วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567

กกต.ชี้แจงการใช้จ่ายเงิน77พรรคพบส่วนใหญ่พลาดเรื่องเอกสารไม่ถึงขั้นผิด

On July 26, 2019

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 กรกฎาคม 2562 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการประชุมชี้แจงแนวทางการใช้จ่ายเงินให้กับ 77 พรรคการเมืองที่ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ประจำปี 2562 เนื่องจาก พ.ร.ป.พรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญมีหลักการและรายละเอียดสาระสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไปจากกฎหมายพรรคการเมืองฉบับเดิม การดำเนินงานและแนวทางการปฏิบัติของพรรคการเมือง นายทะเบียนพรรคการเมือง และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีการเปลี่ยนแปลงไป

ทั้งนี้ จึงต้องมีการชี้แจงแนวทางการใช้จ่ายเงินของพรรคการเมืองที่ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากกองทุน การรายงาน การตรวจสอบ การเรียกคืน การลด และการงดเงินอุดหนุนของพรรคการเมือง รวมทั้งการติดตามและการประเมินผลการใช้จ่ายเงินอุดหนุนของพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ระเบียบ และประกาศต่างๆ เพื่อให้พรรคการเมืองเกิดความเข้าใจและสามารถใช้จ่ายเงินที่ได้รับการอุดหนุนจากกองทุนได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่สามารถนำเงินกองทุนไปอุดหนุนได้ แต่การเลือกตั้งครั้งต่อไปไม่รู้ว่าจะมีเมื่อไร จะสามารถนำเงินกองทุนไปใช้ได้แน่นอน และเมื่อมีสภาแล้ว หากมีปัญหาอะไรขอให้ไปพูดกันในสภา ไม่อยากเห็นประชาชนเรียกร้องด้วยการลงมาเดินถนนอีก

ด้านนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ด้านพรรคการเมือง กล่าวถึงข้อสังเกตเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก่อนและภายหลังการเลือกตั้งว่า ที่ผ่านมาการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองมีข้อจำกัด แต่มีคำสั่ง คสช. ที่ช่วยเปิดโอกาสให้ เช่น การทำไพรมารีโหวตเพื่อให้ทันการเลือกตั้ง แต่หลังจากนี้ไปจะเป็นการบังคับใช้กฎหมายเต็มรูปแบบ ถ้าจะมีการเลือกตั้งในกรณีครบวาระ คืออีก 3 ปี 8 เดือน พรรคการเมืองทุกพรรคจะต้องมีสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมือง ถ้าจะส่งผู้สมัครครบทุกเขตต้องมีสาขาพรรคการเมือง 350 สาขา และมีตัวแทนพรรคการเมือง ตามขั้นตอนการตั้งสาขาพรรคการเมืองต้องใช้เวลา 4-8 เดือน

นายแสวงยังกล่าวถึงเรื่องการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองว่า ไม่ค่อยพบการร้องเรียนว่ามีการทำผิดกฎหมาย แต่ส่วนใหญ่ที่พบมักเป็นเรื่องความผิดพลาดของเอกสาร เช่น เรื่องการเงิน การระดมทุน การบริจาค ที่กรอกหลักฐานการรายงานไม่ครบ แต่ไม่ถึงขั้นเป็นการทำความผิด ส่วนการร้องเรียนพรรคการเมืองตามกฎหมายพรรคการเมืองมีการร้องเรียนจำนวนมาก และมีมากขึ้น โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ พรรคการเมืองทำไม่ถูกกฎหมาย ปฏิบัติยาก หรือเป็นเรื่องทางการเมือง ซึ่งทุกคำร้องล้วนแต่ขอให้ยุบพรรค ทั้งที่ความผิดไม่ถึงขั้นยุบพรรค และพบว่าประชาชนร้องพรรคการเมืองมากกว่าพรรคการเมืองร้องพรรคการเมือง

“กกต. ตรวจสอบให้ทุกคำร้อง แต่ขออย่าตำหนิเรื่องเวลาเร่งดำเนินการ การพิจารณาคำร้องไม่มีเร็วหรือช้า มีแต่ได้ข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ได้ข้อเท็จจริงจนสิ้นกระแสความ หรือมีข้อเท็จจริงพอให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”

นายแสวงยังย้ำอีกว่า อย่านำพรรคการเมืองไปแสวงหาผลกำไร ซึ่งรายได้ของพรรคการเมืองให้ทำตามกฎหมายจะได้ไม่ถูกกล่าวหาว่าเอาพรรคการเมืองไปแสวงหาผลกำไร

สำหรับการอนุมัติจัดสรรเงินอุดหนุนให้ 77 พรรคการเมือง รวมจำนวน  112,413,603.74 บาท พรรคที่ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนมากที่สุดคือ พรรคประชาธิปัตย์ 16,838,239.43 บาท รองลงมาคือ พรรคพลังประชารัฐ 12,748,840.16 บาท พรรคเพื่อไทย 12,654,136.50 บาท พรรคอนาคตใหม่ 12,427,577.21 บาท พรรคไทยรักธรรม 11,095,853.90 บาท พรรคภูมิใจไทย 7,112,093.62 บาท พรรคเสรีรวมไทย 4,831,645.50 บาท ส่วนพรรคที่ได้รับเงินอุดหนุนน้อยที่สุดคือ พรรคพลังเพื่อไทย 15,536.86 บาท


You must be logged in to post a comment Login