วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

หมอดูรู้ไม่จริง

On March 19, 2021

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 19-26 มี.ค. 64 )

สัญชาติญาณแห่งการรู้ล่วงหน้าเป็นสิ่งที่มีอยู่ในคนและสัตว์ ทั้งนี้เพราะพระเจ้าผู้ทรงสร้างชีวิตเป็นผู้ทรงรอบรู้ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต ผู้ทรงรู้ถึงสิ่งที่ถูกซ่อนเร้นและสิ่งที่ถูกเปิดเผยได้ให้คุณสมบัติแห่งการรู้ล่วงหน้าบางส่วนเป็นคุณสมบัติของคนและสัตว์

สัตว์ได้รับความรู้ล่วงหน้าในรูปของสัญชาติญาณ เช่น ก่อนฝนตกหนักหรือเกิดน้ำท่วม มดจะเริ่มคาบไข่ของมันขึ้นสู่ที่สูง หรือสัตว์จะรู้ล่วงหน้าถึงภัยพิบัติบางอย่างเช่นแผ่นดินไหวก่อนมนุษย์ นี่เป็นความเมตตาของพระเจ้าที่ทรงต้องการคุ้มครองสัตว์ที่ไม่มีสติปัญญาและความรู้เหมือนมนุษย์

ความรู้ล่วงหน้าเยี่ยงสัตว์เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่มี แต่ด้วยการสังเกต การศึกษาค้นคว้าทดลอง การบันทึกสถิติไว้เป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้มนุษย์พอที่จะพยากรณ์อากาศในวันหรือสัปดาห์ถัดไปได้ แต่ถึงกระนั้น สภาพอากาศก็ไม่เป็นไปตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ไว้เสมอไป

ชาวจีนบันทึกลักษณะใบหน้าของบุคคลสำคัญๆที่ประสบความสำเร็จไว้จนกลายเป็นตำรามงคลลักษณ์ บางบริษัทได้จ้างซินแสที่รู้วิชามงคลลักษณ์มาคัดกรองพนักงานที่สอบผ่านการคัดเลือกแล้วอีกครั้งหนึ่งก่อนรับเข้าทำงาน        

สถาปนิกและวิศวกรหลายคนบ่นเป็นหมีกินผึ้งเมื่อต้องแก้ไขแบบก่อสร้างที่เขียนมาตามหลักวิชาการอย่างดีเพียงเพราะซินแสเอาวิชาการดูฮวงจุ้ยมาสั่งให้เศรษฐีผู้ว่าจ้างสร้างอาคารเปลี่ยนแบบใหม่

 สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะมนุษย์ต้องการความมั่นคงในอนาคต มนุษย์จึงอยากรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ด้วยเหตุนี้ จึงมีอาชีพโหร อาชีพซินแสหมอดูเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองคนเหล่านี้ คนที่เชื่อคำทำนายของโหรหรือหมอดูก็เพราะคนผู้นั้นเชื่อว่าโหรหรือหมอดูรู้อนาคต

โหรในอดีตมีหน้าที่ทำนายเหตุการณ์ในอนาคตโดยอาศัยการโคจรของดวงดาวในจักรราศีเป็นเครื่องมือในการบอกเหตุการณ์ในอนาคต แต่ดาราศาสตร์มิใช่การศึกษาเพื่อวัตถุประสงค์เช่นนั้น คนมาหาหมอดูก็เพราะอยากรู้อนาคตของตนหรือไม่ก็มาขอหวยเพื่อหวังรวยแบบง่ายๆ

การไปหาหมอดู การเชื่อหมอดูเป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลาม เพราะเมื่อศรัทธาว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงรอบรู้อดีต ปัจจุบันและอนาคต รู้ถึงสิ่งเร้นลับและสิ่งที่เปิดเผยแล้ว การเชื่อว่าใครมีคุณสมบัติเช่นนี้เหมือนพระเจ้าถือว่าคนผู้นั้นตั้งใครคนหนึ่งขึ้นมามีคุณสมบัติเหมือนพระเจ้า การทำเช่นนี้ถือเป็นบาปใหญ่อย่างหนึ่ง

นบีมุฮัมมัดบอกว่าสิ่งที่หมอดูบอกแก่คนที่มาหาตนนั้นคือเสียงกระซิบจาก “ญิน” ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเร้นลับที่มนุษย์มองไม่เห็น ญินรู้ข่าวสารบางอย่างเหมือนกับโจรที่ตำรวจเลี้ยงไว้เป็นสายลับคอยหาข่าว แต่ข่าวที่มาจากญินยังไม่สมบูรณ์ หมอดูที่ได้รับข่าวสารจากญินจึงแต่งเรื่องขึ้นมาผสมปนเปกันเพื่อให้คำทำนายดูน่าเชื่อ

ญินอาจจะรู้อดีตบางอย่างของใครบางคน แต่มันไม่รู้อนาคตเช่นเดียวกับมนุษย์ คัมภีร์กุรอานเล่าว่านบีสุลัยมานผู้มีอำนาจในการควบคุมญินได้ใช้ญินสร้างมหาวิหาร(มัสยิดอัลอักซอ)ในกรุงเยรูซาเล็ม ในขณะที่ยืนควบคุมการก่อสร้างในห้องกระจก นบีสุลัยมานได้เสียชีวิตในท่ายืนค้ำไม้เท้าอยู่โดยที่พวกญินไม่รู้ พวกญินยังคงทำงานต่อไปจนกระทั่งร่างของนบีสุลัยมานล้มลง พวกญินจึงรู้ว่านบีสุลัยมานเสียชีวิต

เหตุการณ์ตรงนี้ต้องการจะบอกชาวอาหรับและลูกหลานอิสราเอลในสมัยนบีมุฮัมมัดที่เชื่อในเรื่องหมอดูและเชื่อว่าญินรู้อนาคตว่า แม้แต่นบีสุลัยมานตายต่อหน้า พวกญินยังไม่รู้ นับประสาอะไรจะไปรู้อนาคต

นบีมุฮัมมัดกล่าวว่าหากมุสลิมคนใดไปหาหมอดูเพื่อให้หมอดูทำนายอนาคต พระเจ้าจะไม่รับการละหมาดของคนผู้นั้นเป็นเวลาสี่สิบวันและสี่สิบคืน และถ้ายิ่งถลำตัวเข้าไปทำพิธีกรรมบางอย่างที่ตัวเองไม่รู้ ยิ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการหลุดพ้นจากความเป็นมุสลิมหรือตกศาสนาด้วย 


You must be logged in to post a comment Login