วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

ทำบุญแก้วิกฤต / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On August 12, 2018

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ช่วงนี้ยังมีความหวาดวิตกเรื่องน้ำเรื่องเขื่อนกันอย่างมากไม่ว่าไทยหรือลาว เพราะฝนที่มามากและน้ำหลายเขื่อนก็มีปริมาณมาก ทำให้ต้องมีการตรวจสอบเขื่อนแต่ละแห่งว่ายังมีความมั่นคงแน่นหนาหรือไม่ เพราะโลกเรามีทั้งคุณทั้งโทษหากมนุษย์ไม่ดูแลรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อม

เขื่อนให้คุณมาก เก็บน้ำไว้ใช้ในยามแล้ง ป้องกันน้ำท่วม หรือเอาไปผลิตไฟฟ้า ถ้าการบริหารจัดการดี ไม่ว่าฝนมากหรือน้อยก็จะเกิดประโยชน์มากกว่าโทษ ส่วนเขื่อนพังที่ลาวยังไม่ชัดเจนว่าเพราะยังสร้างไม่เสร็จ หรือสร้างไม่ดี หรือบริหารจัดการไม่ดี เพราะเรื่องฝนตกมากอยู่ที่การบริหารจัดการและการคาดการณ์ต่างๆ หากผิดพลาดความเสียหายก็เกิดขึ้น ดินถล่ม ยิ่งเขื่อนพังยิ่งเสียหาย บาดเจ็บล้มตายเยอะ เสียหายทั้งทรัพย์สินและจิตใจ

เรื่องน้ำท่วมน้ำแล้งบางครั้งทำให้บางชีวิตถึงกับหมดเนื้อหมดตัว อยู่ทำมาหากินไม่ได้ ชาวไร่ ชาวนาน่าสงสารมาก กว่าจะฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ต้องใช้เวลานาน หรือเป็นหนี้ไปชั่วลูกชั่วหลาน ถ้าเจอเหตุการณ์น้ำท่วมน้ำแล้งนานหลายเดือน

เอาล่ะ เรื่องธรรมชาติเมื่อเกิดขึ้นก็ต้องป้องกันแก้ไข แม้จะเป็นเรื่องยากก็ต้องทำให้เสียหายน้อยที่สุด แล้วต้องช่วยเหลือกัน อย่างสถาบันเบื้องสูงทุกพระองค์ทุกยุคทุกสมัยช่วยเหลือเอื้ออาทรให้ประชาชนในยามทุกข์ทุกครั้ง เหมือนเพื่อนบ้านเรามีทุกข์ เราก็ช่วยเหลือ ไม่เพิกเฉยดูดาย

เรื่องน้ำใจ ความเอื้ออาทร ไม่ว่าภาครัฐหรือประชาชน แม้แต่สมเด็จพระสังฆราชยังให้พระช่วยบิณฑบาตช่วยพระเณรในพื้นที่ ภาพพระเณรที่ต้องอยู่บนหลังคาวัด พระเณรก็ลำบากเหมือนประชาชน การช่วยเหลือเจือจาน เผื่อแผ่แบ่งปันเป็นเรื่องสำคัญ ทุกครั้งที่เกิดอุทกภัยหรือภัยพิบัติเราจะเห็นทั้งคนในประเทศและต่างประเทศร่วมช่วยเหลือ ไม่มีเรื่องลัทธิหรือเชื้อชาติ

ก็ขอฝากคนไทยเราที่ทำบุญกันตามเทศกาลเยอะแยะแล้ว เรามาทำบุญช่วยเพื่อนมนุษย์ยามวิกฤตกันบ้าง ทำบุญด้วยเมตตาปรานี บุญจะสูงส่ง บุญจะมีอานิสงส์ที่ดีงาม ให้ผลตอบแทนยิ่งกว่าคุ้มค่า ถ้าเรามีจิตใจที่เมตตา ไม่โหดเหี้ยม ไม่เห็นแก่ตัว ไม่อำมหิต

เห็นเขาทุกข์เขายากเราก็ช่วยเหลือ เป็นบุญกุศลตามที่หลักศาสนาบอกว่า ทำบุญด้วยเมตตาได้อานิสงส์มากกว่าทำบุญปรกติธรรมดา ถ้าทำบุญด้วยความสงสาร ด้วยเมตตา จะเป็นพลังบุญที่สูง เพราะได้ช่วยพี่น้องในยามประสบเคราะห์กรรม

วัดสวนแก้วก็พยายามตั้งกองทุนเหมือนกันคือ กองทุนชุบชีวิตยามตกอับ ถ้ากองทุนนี้เข้มแข็งก็จะสามารถนำไปช่วยอุทกภัย ภัยพิบัติต่างๆ การช่วยไม่จำเป็นต้องให้รัฐบาล จะเป็นวัดหรือมูลนิธิก็ทำได้ คนร่ำรวยในตระกูลใหญ่ๆที่มั่งคั่งมีเงินพันล้าน หมื่นล้าน แสนล้าน ก็ควรตั้งกองทุนกู้วิกฤตต่างๆ เมื่อมีภัยพิบัติจะได้นำมาจัดสรรช่วยเหลือ ภัยพิบัติก็จะไม่หนักหนาสาหัสกันมากเกินไป ก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้แค่นี้

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login