วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2567

ก่อนหลัง27ก.ย.

On September 25, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

วันที่ 27 กันยายนนี้ มีเรื่องให้ลุ้นสองเรื่อง คือ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะอ่านคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวลับหลังจำเลยหรือไม่ ถ้าอ่านผลจะออกมาอย่างไร หลังวันที่ 27 กันยายน ต้องลุ้นว่าอดีตนายกฯหญิงจะได้เวลาออกมาปรากฏตัวต่อสาธารณะและพูดถึงเรื่องราวที่ผ่านมารวมถึงอนาคตของตัวเองได้หรือยัง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลคดี และการเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯจะออกมาในรูปไหน อย่างไร แต่ชื่อของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จะเป็นก้อนกรวดในรองเท้าท็อปบู๊ตของผู้มีอำนาจ แม้จะสร้างความเจ็บปวดให้ไม่ได้มาก แต่จะสร้างความรำคาญไปได้อีกนาน

ไฮไลท์การเมืองสัปดาห์นี้ แน่นอนว่าทุกสายตาจับจ้องไปวันที่ 27 กันยายน วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดอ่านคำพิพากษาคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวที่มีอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลย

สิ่งที่ทุกคนรอดูไม่ใช่กรณีที่ว่าอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่ไม่ไปฟังคำตัดสินครั้งที่แล้วจะเปลี่ยนใจกลับมาฟังคำตัดสินหรือไม่ เพราะรู้กันดีอยู่แล้วว่าคงไม่มา

แต่สิ่งที่ทุกคนใจจดใจจ่อรอดูคือคำพิพากษาที่จะออกมาจากศาลว่าจะออกมาทำนองไหน อย่างไร แต่ก่อนหน้านั้นต้องลุ้นก่อนว่าศาลจะตัดสินใจอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยหรือไม่ หรือว่าจะเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะตามตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาได้

การอ่านหรือเลื่อนอ่านคำพิพากษาล้วนมีผลต่ออดีตนายกฯยิ่งลักษณ์

ถ้าศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยแล้วผลออกมาเป็นลบต่ออดีตนายกฯยิ่งลักษณ์อย่างมาก จะเป็นช่องทางให้อดีตนายกฯสามารถนำคำพิพากษาไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไป โดยเฉพาะการยื่นขอลี้ภัยอย่างเป็นทางการ เพราะคำพิพากษาที่เป็นลบซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายสาธารณะตามที่แถลงไว้กับรัฐสภา (ไม่เกี่ยวกับการทุจริต) จะเป็นเอกสารหลักฐานชิ้นสำคัญในการยื่นขอลี้ภัย เพราะจะถูกมองว่าผลของคดีนี้มาจากเรื่องการเมือง

แต่ถ้าหากศาลตัดสินใจเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไป ก็ต้องรอดูว่าอดีตนายกฯจะเลือกทางเดินอย่างไร

จะเก็บตัวอยู่เงียบๆต่อไป หรือว่าจะใช้แนวทางเดียวกับดร.ทักษิณ ชินวัตร ในการใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ โดยไม่ได้อยู่ในสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะถึงวันนัดอ่านคำพิพากษาความเคลื่อนไหวเรื่องการติดตามหาตัวพาอดีตนายกฯหลบหนีกลับมาเป็นข่าวคึกคักเข้มขึ้นอีกครั้ง

มีการพูดถึงนายตำรวจที่เป็นเด็กของนักการเมืองใหญ่ทางภาคเหนือเป็นคนพาหนี มีการพูดถึงเส้นทางการหลบหนีที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องเปลี่ยนรถและเดินข้ามแม่น้ำเพื่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

การพูดถึงนายตำรวจที่เป็นเด็กนักการเมืองเป็นผู้พาหลบหนี การตั้งกรรมการสอบสวนนายตำรวจที่พาหลบหนีก็เพื่อที่จะเคลียร์ผู้มีอำนาจในปัจจุบันให้พ้นจากข้อครหาเปิดไฟเขียวให้หนี หรือสั่งให้พาหนี ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากก่อนหน้านี้

การพูดถึงเส้นทางและวิธีการหลบหนีที่เป็นไปอย่างทุลักทุเลก็เพื่อตอกย้ำให้เห็นภาพว่าอดีตนายกฯคิดหนีมานานแล้ว ไม่ได้ตั้งใจที่จะอยู่สู้ตามกระบวนการยุติธรรมจนจบทุกขั้นตอนอย่างที่ประกาศไว้แต่แรก

ทั้งนี้ เพื่อลดเครดิตความน่าเชื่อถือ และเรียกแขกที่เป็นฝ่ายตรงข้ามให้กันมาช่วยกันโจมตี

เรียกว่าเป็นช่วงเวลาขยี้เพื่อเคลียร์ตัวเองและเรียกศรัทธาคืน

วันที่ 27 กันยายนลุ้นศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยหรือไม่ ถ้าอ่านผลของคำพิพากษาจะออกมาอย่างไร

หลังวันที่ 27 กันยายนลุ้นความเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯว่าจะได้เวลาออกมาปรากฏตัวต่อสาธารณะและพูดถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาพร้อมทั้งแนวทางในอนาคตได้หรือยัง

ไม่ว่าผลคดี และการเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯจะออกมาในรูปไหน อย่างไร แต่ชื่อของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จะเป็นก้อนกรวดในรองเท้าท็อปบู๊ตของผู้มีอำนาจ แม้จะสร้างความเจ็บปวดให้ไม่ได้ แต่จะสร้างความรำคาญไปได้อีกนาน


You must be logged in to post a comment Login