ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในงาน “One Transportation for all : ระบบคมนาคมหนึ่งเดียว เพื่อประชาชนทุกคน” และพบปะกับประชาชนในพื้นที่จาก 5 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางมาถึงได้มีการเปิดวีดีโอเพลง “มอบอำนาจให้คนดี” ซึ่งขับร้องโดยสมจิตร บ่อทอง เป็นภาษาอีสาน โดยมีเนื้อหารณรงค์ให้เลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้ ซึ่งสนับสนุนให้เลือกคนดี รักชาติ ไม่สนับสนุนให้เลือกคนโกง และอย่าไปเชื่อคำยั่วยุของคนไม่ดี เชิญชวนให้ยุติความขัดแย้ง และ เปิด MV ภาพของนายกรัฐมนตรีประกอบเพลง หยุดตรงนี้ที่เธอ ให้ประชาชนได้รับชมด้วย โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้อ่านกลอนที่แต่งด้วยตนเองว่า...

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า แผนกลยุทธ์ตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วง 3 ปี (ปี 2562-2564) จะเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐาน สร้างตลาดทุนยุคดิจิทัลที่ครบวงจรควบคู่กับโอกาสการลงทุนใหม่ โดยในวันที่ 27 มีนาคม นี้ ตลท.จะเชิญผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ, หน่วยงานกำกับดูแล, ธนาคารพาณิชย์, บริษัทหลักทรัพย์, บริษัทจัดการลงทุน, ผู้ระดมทุน, Custodian และฟินเทค ร่วมหารือเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลต้นแบบให้เสร็จภายในปีนี้ และจะเปิดให้บริการในปี 2563 โดย ตลท. เชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย และสร้างจุดเปลี่ยนให้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดให้กับตลาดทุนไทย โดย โดยตลาดหลักทรัพย์ฯพร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างตลาดทุนอนาคตที่ทุกคนเชื่อมั่น เชื่อมือ เชื่อถือ...

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย “โอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร นายอดิศร เพียงเกษ รวมถึงแกนนำ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคอีสานได้เดินทางมาเปิดเวทีปราศรัย ที่สวนเทิดพระเกียรติท้ายเมืองในเขตเทศบาลเมืองนครพนมเพื่อปราศรัยหาเสียงสนับสนุนช่วยอดีต ส.ส. “เดือน” นางมนพร เจริญศรี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นครพนม พรรคเพื่อไทย หมายเลข 2 หลังจากช่วงเช้าได้ไปเปิดเวทีปราศรัยในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม อ.ธาตุพนม ซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 3 ช่วยสนับสนุน ดร.ไพจิต ศรีวรขาน อดีต ส.ส.แชมป์ 10 สมัย ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต...

ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการสัมมนาผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ 56 แห่ง และได้มอบนโยบายเรื่อง การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้วยพลังรัฐวิสาหกิจไทยให้ผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจ โดย นายสมคิด ได้กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงหนึ่งของการมอบนโยบาย ว่า ทุกวันนี้มีหลายฝ่ายหาว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สร้างความเหลื่อมล้ำ คนพูดมีสมองหรือเปล่า มีตาไหม คิดแต่ว่าพูดอย่างเดียวแล้วจะได้คะแนนเสียง เป็นเรื่องที่น่าอับอาย เราต้องร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศใช่หรือไม่ ความเหลื่อมล้ำเพิ่งเกิดในรัฐบาลนี้หรือไม่ โจทย์แค่นี้ก็ไปพูด จนกระทั่งเกิดความไขว้เขวว่า พล.เอกประยุทธ์ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ฟังแล้วก็รู้สึกเป็นห่วง และกังวล ส่วนกรณีที่มีพรรคการเมืองบางพรรคบอกว่า ไม่สนับสนุน พ.อ.ประยุทธ์ เป็นนายก เป็นเรื่องที่พูดเร็วไปไหม จะบอยคอตอะไรกันอีก เมื่อก่อนก็เคยบอยคอต...

ที่พรรคประชาธิปัตย์  นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า  กรณีที่มีหลายคนสงสัยหรือสับสนต่อการประกาศจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกฯอีก และไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทยนั้น ถ้าทุกคนถอดอารมณ์แล้วมองด้วยสติและข้อเท็จจริง จะเห็นว่าทุกพรรคแข่งขันกันด้วยนโยบาย เพื่อให้ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่วันนี้ความมีอารมณ์ได้กลบนโยบายดีๆที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการนำเสนอ คำถามที่ว่าเราจะไปจับมือกับพรรคใดนั้นไม่สำคัญเท่ากับการที่ประชาชนมีกินมีใช้ มีเงินเก็บเพียงพอ แต่สังคมลืมเรื่องพวกนี้ไป พรรคประชาธิปัตย์จึงอยากบอกว่าเราจะมาโฟกัสที่การแก้ปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชนมากกว่าเกมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ย้ำอีกครั้งว่าไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยก็ชัดเจนว่าไม่จับมือกับเรา ต่างคนต่างประกาศว่าเหม็นขี้หน้ากัน อย่างไรก็ตามจึงขอให้ประชาชนเลือกว่าพรรคใดจะมาแก้ไขปัญหาของท่านได้ดีที่สุด และอย่าใช้ความสะใจ  เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐยังยืนยันที่จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ใช่หรือไม่ นายจุติ กล่าวว่า ตอนนี้เราตั้งใจมุ่งเน้นเรื่องนโยบายมากกว่า ส่วนเราจะจับมือกับใครนั้นต้องฟังเสียงประชาชนในวันที่ 24 มี.ค.นี้ แน่นอน  เมื่อถามต่อว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ...

ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ปากแรกคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองเมื่อปี 2551 หมายเลขดำ รวม 8 สำนวน คดีหมายเลขดำที่ อ.973/2556, อ.1067/2556, อ.1204/2556, อ.1279/2556, อ.1316/2556, อ.1406/2556, อ.1522/2556 และ อ.1559/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม. กับพวกแนวร่วม พธม. รวม 98 คน เป็นจำเลยที่...

นายรยุศด์ บุญทัน โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคเพื่อชาติ แถลงภารกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งว่า พรรคจะใช้เวลาที่เหลืออย่างเต็มที่ในการลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วประเทศ โดยใช้ชื่อว่า “3 เวที 3 ภารกิจสุดท้ายส่ง พล.อ.ประยุทธ์กลับบ้าน” โดยตั้งแต่วันที่ 14-23 มีนาคม จะแบ่งทีมหาเสียงลงพื้นที่ทุกวัน และจะมีการจัด 3 เวทีปราศรัยใหญ่ วันที่ 19 มีนาคม ที่วงเวียนใหญ่ ใช้ชื่อว่าฝั่งประชาธิปไตยส่ง พล.อ.ประยุทธ์กลับบ้าน วันที่ 22 มีนาคม ที่สวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ ใช้ชื่อว่าภารกิจสุดท้ายปลุกคนไทยหยุดสืบทอดเผด็จการ และเวทีสุดท้าย วันที่ 23 มีนาคม ที่ อ.อากาศอำนวย...

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีนายทะเบียนพรรคการเมืองยุติการสอบสวนการระดมทุนโต๊ะจีนของพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากไม่เข้าข่ายเป็นความผิดว่า ได้รับทราบจากนายทะเบียนว่าตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีหน่วยงานของรัฐ บุคคลต่างชาติให้เงินสนับสนุน จึงจะเสนอ กกต. ยุติเรื่อง “ตามกฎหมายแล้ว กกต. ทำได้เพียงการรับทราบ ไม่สามารถให้นายทะเบียนตั้งกรรมการสอบใหม่ แต่ในคำร้องมีหลายประเด็น อาจจะมีบางประเด็นอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของสำนักงาน” ส่วนที่ผู้ร้องมองว่า กกต. พิจารณาไม่เป็นไปตามคำร้องนั้น นายอิทธิพรกล่าวว่า เรื่องนี้เข้าใจว่ายังอยู่ในการดำเนินงานของสำนักงาน ยังไม่แล้วเสร็จ การตั้งข้อสังเกตว่าผู้บริจาคไปได้รับงานจากหน่วยงานของรัฐอาจเป็นข้อเท็จจริงที่ยังไม่ปรากฏ ต้องไปถามเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ส่วนเรื่องการพิจารณาคำร้องว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช. เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายอิทธิพรคาดว่าจะมีการเสนอให้ กกต....

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงย่านตลาดทุ่งสองห้อง ตลาดเมืองทองนิเวศน์ ตลาดเมืองทอง ตลาดประชานิเวศน์ ตลาดบองมาร์เช่ ตลาดบางเขน และตลาดบางบัว พร้อมกล่าวให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดทำเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเสรีรวมไทยผิดพลาดว่า ในส่วนของผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคได้มีการไปยื่นคำร้องกับ กกต. แล้ว ถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เบื้องต้นเป็นความพลาดผิดทางด้านวุฒิการศึกษา ขณะที่บางคนชื่อของพรรคผิด คือเป็น ส.ส. ของเสรีรวมไทย แต่แนะนำว่า เป็นพรรคพลังธรรมใหม่ “ในส่วนของพรรค จะเข้าไปติดตามต่อว่า ผู้สมัคร ส.ส.350 เขต มีข้อผิดพลาด และสร้างความเสียหายแค่ไหน แต่เบื้องต้นผู้สมัครที่ข้อมูลผิดพลาดนั้นได้รับความเสียหายแน่นอน ทำให้ผู้ใช้สิืทธิเข้าใจผิดได้ ได้รับทราบว่า ส.ส.ของพรรคที่ไปแจ้งกับทาง...

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตผู้สมัครส.ส. พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงกรณีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ระบุว่าการรณรงค์โหวตโนถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ว่า การตัดสินใจกาโหวตโนถือเป็นสิทธิของประชาชน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดแพร่ได้มาสะท้อนความคิดเห็นว่าไม่อยากจะเลือกผู้สมัครรายใดในพื้นที่ และเป็นผู้เริ่มต้นเสนอที่จะกาโหวตโนเอง ตนเป็นเพียงผู้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีโหวตโน และชี้แจงกับชาวบ้านในพื้นที่ว่าการโหวตโนคืออะไร ส่วนประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร เป็นเรื่องของประชาชนเอง “ยืนยันว่าการกระทำของผมไม่เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในมาตรา 73 ที่ระบุว่า ห้ามบุคคลใดจูงใจให้เลือก หรือไม่เลือกผู้สมัครรายใดด้วยการสัญญาว่าจะให้ ใช้อิทธิพลข่มขู่หรือขัดขวางการออกไปใช้สิทธิการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชน เพราะการพูดคุยกับประชาชนในวันนั้น ได้เน้นทำความเข้าใจเรื่องการโหวตโน ไม่ได้มีเรื่องของการสัญญาว่าจะให้หรือขัดขวางการออกไปใช้สิทธิ์ออกเสียงของประชาชน ในทางตรงกันข้าม กรณีที่ประธานกกต.ระบุว่าการโหวตโนเป็นการกระทำความผิด อาจจะเข้าข่ายขัดขวางหรือใช้อิทธิพลข่มขู่ให้ผู้ที่มีสิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ไม่ได้ไปออกเสียงในทางใดทางหนึ่งได้มากกว่า” นายวรวัจน์ กล่าว นายวรวัจน์ กล่าวถึงกรณีสวมเสื้อของพรรคเพื่อไทยไปพบปะกับชาวบ้าน ว่าเนื่องจากกลับไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว ซึ่งถือเป็นสิทธิของประชาชนทั่วไป...

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศจุดยืนไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า พรรคภูมิใจไทยเคยพูดไว้ชัดเจนแล้วว่าจุดยืนของเราคือทำตามกติกาที่ดำรงไว้ในรัฐธรรมนูญทุกอย่าง และจุดยืนที่เด่นชัดอีกอย่างหนึ่งก็คือคนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น พรรคภูมิใจไทยขอให้ใช้กติกาคือต้องได้รับฉันทานุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งหากเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้วก็ขอให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ทำตามมติของสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มาจากเสียงของประชาชน เพราะผ่านการเลือกตั้งเข้ามา โดยเมื่อสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกใครมาเป็นนายกฯแล้วก็น่าจะเป็นคนๆนั้น ไม่ใช่ใช้วิธีหรือกระบวนการอื่นมาบิดพลิ้ว ถ้าทำอย่างนั้นก็จะไม่ใช่หลักการประชาธิปไตย เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยยืนยันชัดเจนใช่หรือไม่ว่าพรรคที่ไม่ได้คะแนนเสียงที่เสียงส.ส.ไม่พอแล้วนำเสียงส.ว.มาหนุน เพื่อเสนอนายกฯ พรรคภูมิใจไทยก็จะไม่สนับสนุนพรรคนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับว่าไม่ได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรก็จะกลายเป็นการยืดปัญหาออกไปเท่านั้นเอง ทางที่ดีที่สุดคือต้องจบกระบวนการทุกอย่างตั้งแต่ขั้นแรก หากเราได้นายกฯมาเพราะว่านับที่คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของทั้งสองสภาฯ หรือเสียงของสภาผู้แทนฯน้อยกว่ากึ่งหนึ่ง แม้จะเป็นนายกฯได้ แต่ก็ปฏิบัติงานไม่ได้ ก็ไม่อยากจะให้เข้าไปในหลุม ไม่รู้เป็นความต้องการของใครที่จะให้เกิดความวุ่นวาย ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือทำตามความต้องการของประชาชน เพราะเมื่อประชาชนเลือกผู้แทนเข้ามาแล้ว สิ่งใดที่ผู้แทนราษฎรตัดสินใจก็คือเสียงของประชาชน...