วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567

สร้างสำนึกใหม่ / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On June 14, 2018

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ความวิตกหวาดกลัวว่าจะเกิดสงครามโลก สงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือลดลงทันที เมื่อการพบกันครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับนายคิม จอง-อึน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งทั่วโลกถือเป็นเรื่องที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น บางคนบอกว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อน่าอัศจรรย์

ผู้นำทั้ง 2 ประเทศถูกจับตาทุกฝีก้าวในการเจอกันครั้งแรกในที่ประชุมที่สิงคโปร์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้สหรัฐถือว่าเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่อันตรายมากที่สุดในโลก แต่ก็พลิกผันอย่างน่าอัศจรรย์เมื่อผู้นำ 2 ประเทศสามารถจับมือกันครั้งประวัติศาสตร์และลงนามในข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ต้องดูว่าในระยะยาวจะทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์แบบเบ็ดเสร็จหรือไม่ ซึ่งก็อยู่ที่ความจริงใจของเกาหลีเหนือ

ภาพการจับมือและตบไหล่ของ 2 ผู้นำ แม้บางคนอาจมองว่าเป็นแค่การทูตหรือเกมการเมืองก็ตาม แต่ก็เป็นภาพที่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์โลก โลกรู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัยขึ้นมาไม่มากก็น้อย หลายประเทศทั่วโลกที่มีความขัดแย้งกันน่าจะมีการพูดคุยกันเช่นนี้ โดยเฉพาะบรรยากาศระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้น่าจะดีมากขึ้น ทั้งการลงทุน การท่องเที่ยว และการเดินทางระหว่างคนเกาหลีด้วยกัน

แค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นไปได้แค่ไหน แค่เรารู้สึกว่าโลกเราปลอดภัยจากสงครามนิวเคลียร์ ได้เห็นสันติสุขเกิดขึ้น สันติภาพก็ต้องตามมาในไม่ช้า ถ้าไม่มีอุปสรรค ไม่พลิกผันกลับไปเป็นความขัดแย้งความดื้อด้านดุดันอย่างในอดีต ไม่มีใครอยากเห็นภาพดุดันของผู้นำเกาหลีเหนือ หรือการแสดงความก้าวร้าวของผู้นำสหรัฐ

ประเทศไทยน่าจะเอามาคิดมาดูว่าทำไมประเทศเรายังมีความขัดแย้ง ความแตกแยก ไม่มองอะไรที่ดีงาม ไม่คิดถึงอนาคต ทำไมเขาขัดแย้งกันรุนแรงกว่าเรามากมายจึงสามารถมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่แบ่งฝ่ายเแบ่งพวก ต้องเอาให้ตายไปข้างหนึ่ง เหลือง แดง คนดี คนชั่ว พรรคใหญ่ พรรคเล็ก พรรคเก่า พรรคใหม่ คิดแต่จะพุ่งหอกเข้าใส่กัน เอาความเท็จมาพูด ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ เอาเรื่องเท็จมาดิสเครดิตกัน ร้องห่มร้องไห้ยิ่งกว่าละครน้ำเน่า

ลองปรับเปลี่ยนความคิดกันใหม่ได้มั้ย ร่วมไม้ร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจ เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าต่อไปได้มั้ย ขนาดเขาขัดแย้งกันยิ่งกว่าเราเขายังทำได้และยังมาเจรจาใกล้เราด้วย แค่สิงคโปร์ เห็นข่าวแล้วก็คิดถึงเราเองบ้าง แกนนำเหลือง แกนนำแดง แกนนำพรรคใหญ่พรรคเล็ก คนมีอำนาจ นายทุน ขุนศึก เลิกใส่ร้ายป้ายสีกัน เอาความจริงใจ ความดี ความสามัคคีมาร่วมกัน สร้างความปรองดองจริงๆ ไม่ใช่พูดแต่ปาก พูดอย่างทำอย่าง คิดปองร้ายกันอยู่ร่ำไป อย่างนี้มันไม่ไหว ไม่ปรองดองแต่ปองร้าย แล้วเมื่อไรประเทศไทยจะเชิดหน้าชูตา คนไทยจะมีความสุขเมื่อไร

อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข สันติวิธี อยู่กันด้วยดีไม่ได้หรือ ร่วมมือกันแก้ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ไม่ต้องโง่ให้ใครมายึดมาทำลาย ระบอบการปกครองต้องให้โลกเขายอมรับด้วย ไม่ใช่ไปผลักไปสร้างเงื่อนไขให้ทหารเข้ามา ไปเชิญไปเรียกร้องเขา เขาก็เลยเอารถถังมายึด บ้านเมืองก็ย่ำแย่ เศรษฐกิจก็แย่ อดอยากปากแห้งท้องหิวกันไป

คนไทยต้องมีสำนึกกันใหม่ได้แล้ว เรามีบทเรียนทั้งในอดีตและจากประเทศอื่นๆ คนที่เป็นศัตรูกันกลับมาเป็นมิตรกันมากมาย นี่คนไทยด้วยกันเองจะฆ่าล้างกัน ขอให้ทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะสีอะไรก็เป็นคนไทย ถ้าเราสามัคคีปรองดองกันได้ก็รีบทำกันเถิด สันติภาพ สันติสุข และประโยชน์สุขก็จะกลับมา

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login