วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

ทางด่วน-เรือด่วนคลองแสนแสบ / โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย

On December 28, 2017

คอลัมน์ : โลกอสังหาฯ
ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ผมหวังใจให้คุณความดีที่ทุกท่านได้เพียรประกอบจงดลบันดาลให้พบแต่ความสุขความเจริญ คิดสิ่งดีๆได้สมดังปรารถนา ไปไหนก็แคล้วคลาดปลอดภัย มีแต่คนดีงามมาห้อมล้อม คนพาลจงห่างไกล สร้างสรรค์ครอบครัวและประเทศชาติของเราให้ยั่งยืนสถาพร (บทความฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายในปี 2560 ผมจึงขอโอกาสนี้อวยพรทุกท่าน)

ฉบับนี้ขอกระทุ้งเรื่องการสร้างทางด่วนราชดำริและการปรับปรุงการจราจรทางน้ำ อยากให้ทุกฝ่ายเห็นความจำเป็นในการร่วมมือกับรัฐบาลก่อสร้างทางด่วนเชื่อมทางด่วนขั้นที่ 2 ที่อุรุพงษ์กับทางด่วนขั้นที่ 1 ที่มักกะสัน เพื่อระบายการจราจรที่ราชดำริและประตูน้ำซึ่งถือว่าวิกฤตที่สุด และยังเสนอแผนการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคทางน้ำเพิ่มเติม รวมทั้งการประกันภัยแก่ผู้ใช้บริการเรือด่วน

การสร้างทางด่วนเพื่อกระจายการจราจรตามแนวคลองแสนแสบสมควรดำเนินการอย่างยิ่ง เพราะการจราจรใจกลางเมืองติดขัดอย่างมาก โดยเฉพาะบริเวณถนนราชดำริ ต้นทุนการสูญเสียน้ำมันและเวลาของประชาชนส่วนใหญ่มีความสำคัญต่อประเทศชาติโดยรวม อย่างไรก็ตาม การเวนคืนควรจ่ายค่าทดแทนให้เหมาะสมกับความเป็นจริง ควรเคารพต่อศาสนสถานและความเป็นชุมชนมุสลิมดั้งเดิมที่อยู่อาศัยกันมาตั้งแต่สมัยตั้งกรุงเทพมหานคร

ที่ผ่านมาการประท้วงของชาวมุสลิมที่บ้านครัวต่อการก่อสร้างทางด่วนนี้ เพราะมีการเวนคืนมัสยิดและกุโบร์ (ที่ฝังศพ) หรือบ้านเรือนชาวมุสลิม การต่อสู้และความขัดแย้งเป็นเวลายาวนานและเกิดขึ้นเป็นระยะๆ จนเดือนพฤศจิกายน 2558 จึงมีข้อสรุปว่า “ไม่ต่อ พ.ร.ฎ.เวนคืนบ้านครัว คมนาคมสั่ง กทพ. เจรจาบีอีซีแอลยุติ หลังยืดเยื้อมากว่า 20 ปี” (https://goo.gl/QUAPUf) แต่ความเป็นจริงการดำเนินการไม่น่าเกิดผลกระทบมากนัก

ผมจึงขอเสนอแนวทางการเวนคืนที่ดินบริเวณใกล้เคียงเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยแบบห้องชุดแนวราบที่ออกแบบคล้ายบ้านเดี่ยวยกระดับ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการย้ายที่อยู่อาศัย ทำให้วิถีชีวิตไม่ได้รับผลกระทบจากการรื้อย้ายบ้านหรือชุมชนออกไป นอกจากนั้นชุมชนในพื้นที่เดิมบางส่วนยังเป็นชุมชนแออัด หากสามารถสร้างใหม่ให้มีความสูงเพิ่มขึ้น ผู้ถูกเวนคืนได้รับผลกระทบน้อยและได้ประโยชน์จากคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คงทำให้ประชาชนยอมรับการเวนคืน

รัฐบาลอาจพิจารณาสร้างทางด่วนใต้ดินช่วงบริเวณดังกล่าวใต้คลองแสนแสบอีกชั้นหนึ่ง คือสร้างทางด่วนใต้ดิน 2 ชั้น เป็นช่องขาไปและขากลับ บางส่วนอาจล้ำเข้ามาในเขตกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดินในชุมชนแออัด จึงสมควรจ่ายค่าทดแทนตามสมควร แต่คงเป็นเงินไม่มากนักสำหรับการลงทุน เนื่องจากที่ดินมีศักยภาพในการพัฒนาทางอื่นๆต่ำ มูลค่าจึงไม่สูงเช่นเดียวกับที่ดินใจกลางเมืองอื่นๆบริเวณใกล้เคียง

นอกจากนี้เพื่อเป็นตัวอย่างความเสมอภาคระหว่างประชาชนทั่วไปกับอาคารขนาดใหญ่ รัฐบาลพึงเวนคืนอาคารขนาดใหญ่ที่ก่อสร้างขวางแนวสร้างทางเชื่อมทางด่วนนี้ แม้อาคารเหล่านี้จะได้รับอนุญาตและก่อสร้างไปแล้ว แต่ปัจจุบันกลับกีดขวางการเชื่อมทางด่วนขั้นที่ 1 และทางด่วนขั้นที่ 2 จึงควรเวนคืนและรื้อย้ายเช่นกัน สิ่งที่รัฐบาลและกรุงเทพมหานครควรดำเนินการร่วมกันคือ การก่อสร้างทางด่วนเชื่อมต่อระหว่างทางด่วนขั้นที่ 1 ตรงมักกะสันกับทางด่วนขั้นที่ 2 ตรงอุรุพงษ์ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรบริเวณราชประสงค์ ประตูน้ำ และราชปรารภ ซึ่งถือเป็นจุดวิกฤตที่สุดแห่งหนึ่ง

อนึ่ง ขณะนี้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนตลอดแนวคลองแสนแสบในเขตราชเทวีและปทุมวัน เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2554 ซึ่งเป็นการต่ออายุพระราชกฤษฎีกาเดิม โดยแนวเวนคืนอาจกว้างเพียง 100 เมตร อาจทำให้ประชาชนสับสนเรื่องการเวนคืนที่ดินของชาวบ้าน ดังนั้น ในอนาคตหน่วยราชการที่รับผิดชอบการเวนคืนควรกำหนดเขตการเวนคืนจริงให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นผู้อยู่ในเขตเวนคืนที่กว้างเกินความเป็นจริงอาจตกใจ และที่สำคัญทำให้ไม่สามารถขายทรัพย์สินได้ เนื่องจากผู้ซื้ออาจไม่กล้าซื้อด้วยเกรงจะถูกเวนคืนนั่นเอง

การจราจรโดยอาศัยเรือด่วนนับเป็นทางเลือกหนึ่งในสถานการณ์ที่ไม่มีโอกาสอื่นในการพัฒนา ในอนาคตกรุงเทพมหานครสมควรนำคลองนี้มาใช้เพื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าและเดินเรือต่อไป โดยทางรถไฟฟ้าเส้นผ่านฟ้า-ราชเทวี-คลองตัน-รามคำแหงจะเป็นเส้นทางที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดเส้นหนึ่งไม่แพ้เส้นสุขุมวิท เพราะประชาชนอาศัยอยู่ตามเส้นทางนี้จำนวนมาก เชื่อว่าจะมีผู้ใช้บริการมากกว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเสียอีก สำหรับประเด็นการสัญจรทางน้ำที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ

1.การประกันภัยกับผู้ได้รับความเสียหาย เช่น ตกน้ำ บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการใช้บริการเรือด่วน

2.การมีหน่วยตรวจสอบการให้บริการอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

3.การปรับปรุงสภาพเรือและตลิ่ง เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้อยู่อาศัยริมคลองในระหว่างการเดินเรือ

4.การขยายเส้นทางเดินเรืออื่นๆ เช่น คลองลาดพร้าว คลองสอง เป็นต้น

การวางแผนพัฒนาเมืองที่ดีจะทำให้การอยู่อาศัยของประชาชนมีความสงบสุข ในรุ่นที่ผ่านมาประชาชนเมืองต้องย้ายออกไปถึงบางกะปิ มีนบุรี ในอนาคตอาจต้องย้ายออกไปไกลถึงหนองจอก ฉะเชิงเทรา เพราะขาดการวางแผนพัฒนาเมืองที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการกีดขวางความเจริญและสร้างความเจ็บปวดแก่ประชาชน

สวัสดีปีใหม่ 2561 ประเทศชาติ ประชาชน จงเจริญ


You must be logged in to post a comment Login