วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

ด้านได้อายอด?

On April 20, 2018

คอลัมน์:จับกระแสการเมือง “ด้านได้อายอด?”

โดยทีมข่าวการเมือง (โลกวันนี้วันสุข วันที่ 20+27 เมษายน 2561)

การเคลื่อนไหวทางการเมืองส่งกลิ่นเน่าคลุ้งไปหมด ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หรือไม่ หลังจาก “โรดแม็พ” เลื่อนแล้วเลื่อนอีก แม้แต่ “แป๊ะมีชัย” ยังบอกว่า “ถ้าอุกกาบาตไม่ตกก็เลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2562”

โดยเฉพาะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ออกมารับหน้าเสื่อตั้งพรรคการเมืองและประสานสิบทิศกับก๊วนการเมืองต่างๆเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ “สืบทอดอำนาจ” ต่อ

สมคิด-ตู่

จนมีคำถามว่ามีความละอายหรือไม่ที่เอา “ทำเนียบรัฐบาล” มาจัดตั้งพรรคการเมือง เหมือนที่พรรคเก่าแก่จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็หลุดปากว่า นายสมคิดกำลังตั้ง “พรรคภูมิธรรม” ซึ่ง พล.อ.ยุทธศักดิ์ประกาศพร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เต็มที่

การตั้งนายสกลธี ภัททิยกุล จากพรรคประชาธิปัตย์และใกล้ชิดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองผู้ว่าฯ กทม. นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพัทยา เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

การประเคนตำแหน่งให้นักการเมืองเข้ามาร่วมแชร์อำนาจจึงเหมือน “ปาร์ตี้การเมือง” เพื่อ “เคาะกะลา” เรียกก๊วนการเมืองต่างๆให้รีบตัดสินใจก่อนจะตกขบวนรถ โดยเฉพาะพรรคเก่าแก่ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ขณะนี้  จึงไม่แปลกใจที่ทำไมมีการพักโทษ “กำนัน” ผู้กว้างขวางเมื่อปลายปีที่แล้ว ทั้งที่เหลือโทษจำคุกอีกกว่า 20 ปี

ส่วน “ทั่นผู้นำ” ที่เคยทำท่ารังเกียจนักการเมืองอย่างยิ่งจนต้องตั้งคำถาม 4-6 ข้อให้ประชาชนตอบ วันนี้ไม่ใช่แค่ยอมรับว่าตัวเองเป็นนักการเมือง แต่ยัง “พลิกลิ้น” ว่าไม่เคยรังเกียจนักการเมือง  ทั้งยังเล่นตัวว่าไม่ได้อยากเล่นการเมือง  แต่อนาคตอยู่ที่ประชาชนจะกำหนด   ส่วนจำเป็นต้อง “อยู่ต่อ” หรือไม่  ให้รอหลังเดือนมิถุนายน  แต่ไม่ลงเลือกตั้งแน่ !

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาเกทับว่าไม่แปลกใจการดูดนักการเมืองเพื่อสนับสนุน “บิ๊กตู่”  เพราะรู้ตั้งแต่มีนักการเมือง 3 คนไปพบนายสมคิดแล้ว ซึ่งไม่ขัดข้องที่ “บิ๊กตู่”เอานักการเมืองไปหนุน  แต่อย่าสร้างบรรทัดฐานการเลือกตั้งโดยใช้อำนาจรัฐ  ซึ่ง “บิ๊กตู่” ควรเสนอนโยบายมาแข่งขันดีกว่าชูตัวบุคคล  ทั้งยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่จับมือพรรคเพื่อไทยและไม่เอาพรรคทหาร

การเมืองไทยต้องดูกันยาว  เพราะ “ลุงตู่” พูดเชิงดูถูกพรรคประชาธิปัตย์  ให้ดูท่าทีหลังการเลือกตั้ง  โดยเฉพาะพลังดูดนักการเมืองทั้งน้ำเน่าและมาเฟียซึ่งจะเห็ยชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ   พร้อมๆกับการเดินสายหาเสียงและโฆษณาชวนเชื่อ หว่านเงินสารพัดโครงการ เปิดเพจ แต่งเพลงและดึงดารานักร้องมา เพื่อสร้างความชอบธรรมเพื่อ “อยู่ยาว-อยู่นาน” 

แต่เรื่องของ “ผลประโยชน์และอำนาจ” อะไรก็เกิดขึ้นได้  แม้จะมี “อำนาจจากปลายกระบอกปืน” อย่างที่นักรัฐประหารรุ่นพี่ “ยังเติร์ก จปร.7” พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร  ฝากถึง “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กป้อม”ว่า “ความเป็นคนจะสิ้นสุดลงทันทีที่เป็นนักการเมือง” และให้รีบจัดการเลือกตั้ง คืนอำนาจให้ประชาชน  แต่ถ้า “บิ๊กตู่” จะตั้งพรรคการเมืองหรือกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก  ก็จะรอดูว่าอนาคตจะเป็นไปอย่างไร?

แม้บ้านเมืองยังจมปลักกับ “กลุ่มอำนาจโบราณ” แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ประชาชนว่า…จะเลือก “ทางสายเก่า” ที่ฝากอนาคตไว้กับ “กลุ่มอำนาจเก่า” หรือจะเลือก “ทางสายใหม่” ที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจอนาคตของตัวเองและประเทศชาติ !

 

 

 

 


You must be logged in to post a comment Login