วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567

อลหม่านสตช.

On April 10, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 10 เม.ย. 62)

ความอลหม่านอันเนื่องมาจากการโยกย้าย “บิ๊กโจ๊ก” นายพลตำรวจดาวรุ่งที่กำลังโชว์พาวเวอร์ในตำแหน่งอย่างโดดเด่น ที่อยู่ๆก็ถูกเด้งฟ้าผ่าเข้ากรุสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกไม่กี่วันถัดมาก็พ้นจากตำรวจไปเป็นข้าราชการพลเรือนสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีท่ามกลางกระแสข่าวลือต่างๆมากมาย น่าสนใจว่ากระแสข่าวลือที่ออกมาจะจริงเท็จประการใด จะมีคดีความอะไรตามมาอย่างที่เป็นข่าวหรือไม่ ถ้ามีจะถูกขยายผลไปถึงใคร แค่ไหน อย่างไร กระทบกระเทือนถึงใครในกลุ่มอำนาจหรือไม่ จะทำให้อำนาจในมือใครสั่นคลอนหรือเปล่า

ข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจมีอยู่หลายเรื่อง แต่ที่ร้อนที่สุดตอนนี้เห็นจะไม่มีอะไรเกินกว่าความอลหม่านที่เกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อันเกี่ยวกับการโยกย้าย “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดาวรุ่งพุ่งแรงที่กำลังสร้างผลงานอย่างโดดเด่นในหลายคดีทั้งคดีความเกี่ยวกับการเมืองและคดีความทั่วไป

ที่ว่าอลหม่านเพราะไม่มีใครระแคะระคายมาก่อนว่าชะตาชีวิตของ “บิ๊กโจ๊ก” จะพลิกผันอย่างรวดเร็วปานนี้ เพราะกำลังโชว์พาวเวอร์อยู่ดีๆก็มีคำสั่งเด้งกะทันหันจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ “บิ๊กโจ๊ก” ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย

คำสั่งเด้งฟ้าผ่าที่ออกมาเมื่อวันที่ 5 เมษายน ไม่ได้ระบุรายละเอียดเหตุผลที่โยกย้าย เพียงแต่ระบุว่าเพื่อให้การปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และข้อ 8 (1) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552

หลังคำสั่งเด้งฟ้าผ่าออกมามีกระแสข่าวลือหลายทางเกี่ยวกับเบื้องลึกเบื้องหลังคำสั่งย้ายครั้งนี้ จับใจความได้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินๆทองๆ ซึ่งจะจริงเท็จอย่างไรยังไม่อาจยืนยันได้ในที่นี้

ความอลหม่านของเรื่องนี้ยังไม่จบ เพราะมีคนผูกโยงว่า “บิ๊กโจ๊ก” เป็นเด็กในคาถาของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

หลังการเด้ง “บิ๊กโจ๊ก” มีข่าวว่ามีการเรียกประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพื่อหาคนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแทน “บิ๊กโจ๊ก” ในวันอังคารที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา โดยที่ “บิ๊กป้อม” ให้สิทธิ ผบ.ตร. เลือกคนที่เหมาะสมมาทำหน้าที่แทน “บิ๊กโจ๊ก”

ข่าวออกมาไม่นานก็มีข่าวระลอกใหม่ออกมาว่า “บิ๊กป้อม” จะไม่เข้าร่วมประชุม ก.ตร. โดยมีข่าวว่าจะให้เลื่อนประชุม ก.ตร. ออกไปก่อน

เมื่อถึงวันที่ 9 เมษายน “บิ๊กป้อม” ก็หายหน้าไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลตามปรกติ โดยให้เหตุผลว่าป่วย

ในวันเดียวกันนี้ความอลหม่านก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจมาตรา 44 ย้าย “บิ๊กโจ๊ก” อีกครั้ง ครั้งนี้ให้ขาดจากสังกัดเดิมคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เรื่องยังไม่จบแค่นี้

วันเดียวกันคือ 9 เมษายน พล.ต.อ.จักรทิพย์ได้ลงนามในคำสั่งด่วนพิเศษที่ 0007/160 ให้ผู้อำนวยการศูนย์ต่างๆที่ “บิ๊กโจ๊ก” มีชื่อร่วมปฏิบัติการอยู่หานายตำรวจที่มีความรู้ความสามารถเข้าทำงานแทน “บิ๊กโจ๊ก” ในทุกตำแหน่งที่ “บิ๊กโจ๊ก” เคยทำมาก่อนหน้านี้

พูดให้เข้าใจง่ายคือตัดขาดออกจากงานตำรวจทั้งหมด

เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดในระยะเวลา 5 วัน จากนายตำรวจดาวรุ่งที่ตั้งโต๊ะแถลงข่าวโชว์ผลงานไม่เว้นแต่ละวัน กลายเป็นตำรวจดาวร่วงถูกเด้งไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ใครก็รู้ว่าเป็นตำแหน่งที่ไม่มีงานอะไรให้ทำเป็นชิ้นเป็นอัน แถมขาดจากข้าราชการตำรวจมาเป็นข้าราชการพลเรือน

นอกจากความอลหม่านในการโยกย้ายที่น่าสนใจแล้ว สิ่งที่ต้องรอความชัดเจนต่อไปคือ เรื่องเกี่ยวกับกระแสข่าวลือต่างๆที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะจริงเท็จแค่ไหน อย่างไร จะมีคดีความอะไรตามมาอย่างที่เป็นข่าวหรือไม่

ถ้ามีคดีความจะถูกขยายผลไปถึงใคร แค่ไหน อย่างไร กระทบกระเทือนถึงใครในกลุ่มอำนาจหรือไม่ จะทำให้อำนาจในมือใครสั่นคลอนหรือเปล่า

โปรดติดตามตอนต่อไป


You must be logged in to post a comment Login