วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2567

อัยการเตรียมพยานกว่า1,000ปากทำบัญชีส่งศาลคดีพธม.ปิดสนามบิน

On March 13, 2019

ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ปากแรกคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองเมื่อปี 2551 หมายเลขดำ รวม 8 สำนวน คดีหมายเลขดำที่ อ.973/2556, อ.1067/2556, อ.1204/2556, อ.1279/2556, อ.1316/2556, อ.1406/2556, อ.1522/2556 และ อ.1559/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม. กับพวกแนวร่วม พธม. รวม 98 คน เป็นจำเลยที่ 1-98 ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้ายเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1, 116, 215 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2521 และฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 กรณีพวกจำเลยบุกเข้าไปในสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ปี 2551 โดยระหว่างพิจารณาคดี นายสุทธิ อัชฌาศัย จำเลยที่ 79 ได้เสียชีวิต และจำเลยอีกคนมีอาการอัมพฤกษ์จากเส้นเลือดในสมองแตก ศาลจึงให้จำหน่ายคดีของจำเลยร่วม 2 คนออกจากสารบบความ ขณะนี้จึงเหลือจำเลยทั้งสิ้น 96 คน

วันนี้มีการเบิกตัวจำเลยที่ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯจากคดีบุกทำเนียบรัฐบาลมาศาล พร้อมกับจำเลยส่วนใหญ่ที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีเดินทางมาศาล

โดยในวันนี้อัยการโจทก์ได้นำ ร.ท.วิรัตน์ ตันติอธิมงคล อายุ 66 ปี อดีตผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาการท่าอากาศยานดอนเมือง มาเบิกความเป็นพยานโจทก์ถึงเหตุการณ์ที่มีการชุมนุมดังกล่าวในส่วนของสนามบินดอนเมือง

เมื่อถึงเวลานัดทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการสืบพยานในวันนี้ออกไปก่อน เนื่องจาก พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ จำเลยที่ 28 มีอาการเจ็บป่วย พักรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.สมิติเวช

ศาลพิจารณาเเล้วไม่อนุญาตเลื่อนเเละให้สืบพยานโจทก์ต่อไปได้ เนื่องจากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาใหม่ ม.172 ทวิ (4) ในคดีที่จำเลยไม่อาจมาฟังการพิจารณาเเละสืบพยานได้เนื่องจากความเจ็บป่วยหรือมีเหตุจำเป็นอย่างอื่นอันมิอาจก้าวล่วงได้ เมื่อจำเลยมีทนายความเเละจำเลยได้รับอนุญาตจากศาลที่จะไม่มาฟังการพิจารณาเเละสืบพยาน

โดยทางทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านการพิจารณาคดีลับหลัง เนื่องจากเห็นว่าการพิจารณาลับหลังเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งคดีนี้เป็นคดีอาญา มีโทษสูงถึงประหารชีวิต ไม่สามารถพิจารณาลับหลังได้ การพิจารณาคดีจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงยื่นคัดค้านไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้สิทธิตามกฎหมายต่อไป

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังธรรม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า วันนี้ศาลสืบพยานโจทก์ปากแรกหลังจากที่เลื่อนการพิจารณามาหลายนัด เนื่องจากความพร้อมของจำเลย และเป็นคดีที่มีโทษหนักถึงประหารชีวิต โดยหลักกฎหมายการพิจารณาลับหลังกระทำมิได้ นอกจากนี้สำนวนคดีถูกส่งไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำร้องขอให้ส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่วันนี้ศาลอาญาได้เปิดให้สืบพยานโจทก์เลย

ด้านนายปิยะณัฐ วัชราภรณ์ ทนายความจำเลย กล่าวว่า คดีอาญาที่มีอัตราโทษสูงต้องพิจารณาต่อหน้าจำเลย แต่เนื่องจากมีการแก้ไขวิธีพิจารณาความอาญาว่าพิจารณาลับหลังจำเลยได้เมื่อได้รับอนุญาตจากศาล วันนี้ พล.ต.อ.ประทินป่วยอยู่ในห้องไอซียูจึงไม่ได้เดินทางมาศาล แต่ศาลกลับพิจารณาลับหลังโดยอนุญาตให้ พล.ต.อ.ประทินไม่ต้องมาศาล ตนมองว่าการแก้ไขกฎหมายภายหลังคดีนี้เดินหน้ามาแล้ว อยู่ๆมาแก้ไขว่าสามารถพิจารณาลับหลังจำเลยในคดีอาญาที่มีอัตราโทษสูงได้นั้นมันเป็นโทษต่อจำเลย อย่างไรก็ตาม ตนจะยื่นคำร้องคัดค้านการพิจารณาคดีในวันนี้ให้เป็นไปโดยชอบต่อไป

โดยภายหลังสืบพยานเช้า-บ่ายในวันนี้ยังสืบไม่เเล้วเสร็จ ศาลนัดสืบพยานโจทก์ปาก ร.ท.วิรัตน์อีกครั้งในวันที่ 3 พฤษภาคม เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวในเบื้องต้นพนักงานอัยการโจทก์ได้ยื่นบัญชีพยานโจทก์ไว้ราวๆ 1,000 ปาก โดยศาลสั่งให้พนักงานอัยการไปบริหารบัญชีพยานเเละจัดทำรายการบัญชีพยานมายื่นเสนอให้ศาลพิจารณาต่อไป

สำหรับคดีนี้จะมีการบริหารจัดการคดีโดยกำหนดให้มีการสืบพยานต่อเนื่อง เเละตั้งเป้าให้สืบพยานคู่ความเเล้วเสร็จภายในปีนี้


You must be logged in to post a comment Login