วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

“โลกใบนี้” มีขึ้น-มีลง

On May 6, 2021

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 6 พ.ค. 64)

ช่วงนี้คงไม่มีข่าวพระดังที่ไหนจะเป็นข่าวใหญ่เท่ากับข่าวพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต วัดสร้อยทอง พระนักเทศน์ชื่อดัง หลังจากได้ออกมาแสดงความคิดเห็นการทำงานของรัฐบาลช่วงสถานการณ์โควิด-19 การทำรีวิวสินค้า และนั่งที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอล จนถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และมหาเถรสมาคม (มส.) ออกมาย้ำชัดว่า พระมหาสมปองเข้าข่ายยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งอาตมาก็เคยสนิท ทำงาน ทำการกับพระมหาสมปองมาด้วยกัน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางเรื่อง บางข้อ  

ท่านก็ยอมรับเหมือนคำพูดโบราณว่า “ 4 เท้า ยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” เรียกว่า นักปราชญ์ยังไงก็ตามก็ยังมีโอกาสได้พลาด ได้พลั้ง คนเราธรรมดาก็ต้องมีผิด มีพลาดบ้าง แต่เอาล่ะ พระมหาสมปองผิดครั้งนี้ก็ไม่ถึงขั้นต้องขาดจากความเป็นพระอะไรตามที่บางคนไปกล่าวหาท่าน ต้องมองในมุมที่เรียกว่า คนอายุขนาดนี้ ทำงานมาได้อย่างนี้ ทำให้คนได้รับประโยชน์ มีความสุขกันหลายระดับ อาตมาเคยเห็นมีคนบางคนมีศรัทธาเลื่อมใสกันมากๆ ทั้งๆที่เขาเป็นคนที่มีความรู้ เป็นด็อกเตอร์ด้วยซ้ำไป เขาบอกว่า ฟังองค์อื่นไม่ค่อยเข้าใจ  

แต่ฟังพระมหาสมปองมีทั้งความสุขใจและเข้าใจ นี่ต้องเรียกกันว่า เป็นบุคลากรของศาสนาที่ให้คุณมาเป็นลำดับ แต่อาจจะมาผิดพลาดเรื่องไม่ถึงขั้นขาดจากความเป็นพระ ยังไงเราก็ควรจะถนอมเขา พระที่ทำงานได้ เทศน์ได้ สอนได้เอาไว้บ้าง อย่าเพิ่งถล่มทลายกันไป และอย่าหาว่า อาตมาเข้าข้างในฐานะที่เคยทำงานร่วมกัน อย่างที่พระมหาไพรวัลย์ท่านว่า คนเราเนี่ยบางทีเรื่องอื่นๆก็พูดกันน่าดู เอาเป็น เอาตาย แต่พอเรื่องพระที่เทศน์ไม่ถูกใจเรื่องเดียว เล่นกันหนักเลย ตอนนี้ต้องคอยดูมส. จะพิจารณากันอย่างไร  

คนอื่นอย่าเพิ่งไปตัดสินอะไร ต้องรอให้ท่านมหาสมปองชี้แจงบ้าง ท่านจะชี้แจงหรือจะแก้ไข จะโต้งแย้ง ยังไงต้องฟังท่านก่อน อย่าเพิ่งไปตัดสินใจเอาท่านเข้าคุก เข้าตะราง โดยศาลยังไม่ทันตัดสิน เขาต้องบอกว่า ต้องถือว่า ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่เมื่อค้นหาหลักฐานว่า ท่านผิด ท่านไปรับจ้างรีวิว ได้ค่าตอบแทนเป็นเงินเป็นทองแบบกาละแมร์ หรือยิ่งยง ยอดบัวงาม ก็ต้องเรียกกันว่า ดีเจอะไรต่างๆ อันนี้เรายังไม่รู้เจตนาท่านยังไง เท่าที่ฟังประเด็นว่า ท่านช่วยลูกศิษย์โดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อันนี้ท่านก็ทราบ พระผู้ใหญ่หลายๆองค์ออกมาตักเตือนแล้ว 

อาตมาเชื่อว่า พระมหาสมปองคงไม่เป็นพระดื้อด้าน ท่านจะปรับตัวไม่ทำอีกแน่นอน ทีนี้เรื่องของการเทศน์ว่า ตำหนิรัฐบาล เรื่องหาเตียงไม่พอ หางบประมาณไม่ทัน เรียกว่า ถ้าหากนักการเมืองไม่ฟังเสียเลย โกรธแค้นเอาเป็น เอาตายก็คงจะลำบาก คำว่า พระเทศน์เตือนทางบ้านเมืองเนี่ยมีมานานแล้ว เวลาบ้านเมืองคับขัน พระก็ต้องออกมาให้ข้อคิดสะกิดใจ เอาล่ะ ทั้งหมด ทั้งสิ้น เราไม่ได้เข้าข้าง ถ้าจะตักเตือนก็ต้องมีการชี้ทางออก 

 ถ้าชี้ทางออกด้วย และเจตนาดี เป็นความหวังดี เตือนด้วยความเมตตา ไม่ได้เกลียดชัง ท่านบอกว่า ดูเจตนากันบ้างน่ะ ถ้าหากพระท่านเตือนด้วยความหวังดี ด้วยความเมตตา ก็อย่าไปโกรธแค้นเอาเป็น เอาตายอะไรเลย ถ้าคนไทยเราเนี่ยยังรับฟังคำเตือนได้ตามที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ใครตำหนิ ติเตียน เตือนเราเนี่ย ให้มองว่า เหมือนชี้ขุมทรัพย์ให้เรา อันนี้สำคัญ แต่ถ้ามองว่า เขาติเตือน ตำหนิ เป็นศัตรูของเรา อันนี้ก็จะอยู่กันลำบาก 

 เพราะว่า อาตมาเอง เรื่องความผิดพลาดนั้น มันต้องมีพระในเมืองไทยที่เรียกว่า มีแต่ขาขึ้น ไม่มีขาลง หรือทรงอยู่ โดยไม่มีผิดพลาดเลยก็คงจะยาก พระอย่างท่าน ว.วชิรเมธี นี่ แต่ท่านก็ขาลงแวบเดียว แล้วขึ้นมาต่ออีก เชื่อว่า พระมหาสมปองอาจจะขาลงวูบเดียว เดี๋ยวก็ขึ้นมาอีก อาตมาเองก็โดนเหลือง-แดงนี่ ขาลงไปถนัดเลย ท่าน ว.วชิรเมธี กับพระมหาสมปอง ขาขึ้นช่วงนั้น ท่านว.วชิรเมธีไปโดนคำเดียว มีคนว่าเยอะ แต่ท่านก็รีบปรับตัวขึ้นมาเร็ว 

คือ ไปฉันอาหารร้านลูกศิษย์ แล้วก็พูดไปว่า ร้านนี้ทำอร่อยชักจะกลับวัดไม่ถูก เท่านั้นแหละก็มีสื่อตรงข้าม คือ คนเราเวลาทำอะไร มันจะมีฝ่ายตรงข้าม ลำบาก ฝ่ายตรงข้ามก็จ้องพระทุกองค์แหละที่ดังขึ้นมาต้องมีฝ่ายตรงข้ามทั้งนั้น ซึ่งอาตมาก็มี พระมหาสมปองก็คงต้องมี พอเราจะไปเชียร์อาหารอะไรที่รีวิว ฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ได้รับการไปช่วย ไปรีวิว เขาก็ต้องจ้องร้องเรียนบ้าง อะไรบ้างเป็นธรรมดา เรื่องนี้อาตมาเคยทราบข่าวมาว่า ท่านเข้าอยู่ในข่ายเทพอย่างนั้น อย่างนี้ 

 ตอนหลังท่านก็บอกออกมาแล้ว ทำอยู่พักเดียวอะไรอย่างนี้ เพราะฉะนั้นท่านคงต้องปรับปรุง ระวังตัว แก้ไขมาเรื่อยๆแหละกว่าจะอยู่มาได้ถึงขนาดนี้ แต่อย่าลืมคนเราถ้าผิดแล้วรู้สึกผิด มีโอกาสเป็นบัณฑิตได้ อย่างถ้าท่านพุทโธ ท่านผิดแล้วท่านปรับปรุงแก้ไขจะไปไม่โอกาสท่านกลับมาเป็นบัณฑิตเลย ถล่มจับสึก ติดคุก ติดตะรางเลย เราจะขาดเมตตาธรรมไปหรือเปล่า เอาล่ะ แต่เรื่องตำหนิ ติเตียนจากชาวโลก โดยเฉพาะชาวโลกที่เป็นฝ่ายตรงข้าม ก็ต้องมีบ้าง แต่ไม่ได้ขาดจากความเป็นพระ 

ที่จริงแล้ว ท่านไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด ในช่วงหนึ่งที่ดีมาก เอาตัวรอดมากที่สุด คือ เกิดเรื่องเหลือง-แดง อาตมายังซวยเลย แต่ท่านฉลาด เขาถามท่านอยู่สีไหน ท่านบอกอยู่สีมัคคา คือ สีสามัคคี ส่วนอาตมาโดนโยนเข้าสีแดงเต็มที่ ก็เลยเรียกว่า เสียหายไปมาก ถ้าไม่มีเรื่องเหลือง-แดง ทำให้อาตมาเสียหายนะ อาตมาคงจะซื้อที่ดินให้คนยากจน ปลูกผลไม้ได้มากกว่านี้เยอะ เรียกว่า เงินหายไป 50 ล้าน 100 ล้านเลย  

เพราะคนที่เคยทำบุญประกาศเลิกเลย ขนาดเอาเทป เอาหนังสือเผาใส่ห่อ ใส่กล่องมา แล้วก็เขียนว่า มึงกับกูพอกันที หลงนับถือมาตั้งนาน และต่อมาก็มีคนที่พูดลักษณะนี้มาขอโทษ ขอโพย อาตมาคิดว่า เรื่องธรรมดาแบบนี้ เราก็ต้องยอมรับ โลกใบนี้มีขึ้น มีลง มีได้ มีเสีย มีบวก มีลบ สมหวัง ผิดหวัง แพ้ ชนะ เป็นเรื่องธรรมดาแน่นอน 

เจริญพร 


You must be logged in to post a comment Login