ร่างทรง? / โดย พระพยอม กัลยาโณ

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ช่วงนี้เรียกว่าเป็นยุคร่างทรงระบาด ทำให้หลายแห่งในโลกเกิดความไม่สงบสุขด้วยลักษณะที่ไม่ปรกติอะไรบางอย่าง ตัวอย่างกรณี “น้องพลอย” น.ส.พลอย นรินทร์ผลิผล อายุ 28 ปี ที่ถูก นายพลกฤต วิเศษ (เอส) อดีตสิบเอกทหารบีบคอจนเสียชีวิตและนำศพไปเผาทำลาย ซึ่งแม่ของน้องพลอยไม่ค่อยเชื่อเรื่องร่างทรง แต่ก็มีร่างทรงเข้าไปร่วมในงานศพและเตือนให้ระวังตัวอาจจะมีอันตรายมาถึงตัว ถ้าไม่หยุดให้ข่าว

ความจริงคนก็ขวัญเสียอยู่แล้ว มาเจอคนพูดจาทักแบบนี้อีก ก็ยิ่งทำให้มีความทุกข์เพิ่มขึ้น แต่แม่น้องพลอยไม่เชื่อและยังประกาศว่าจะไม่หยุดอะไรทั้งนั้นและจะไม่อโหสิกรรมนายพลกฤตและคนที่เกี่ยวข้องทุกคนด้วย

อาตมาก็เห็นว่า ถ้าจะเตือนให้ดีๆก็ได้ คือใช้จิตวิทยาหน่อย อย่าไปบอกว่ามีลางร้ายอะไร เหมือนตัวเองมีหูทิพย์ตาทิพย์ เรื่องแบบนี้เคยมีตัวอย่างร่างทรงเจ้าแม่ตะเคียนที่ทำนายใครต่อใครไปหมด แต่ลืมดูตัวเองว่าจะโดนฆ่าเมื่อไร

ใครเชื่อเรื่องพวกนี้ก็อย่าเชื่อจนหมดเหตุหมดผล ต้องเชื่อแบบมีเหตุผลเอาไว้บ้าง จะได้ไม่เข้าทางพวกหมอดูหมอเดาจนเราต้องเป็นเหยื่อและเดือดร้อนทุกข์ทรมาน ซึ่งไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เพราะพวกนี้จะฉวยโอกาสมากันตอนเราทุกข์ ทำไมไม่มาดูตั้งแต่ตอนแรกๆ แต่มาตอนที่พบศพแล้ว ถ้าเก่งจริงก็น่าจะช่วยตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหากันนาน พอมีการจับได้ไล่ทันคนที่กระทำผิดก็มาผสมโรงทันที อย่างนี้เขาเรียกว่าฉวยโอกาส

โชคดีของแม่น้องพลอยที่ยังมีสติ มีเหตุผล ไม่คล้อยตามพวกร่างทรงไปอย่างไม่มีเหตุมีผล ก็ให้คิดเป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าคนที่จะดูอะไรให้ต่างๆนานานั้น ต้องดูจังหวะ ดูเหตุผล ดูสถานการณ์ด้วย อย่ามาซ้ำเติมช่วงที่เขากำลังเป็นทุกข์

ถ้าพูดให้เขาเป็นสุข ค่อยๆกระซิบบอกก็ได้ว่าอย่าให้เป็นข่าวครึกโครมนัก จนกว่าเรื่องจะสุดซอยว่าคือรู้ตัวคนร้ายทั้งหมด วันที่เท่าไร ช่วงไหน จะได้แก้ไขและป้องกันได้ แต่ไอ้ที่ทายโครมๆและยังทักโครมๆอย่างนี้ แล้วยังไม่ได้บอกถึงปัญหาและการป้องกันแก้ไขอีกด้วย มันจึงเป็นแค่การฉวยโอกาสเท่านั้น

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login