วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

จนแล้วฉลาด ทุกข์แล้วฉลาด / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On November 1, 2016

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

พูดถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจนั้น เสียแน่นอน แต่คนไทยก็กล้าได้กล้าเสีย เพราะอยู่ในช่วงการไว้อาลัยการสวรรคตของในหลวงของเรา เทศกาลตรุษจีนก็มีข่าวว่า คนไทยเชื้อสายจีนจะยกเลิกการจัดงานตรุษจีนที่เยาวราช

อะไรต่างๆที่เราเคยสนุกสนานรื่นเริง ก็มีการยกเลิกไปหลายเรื่องหลายอย่าง แต่บางคนก็บ่นว่ามีปัญหาเรื่องรายได้ อย่างอาชีพเต้นกินรำกิน เกี่ยวกับความบันเทิง แต่บางคนก็ยอมรับ จะยอมขาด ยอมจน เพราะอยากจะไว้ทุกข์ไว้อาลัยให้กับในหลวง

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าคนไทยใจเด็ด เรื่องสนุกสนานถือว่าเป็นเรื่องเล็ก เรื่องการไว้อาลัยเป็นเรื่องใหญ่ แต่เราคงไม่ถึงขั้นว่าใหญ่จนเสียไปหมดทุกเรื่อง เหมือนเรายอมอยู่แบบเล็กๆที่เรียกว่า “จิ๋วแต่แจ๋ว” อาจไม่มีรายได้อะไรมากมายใหญ่โตเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย เราอาจมีรายได้ลดลง แต่จิตใจเราแจ๋วในเรื่องเคารพรัก เรื่องการเทิดทูน แต่ก็คงไม่ถึงขั้นจะขาดสติปัญญาเสียเลยทีเดียว

เราต้องรู้ว่าอะไรต้องหยุด อะไรต้องทำ ถ้ามองอีกทีมันก็น่าจะทำวิกฤตให้เป็นโอกาส ทำให้คนฉลาดขึ้น อยากจะใช้คำที่ว่า ทำให้พวกเรารู้จักการใช้ชีวิต การทำมาหากินหลายๆอย่าง ไม่ใช่ทำมาหากินอย่างนั้นก็อยู่อย่างนั้น ทำอย่างอื่นไม่เป็นเลย

ครั้งนี้จะสอนให้เรารู้ให้เราทำอะไรเป็นมากมายหลายอย่าง เราจะรู้ว่าที่ผ่านมาเราอยู่อย่างใดอย่างหนึ่งอย่างเดียวนั้นมันไม่ได้หรอก มันต้องทำหลายอย่างได้ จึงจะเรียกว่าผู้ชนะสิบทิศ หยุดเรื่องนี้ไปได้เรื่องโน้น มันพอจะได้มั้ย บางคนบอกว่าไม่ได้ ไม่เคยทำ นี่ก็ลำบาก นั่นก็ลำบาก แต่อาตมามั่นใจว่า ยังไงคนไทยก็เอาตัวรอดได้ คนจีนเอาตัวรอดได้ แม้ไม่ได้จัดงานตรุษจีนก็ไปจัดอย่างอื่นแทน อะไรที่ทำให้เราไม่ถึงกับเจ๊ง

เราจะอยู่แบบจิ๋วแต่แจ๋วได้อย่างทระนงองอาจ ต้องถือว่า ความมั่งมีศรีสุขโดยไม่รู้จักทุกข์รู้จักร้อนเสียเลยนั้น มันก็เกินไป ก็ควรที่จะรู้ร้อนรู้หนาวอะไรกับเขาบ้าง หัดเป็นคนที่เรียกว่า ยอมเจ็บเพื่อจะได้รู้จักฝึกใจ ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ฝึก ไม่ใช่เราจะมานั่งรันทด เพราะหมดเนื้อหมดตัว

เรื่องแค่นี้คงไม่ทำให้ประเทศไทยต้องล่มจมเหมือนที่มีบางคนวิพากษ์วิจารณ์ บางคนก็เกินไปบอกว่า เมืองไทยคนจนเพิ่มขึ้นอีกเยอะ แต่คนจนแล้วฉลาด ทุกข์แล้วฉลาดได้มั้ย อย่างเราไว้ทุกข์แล้วเราจะไม่ฉลาดอะไรซะเลยคงไม่ใช่อย่างนั้น

เราต้องหาทางทำอะไรให้ชีวิตเราก้าวหน้าในด้านอื่นๆต่อไป ไม่ใช่พอไม่มีงานรื่นเริงงานบันเทิงอะไรแล้ว เราจะยากจน หากินอย่างอื่นไม่เป็นเสียเลย อาตมาเชื่อว่าคงไม่เป็นเช่นนั้น คงมีทางที่ทำให้เรารู้ที่จะรักษาตัวให้รอดได้ในระดับใดระดับหนึ่ง ไม่ใช่ว่าบ้านเมืองมีอะไรขึ้นมาก็จะตีโพยตีพายไม่หยุด มันก็คงจะลำบากแน่ๆ

เราต้องหัดฝึกที่จะร่วมรับรู้ ร่วมอยู่ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ถึงจะฝืนใจบ้างก็ต้องฝึกตนเอง แล้วเราจะสบายใจในกิจกรรมที่คนส่วนใหญ่เขาทำ ไม่ต้องมานั่งบ่นนั่งว่า นั่งวิพากษ์วิจารณ์ เราต้องคำนึงคนส่วนใหญ่เขาทำได้ เขาอยู่ได้ เราคงไม่มาตายกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ โวยวายไปก็มีแต่เปลืองตัวเปล่าๆ เจอบางคนที่สุดโต่ง เขาก็อาจจะไม่พอใจถึงกับทำร้าย ทำให้เจ็บปวด

เอาเป็นว่าเราก็ได้ฝึกตนเองให้เป็นคนเข้มแข็ง อดทน มันก็เป็นประโยชน์ไปอีกอย่างหนึ่งแหละ

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login