วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

เชื่อได้ว่าจริง?

On March 12, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 12 มี.ค. 62)

สถานการณ์การเมืองเริ่มมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ทั้งช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรและหลังจากการใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนไปแล้ว ดูเหมือนมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าจะเกิดปรากฏการณ์งูเห่าในพรรคเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความมีระเบียบวินัยของลูกพรรค ขณะเดียวกันก็เริ่มมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าหากทุกอย่างไม่เป็นไปตามประสงค์การเลือกตั้งครั้งนี้อาจถูกทำให้เป็นโมฆะ

สถานการณ์การเมืองยิ่งเข้าใกล้วันเลือกตั้งมากขึ้นเท่าไรจะยิ่งเห็นอะไรอีกมาก ที่ผ่านมาถือว่าเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม น้ำจิ้มที่ได้เห็นกันมาแล้วทำให้พอจะคาดการณ์สถานการณ์ในอนาคตได้อยู่พอสมควร อย่างที่ภาษากฎหมายบอกไว้ว่า…มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า

หลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าอย่างแรกคือ ท่าทีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศไม่สนับสนุน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกหลังการเลือกตั้ง

ท่าทีของนายอภิสิทธิ์มาจากหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคพลังประชารัฐที่เสนอชื่อ “ลุงตู่” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะได้ ส.ส. ทั้ง 2 แบบรวมกันไม่ถึงร้อย แม้จะมาเป็นอันดับ 3 แต่จะมีคะแนนห่างจากพรรคประชาธิปัตย์ระดับ 40 เสียงขึ้นไป

เมื่อพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนมากกว่า จำเป็นอะไรที่จะต้องไปสนับสนุน “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะนี่คือโอกาสอันดีที่จะต่อรองให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แล้วให้พรรคพลังประชารัฐกับพรรคเล็กพรรคน้อยอื่นๆมาร่วมเป็นรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานอันควรเชื่อได้อีกเหมือนกันว่าสถานการณ์อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด

เป็นที่ทราบกันดีว่ากติกาใหม่ที่ร่างกันเขียนรองรับกรณีแบบนี้ไว้แล้ว คือให้ ส.ส. ฟรีโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้โดยไม่ต้องสนใจมติพรรค

ถึงจะแหกมติพรรคแล้วถูกไล่ออกก็สามารถหาพรรคการเมืองใหม่สังกัดได้โดยไม่มีผลกระทบกับสถานะการเป็น ส.ส. ทำให้ย้อนนึกถึงภาพวันที่นายอภิสิทธิ์ได้รับการโหวตให้เป็นนายกฯที่มีกลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ นำ ส.ส. ในเครือข่ายแหกมติพรรคเพื่อไทยไปสนับสนุน

แม้พรรคประชาธิปัตย์จะได้ชื่อว่าเป็นพรรคที่สมาชิกมีระเบียบวินัยมากที่สุด ไม่เคยมีใครแหกมติพรรค แต่ครั้งนี้ไม่แน่ เพราะมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีว่าที่ ส.ส. ของพรรคหลายคนที่แม้ตัวจะอยู่กับพรรคแต่ใจอยู่ที่อื่น เหตุที่ยังอยู่ก็เพราะไม่อยากเหนื่อยกับการหาเสียง

ยิ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย ประกาศตัดขาดนายอภิสิทธิ์ พร้อมทวงบุญคุณว่าที่ผ่านมาถ้าไม่ได้ตัวเองจัดการไม่มีทางได้นั่งเก้าอี้นายกฯ

ต้องไม่ลืมว่ายังมีคนที่ไปร่วมเป่านกหวีดหลงเหลืออยู่ในพรรคประชาธิปัตย์อีกจำนวนหนึ่ง และคนเหล่านี้ก็แสดงท่าทีแข็งขืนกับนายอภิสิทธิ์มาแล้วในการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือให้การต้อนรับนายสุเทพระหว่างลงพื้นที่ รวมถึงกรณีสะสมความไม่พอใจที่ฝ่ายตัวเองถูกมองข้ามในการส่งลงสมัคร ส.ส. ทั้ง 2 ระบบ

จึงพอมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าน่าจะมีงูเห่าเกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์

นอกจากเรื่องในพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ยังมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อาจถูกประกาศให้เป็นโมฆะ เมื่อเกิดความผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยกรณีผู้สมัครพรรคหนึ่งแต่ไปพิมพ์ว่าสังกัดอีกพรรคหนึ่งในการเลือกตั้งล่วงหน้าในต่างประเทศ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นจากการฟ้องร้องกันอุตลุดหลังเลือกตั้งในประเทศจนอาจเกิดการเคลื่อนไหวของมวลชนบางกลุ่ม

นี่ยังไม่รวมเสียงระเบิดที่ดังตูมตามในภาคใต้ ซึ่งขยายวงออกจากพื้นที่ยะลา นราธิวาส และปัตตานี และยังไม่รู้ว่าจะหยุดแค่นี้หรือขยายออกไปแค่ไหน

นี่คือความน่าจะเป็นหรือมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงก่อนและหลังเลือกตั้ง


You must be logged in to post a comment Login