วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567

สวีเดนรุดหน้าเลิกเงินสด

On September 14, 2017

จากสถิติผู้ประกอบการและผู้บริโภค หันมาใช้ “เงินดิจิทัล” เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามการรณรงค์ของภาครัฐ ทำให้สวีเดนมีแนวโน้มสูงจะประสบความสำเร็จ กลายเป็นประเทศแรกของโลกที่เลิกใช้เงินสดโดยสิ้นเชิง

ทางการสวีเดนตั้งธงไว้ว่า จะผลักดันประเทศเป็นเขตเศรษฐกิจไร้เงินสด (Cashless Economy) หรือสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ในปี 2030 หรืออีก 13 ปีข้างหน้า

ด้วยเห็นว่า การใช้ “เงินดิจิทัล” (เงินอิเล็กทรอนิกส์) ผ่านบัตรเครดิตประเภทต่างๆ และระบบจ่ายโอนเงินออนไลน์ แทนเงินสดที่เป็นกระดาษและเหรียญโลหะ มีข้อดีหลายอย่าง

ข้อดีส่วนหนึ่งที่ภาครัฐจะได้รับ คือ สามารถควบคุมเงินภาษีได้รัดกุมขึ้น และธนาคารกลางจะประหยัดงบได้มากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องลงทุนออกธนบัตรและเหรียญใหม่ รวมทั้งไม่ต้องขนส่งเงินไปยังจุดหมายต่างๆ

ส่วนประโยชน์ที่ผู้ประกอบการ ซึ่งรวมทั้งสถาบันการเงิน และผู้บริโภคจะได้รับ ประกอบด้วยความรวดเร็ว สะดวก คล่องตัวในการจ่ายเงิน และทำธุรกรรมการเงินอื่นๆ ขณะผู้บริโภคมีความปลอดภัยสูงจากการถูกจี้ปล้น เนื่องจากไม่ได้พกเงินสดติดตัว

สำหรับสถานการณ์ในสวีเดน ธนาคารกลางสวีเดน (Riksbank) ระบุว่า สถิติการใช้เงินสดซื้อสินค้าในปีล่าสุด 2016 เหลือเพียง 1% ขณะร้านค้าปลีกที่ยังใช้เงินสดอยู่ทั่วประเทศมีต่ำกว่า 20%

ส่วนจำนวนเงินสด สำนักงานสถิติแห่งชาติสวีเดน ระบุว่าเหลือหมุนเวียนอยู่ในระบบในไตรมาสแรกปีนี้เพียง 56,800 ล้านโครนา ลดลงจาก 65,000 ล้านโครนา ในปีที่แล้ว และลดลงจาก 106,000 ล้านโครนา ในปี 2009

โพลสำรวจความเห็นผู้ประกอบการขนาดเล็กสวีเดนเกือบ 800 ราย ดำเนินการโดยสถาบันเทคโนโลยี KTH แห่งกรุงสต็อกโฮล์ม พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 67% ตั้งใจทยอยลดใช้เงินสดจนกระทั่งไม่ใช้เลยในปี 2030 ตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้

ศาสตราจารย์นิคลาส อาร์วิดสัน หัวหน้าทีมทำโพลของ KTH วิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่เอื้อให้แผนผลักดันประเทศสู่ระบบการเงินมิติใหม่ของสวีเดน รุดหน้าไปด้วยดี ได้แก่ การมีโครงสร้างระบบสื่อสารที่ดี โดยสวีเดนเป็นประเทศมีระบบไอทีก้าวหน้าระดับแนวหน้าของสหภาพยุโรป

นอกจากนั้น สวีเดนยังเป็นประเทศเล็กมีประชากรเพียง 10 ล้านคน และมีสถิติการทุจริตคอร์รัปชันต่ำ ทำให้ประชาชนไว้วางใจรัฐบาล ธนาคาร และสถาบันการเงินอื่นๆ โดยเชื่อมั่นว่าจะไม่ถูกโกงในการใช้ระบบจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์

การผลักดันโครงการนี้ มีฝ่ายไม่เห็นด้วยจำนวนหนึ่ง แต่พลังคัดค้านไม่แข็งแกร่งพอที่จะต้านกระแสการขับเคลื่อนได้


You must be logged in to post a comment Login