตุการณ์ต่างๆมามากแล้ว ทุกคนได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และชีวิตความเป็นอยู่ ทุกคนจึงได้รับบทเรียนและหวังไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ส่วนรายชื่อสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทั้ง 400 คน ที่ คสช. จะคัดเลือกให้เหลือ 194 คน ซึ่งมีกระแสข่าวว่ามีรายชื่อคนสนิทของ คสช. อยู่ในจำนวนนั้น พล.อ.อนุพงษ์กล่าวยืนยันว่า กระแสข่าวดังกล่าวไม่มีพื้นฐานของความเป็นจริง ส่วนตัวไม่ขอตอบในเรื่องนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาในการพิจารณา และให้ คสช. เป็นผู้ดำเนินการ...

ที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงข่าวแบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยกล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานตราสัญลักษณ์พร้อมความหมาย โดยรัฐบาลขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ตั้งโต๊ะหมู่บูชาประดิษฐานพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเครื่องสักการะ และขอเชิญชวนประดับตราสัญลักษณ์ตามอาคารสถานที่และบ้านเรือน เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณโดยพร้อมเพรียงกัน และเพื่อให้ถูกต้องตามประเพณี ตามกฎหมาย มีความสง่างามสมพระเกียรติ โดยปรกติเวลามีพระราชพิธีสำคัญจัดเป็นงานใหญ่ทั่วประเทศและในต่างประเทศจำเป็นต้องมีศูนย์รวมให้รู้ว่าเป็นพิธีเดียวกัน นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าตราสัญลักษณ์ เมื่อบัดนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม เมื่อได้ทรงพิจารณาโปรดเกล้าฯ รัฐบาลจึงได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประธานที่ปรึกษา เห็นพ้องต้องกันว่าสมควรกราบบังคมทูลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบให้มีตราสัญลักษณ์ในพระราชพิธีนี้ โดยมอบหมายให้ศิลปินหลายท่านออกแบบ ช่วยกันพิจารณาในที่ประชุมจาก 7-8 แบบ ก่อนจะนำขึ้นกราบบังคมทูลให้ทรงมีพระราชวินิจฉัย...

ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊คเผยแพร่ข้อความจากใจ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช กรณีพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ โดยมีรายละเอียดดังนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคไทยรักษาชาติ ขอกราบเรียนไปยังท่านสมาชิกพรรคและพี่น้องประชาชนที่เคารพว่า ผมพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วที่จะรักษาพรรคการเมืองนี้ไว้เพื่อเป็นความหวัง และยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างพี่น้องประชาชน เพื่อทำงานและสร้างอนาคตที่ดีให้กับประเทศชาติและคนไทยทุกคน ผมตั้งใจตั้งแต่เด็กว่าอยากทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง จึงเลือกทางเดินบนถนนสายการเมือง ความสุขและรางวัลของคนการเมืองก็คือ ได้เห็นคนที่เรารัก คนที่รักเรา หรือคนที่เราหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ มีรอยยิ้มและมีความสุข ถึงแม้ว่าในหลายๆครั้งไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่อย่างน้อยเราก็ได้แสดงถึงความจริงใจ รับฟัง และความพยายามที่จะช่วย ประชาชนได้รู้ว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพัง มีคนเห็นอกเห็นใจ และยังมีผู้แทนของเขาอยู่เคียงข้างในทุกสถานการณ์ ผมเห็นการเมืองไทยมีปัญหาแบบไทยๆมาอย่างยาวนาน วงจรที่วกไปเวียนมา รัฐประหารที่ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก ผลลัพธ์ก็คือสิ่งที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน บ้านเมืองที่เหมือนจะสงบแต่ไร้อนาคต ขาดการพัฒนาและสร้างโอกาสให้ประชาชน โดยเฉพาะปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาปากท้อง และสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ เราไม่ได้แค่หยุดอยู่กับที่...

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ถามจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะร่วมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะในสภาผู้แทนราษฎรจะมีเพียงฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น ประชาชนเลือกใครมากก็ไปเป็นรัฐบาล หากเลือกใครน้อยก็ไปเป็นฝ่ายค้าน คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เมื่อในสภามีเพียง 2 ฝั่ง และพรรคเพื่อไทยได้ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ทำงานต่อ เพราะทำให้เศรษฐกิจแย่ หนี้สินประเทศเพิ่ม ประชาชนยากจน จึงพูดชัดเจนว่า “เอาลุงคืนไป เอาเงินในกระเป๋าคืนมา” ดังนั้น ต้องถามนายอภิสิทธิ์ว่าที่ไม่เอาพรรคเพื่อไทยอย่างเด็ดขาด หมายความว่าจะเอาพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ “คุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์จะต้องเลือก เพราะมันไม่มีฝ่ายเป็นกลางในสภา คุณอภิสิทธิ์จะต้องตอบให้ชัด ถ้าพลังประชารัฐชนะ จัดตั้งรัฐบาลได้ คุณอภิสิทธิ์จะร่วมกับพลังประชารัฐใช่หรือไม่ ต้องตอบให้ชัดอย่ากั๊ก พอไม่ชัดเจน ประชาชนไม่เข้าใจ...

น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เป็นตัวแทนของพรรคยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบกรณีมีภาพนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ขึ้นคู่กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมีข้อความ “ธนาธรพาทักษิณกลับบ้าน พร้อมรื้อคดีใหม่” ซึ่งเป็นของสำนักข่าวทีวีดิจิตอลแห่งหนึ่ง ปรากฏบนจอแอลอีดีบริเวณวงเวียนน้ำพุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงขอให้ กกต. ตรวจสอบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ หากผิดขอให้ กกต. สั่งลบข้อความดังกล่าว เพราะบิดเบือนจากข้อเท็จจริง สร้างความเกลียดชัง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กกต. ได้สั่งให้ประชาชนลบข้อความในลักษณะที่สร้างความเกลียดชังให้กับพรรคไปแล้ว 3-4 โพสต์ เช่น การกล่าวหาว่าพรรคอนาคตใหม่เกี่ยวข้องกับการเผาบ้านเผาเมือง และเป็นภัยต่อความมั่นคง ส่วนจะฟ้องร้องหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ...

นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์เฟซบุ๊คแสดงความเห็นระบุว่า “หลายฝ่ายกำลังคาดหมายว่าจะเกิดสึนามิทางการเมืองในวันที่ 24 มีนาคมนี้” ซึ่งเป็นสึนามิทางการเมืองที่เคยเกิดที่ฝรั่งเศสทำให้หนุ่มมาครงม้านอกสายตาชนะท่วมท้น เคยเกิดที่แคนาดาทำให้หนุ่มทรูโดม้านอกสายตาชนะท่วมท้น เคยเกิดที่อเมริกาทำให้ลุงทรัมป์ม้าแก่ซึ่งเป็นรองมากมายชนะท่วมท้น เคยเกิดที่มาเลเซียทำให้มหาเธร์นักการเมืองปลดระวางนานปีชนะท่วมท้น กลับคืนสู่อำนาจอีกครั้ง “อย่าทำเป็นเล่นกับ Social Media นะครับ ลองติดตามแนวโน้มใน Google Trend ที่มีคนเป็นฐานข้อมูลถึง 50 ล้านคน ดีกว่าที่จะหลงโพลระดับ 1,000 คน 5,000 คน มากมายนัก” เพราะไม่มีโพลไหนที่ทำเกินหมื่นคน ขืนเชื่อโพลรับจ๊อบพวกนี้ก็จะถูกสึนามิท่วมตาย “สามก๊กการเมืองไทยขณะนี้บังเกิดเป็น 2 กระแสคือ 1.พรรคที่หนุนลุงตู่เป็นนายกฯตอนนี้คือ พลังประชารัฐ...

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์  รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศตัวไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พปชร. เป็นนายกรัฐมนตรีคน เพราะเป็นการสืบทอดอำนาจและขัดอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นเพียงวาทกรรมทางการเมืองในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อหวังคะแนนจากประชาชน เป็นคำพูดที่ใจแคบ เพราะหากต้องการสืบทอดอำนาจก็ไม่จำเป็นจะต้องให้มีการเลือกตั้งหรือเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตอย่างวันนี้ ทั้งนี้พรรคยืนยันจะใช้ช่วงเวลาโค้งสุดท้ายเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียงและเปิดนโยบายต่อประชาชนให้มากที่สุด  ผู้สื่อข่าวถามถึง ภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ปรากฏทางสื่อโซเชียลมีเดียในอิริยาบท สบายๆด้วยการแต่งกายในชุดสูท ชุดลำลอง นั้น ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง นายสุวิทย์ กล่าวว่า พรรคไม่ได้ทำขึ้นเอง แต่ก็เป็นสีสันและสะท้อนความเป็นตัวตนของพล.อ.ประยุทธ์ ที่หลายคนอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนและถือได้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ กำลังปรับตัวเปลี่ยนจากการแต่งกายชุดทหาร ถอดหมวก มาเป็นหมวดลุงตู่ ผู้น่ารัก พร้อมขอให้เชื่อมั่นในความตั้งใจทำงานบริหาร “เชื่อมั่นว่า...

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนิพัทธ์พนธ์ สุวรรณชนะ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 16 คลองสามวา พรรคเสรีรวมไทย เดินทางมาเรียกร้องให้ กกต. เร่งแก้ไขข้อมูลในเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร ซึ่งพบว่ามีความผิดพลาด โดยนายนิพัทธ์พนธ์กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีประชาชนได้นำเอกสารมาให้กับตน และถามว่าเบอร์ 5 อยู่พรรคไหนกันแน่ เนื่องจากเอกสารของ กกต. ระบุว่าตนอยู่พรรคพลังธรรมใหม่ ดังนั้น ตนจึงนำเอกสารดังกล่าวไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลนิมิตใหม่ และนำมายื่นต่อ กกต. เพื่อให้แก้ไขโดยเร็ว นอกจากนั้นอยากให้ กกต. ชี้แจงว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร และจากผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้น กกต. จะมีมาตรการอย่างไรต่อไป เพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะส่งผลต่อคะแนนพรรคพอสมควร เนื่องจากหัวหน้าพรรคเป็นคนที่ชัดเจนสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ หัวหน้าพรรคเป็นห่วงและอยากให้เร่งแก้ไขให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งนี้ การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรก็ผ่านไปแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะมีผลกระทบอย่างไร

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองเลขาธิการ คสช. ตั้งข้อสังเกตในการประชุม คสช. วันนี้ (11 มี.ค.) ว่า ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย และยังคงมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงจำเป็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรีบชี้แจงโดยทันทีเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่เป็นความจริง นอกจากนี้ต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่จะไปใช้สิทธิมีความรู้ความเข้าใจ มีการศึกษานโยบายพรรคการเมืองว่าจะสามารถสร้างประโยชน์ให้ประเทศได้จริง มองให้ครบในทุกมิติ เป็นนโยบายที่แก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ สอดคล้องกับกฎหมายและสภาพสังคมไทย นอกเหนือจากการรณรงค์เชิญชวนประชาชนให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นในเรื่องดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของประชาชน เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางของประเทศผ่านการเลือกตั้งในครั้งนี้

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนโยบายปลูกกัญชาเสรีว่า ช่วงที่ผ่านมามีหลายพรรคการเมืองเริ่มนำเสนอนโยบายเกี่ยวกับกัญชา ถือเป็นเรื่องที่ดีที่หลายพรรคมีแนวโน้มเห็นด้วยในแนวทางเดียวกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนโยบายดังกล่าวนอกจากทีมงานของพรรคจะช่วยกันผลักดันแล้ว ยังมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่เดินหน้าประชาสัมพันธ์ตั้งแต่มีการเปิดนโยบายดังกล่าวออกมา พร้อมทำคลิปสั้นๆ 8 นาที เพื่อทำให้คนที่ยังไม่เข้าใจหรือมีข้อสงสัยสามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ โดยรับฟังและชมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=pTpQcVcf1d0&feature=youtu.be “ในคลิปดังกล่าวมีเนื้อหาอธิบายตั้งแต่หลักคิดของนโยบายที่ทำนโยบายนี้ขึ้นมา ด้วยหลักคิดว่ากัญชาต้องเป็นสมบัติของพี่น้องประชาชน สิ่งที่พรรคจะทำนั้นจะไม่มีคำถามกลับมาแน่นอนว่าสุดท้ายแล้วเป็นการทำเพื่อกลุ่มทุนหรือต่างชาติ เนื่องจากพรรคได้ศึกษาเรื่องนี้มานาน ศึกษามาเป็นอย่างดีจากต้นแบบที่แคลิฟอร์เนีย ซึ่งทำ 3 อย่างคือ การแปรรูปทางการแพทย์ นำมาทำยา การทำเชิงพาณิชย์ โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม มีใบอนุญาต มีการเปิดให้ขายเสรีภายใต้การควบคุมอย่างดี และทำเพื่อประชาชน ด้วยการให้ประชาชนไปยื่นเรื่องขอปลูกได้บ้านละ 6 ต้น มีค่าธรรมเนียมต้นละ 1...

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรค แถลงย้ำจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลทุจริต และพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นการสืบทอดอำนาจ พร้อมประกาศตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลรวบรวมเสียงข้างมาก โดยไม่ผูกมัดว่าจะพรรคจะต้องได้ ส.ส.อันดับหนึ่ง เพราะตามกติกาพรรคใดรวบรวมเสียงได้ก็ตั้งรัฐบาลได้ “ดังนั้น หากพรรคพลังประชารัฐจะร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือการสืบทอดอำนาจ ฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงกลายเป็นศูนย์กลางของเงื่อนไขความขัดแย้งมากที่สุดหลังเลือกตั้ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า พล.อ.ประยุทธ์จะช่วยดูแลบ้านเมืองไม่ให้เกิดความขัดแย้งได้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งจะไม่มีมาตรา 44 เป็นเครื่องมือเหมือนช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนตัวมั่นใจว่า ฝ่ายความมั่นคงพร้อมที่จะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้ลุล่วงไปด้วยดี อีกทั้ง คนไทยทั่วประเทศผ่านเหตุการณ์ความวุ่นวายช่วง...