นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีว่า นายธนาธรถือเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ มีความสามารถ และไม่มีอะไรที่เสียหาย จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่นายธนาธรประกาศเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี และถือว่าการประกาศตัวของนายธนาธรจะไม่เกิดความสับสนในการทำงานร่วมกันของ 7 พรรคการเมืองในขั้วพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคย้ำมาตลอดว่าไม่ยึดติด โดยไม่นำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเป็นเงื่อนไขในการพูดคุย และจับมือทำงานร่วมกัน พรรคเพื่อไทยพร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรคการเมืองหากมีจุดยืนเดียวกันคือ การสกัดกั้นการสืบทอดอำนาจและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สิ่งสำคัญคือจะต้องไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ได้มีการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการกับอีก 6 พรรคการเมืองแล้ว ถือว่าเป็นการแบ่งบทบาทหน้าที่ในการทำงานเพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย ซึ่งทุกพรรคการเมืองมีสิทธิที่จะเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีได้หากเห็นว่าเป็นทางออกที่ดีของประเทศ ส่วนพรรคเพื่อไทยเตรียมสนับสนุนให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายภูมิธรรมกล่าวว่า หากมีหลักการเดียวกันก็พร้อมสนับสนุน แต่วันนี้ยังไม่ขอพูดถึงตัวบุคคล เพราะต้องดูในหลักการคือไม่ต้องการให้...

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่ 3 ว่า เราได้มอบอำนาจให้พรรคการเมืองที่ได้อันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาล แต่กระทั่งวันนี้ยังไม่มีความชัดเจน อีกทั้งเดินไปทางไหนประชาชนก็รู้สึกสิ้นหวังว่าสุดท้ายเลือกตั้งมาแล้วยังจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่ในฐานะพรรคการเมืองที่ได้อันดับ 2 ของฝ่ายที่ไม่เอา คสช. จึงจะจัดตั้งรัฐบาลเอง และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ก็เปิดทางให้แล้ว ทั้งนี้ มองว่าการที่พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้ลำบากเพราะ 10 กว่าปีที่ผ่านมาพรรคการเมืองใหญ่ๆมีความขัดแย้งกันค่อนข้างมาก แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้อยู่ในความขัดแย้งนั้น เชื่อว่าจะสามารถเจรจาต่อรองกันได้ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าภายใน 7 วันนี้ จะหารือพรรคการเมืองอื่นๆเพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่...

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิเสธถึงกระแสข่าวไปรับประทานอาหารกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อพูดคุยจัดตั้งรัฐบาลว่า “ไม่มี ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้คุย” เมื่อถามว่าพร้อมกลับมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “โธ่เอ๊ย”

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ พร้อมด้วยคณะรองเลขาธิการพรรคชุดใหม่ อาทิ นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี นายธนา ชีรวินิจ อดีต ส.ส.กทม. น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ได้ร่วมกันสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำพรรค หลังจากได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมาให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ นายเฉลิมชัยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยอมรับว่าได้โทรศัพท์มาหานายเฉลิมชัยหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ได้หัวหน้าคนใหม่แล้วว่า ได้พูดคุยกันจริง โดยนายอนุทินโทรศัพท์มาหาตนเพื่อแสดงความยินดี...

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าได้มีการพูดคุยกับพรรคการเมืองที่จะมาร่วมรัฐบาลแล้วว่า ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย และยังไม่รับทราบเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนเรื่องขั้วที่ 3 ก็ยังไม่รู้เรื่อง รู้จากหนังสือพิมพ์ที่เขียนเป็นข่าวเท่านั้น ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยจะชิงตั้งประธานสภาก่อน จากเดิมที่ต้องเป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพราะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้เรื่องเลย เพราะไม่ได้เป็นคนจัดตั้งรัฐบาล เมื่อถามย้ำว่ามีข่าวว่า พล.อ.ประวิตรมีส่วนเข้าไปร่วมกับแกนนำพรรค พปชร. จัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ข่าวลือที่ออกมาก็พูดเองกันทั้งนั้น” เมื่อถามถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่าการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้พิจารณาวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ส.ส. สิ้นสุดลง เป็นความพยายามของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการสกัดกั้นพรรคอนาคตใหม่...

วันที่ 14 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา ตามมาตรา 269 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้ 1. พลเอกกนิษฐ์ ชาญปรีชญา 2. นายกรรณภว์ ธนภรรคภวิน 3. พลตรีกลชัย สุวรรณบูรณ์ 4. นายกล้านรงค์ จันทิก 5. นายกษิดิศ อาชวคุณ 6. นางกอบกุล อาภากร ณ อยุธยา 7. นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ 8. นายกำพล...

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ระบุถึงการจัดตั้งรัฐบาลของ 2 ขั้วการเมืองว่า ขณะนี้ฝ่ายประชาธิปไตยมี 245 เสียง มั่นคงและรวมเสียงได้มากที่สุด ตอนนี้ต้องรอดูท่าทีของพรรคขนาดกลางที่เคยให้สัญญาก่อนเลือกตั้งที่เคยบอกว่าจะไม่ต่อท่อเผด็จการเมื่อเลือกตั้ง เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยกำลังรอให้พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจเพื่อมาร่วมตั้งรัฐบาล คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า ก็รอพรรคขนาดกลางจะตัดสินใจอย่างไร เพราะการเข้าสู่อำนาจต้องเป็นอำนาจส่งเสริมให้ประชาชนสมหวัง ส่วนตัวอยากเห็นการเลือกตั้งครั้งนี้อย่าเป็นเพียงพิธีกรรมเปลี่ยนสถานะของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากยึดอำนาจ เพราะการเลือกตั้งคือความหวังของประชาชน “เราเองคิดว่าไม่ได้ให้มาสนับสนุนให้เราเป็นรัฐบาลหรือนายกฯ แต่เรามองว่าจะทำยังไงไม่ให้สืบทอดอำนาจ เราบอกตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งแล้วว่าถ้าพรรคการเมืองรวมตัวกัน คสช. ก็จะกลับบ้านไป ก็รอการตัดสินใจ แต่ไม่ได้มาสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยมีอำนาจ” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว เมื่อถามว่ากระแสข่าวพรรคเพื่อไทยผลักดันให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยอะไรกัน แต่วันนี้ต้องถามเป็นจุดยืนแต่ละพรรคว่าให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นประชาธิปไตยเพื่อประชาชน หรือเป็นการจบเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนสถานะ คสช. เท่านั้นเอง

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตรองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อาจมีการตั้งรัฐบาลโดยการจับมือกันของกว่า 20 พรรคการเมืองว่า ขนาดจะตั้งรัฐบาลโดยประกอบกัน 20 กว่าพรรคการเมือง ก็ยังไม่ใช่รัฐบาลที่มีเสียงมากท่วมท้น ได้เสียงเกินครึ่งมานิดเดียว ทั้งยังมีความไม่แน่นอน เพราะขณะนี้หลายพรรคก็ยังไม่ได้บอกว่าจะเข้าร่วมด้วย ตรงนี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาของระบบการเลือกตั้งที่มาจากการร่างรัฐธรรมนูญที่ออกแบบไม่ให้พรรคการเมืองที่เคยชนะอย่างพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ทั้งที่ระบบเดิมไม่ได้มีปัญหาอะไร นี่ยังไม่รวมถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ใช้สูตรคำนวณที่หลายฝ่ายโต้แย้งว่าขัดรัฐธรรมนูญ แม้แต่อาจารย์คณิตศาสตร์ยังออกมาระบุว่าผิดหลักคณิตศาสตร์ นอกจากนี้การตั้งรัฐบาลครั้งนี้มี ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งโดย คสช. และกรรมการสรรหาที่ไม่เป็นกลางเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้พรรคการเมืองจากเดิมที่ดูกันเพียงว่าฝ่ายประชาธิปไตยได้เกิน 250 เสียง ก็ตัดสินใจเข้าร่วม กลับกลายเป็นว่าทำให้พรรคการเมืองไปดูตรงจุดที่มีเสียง ส.ว. 250 เสียง เพราะเห็นว่าฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเสียงถึง...

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาและหัวหน้าศูนย์สื่อสารข่าวสารเฉพาะกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการติดตามความคืบหน้าประเด็นการหยุดการสืบทอดอำนาจว่า ขณะนี้รับรู้ว่ามีพัฒนาการเป็นเชิงบวกของพรรคการเมืองต่างๆที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ เพราะได้มีความลงตัว เห็นจุดที่เป็นประโยชน์ร่วมกันและเป็นคุณูปการกับประเทศอย่างยิ่งอีกด้วย โดยจุดลงตัวที่เป็นประโยชน์และเห็นพ้องร่วมกันนั้นมาจากเหตุผลอย่างน้อย 3-4 ประการคือ 1.ถือเป็นการที่พรรคการเมืองได้ปฏิบัติตามสัญญาประชาคมอย่างจริงจังที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งว่า พรรคของตนจะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ซึ่งเป็นการสร้างเกียรติภูมิให้แก่พรรคการเมืองนั้นๆ 2.เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศได้เห็นว่านักการเมืองที่มาจาก ส.ส. นั้นมีคุณภาพและไว้วางใจได้ สามารถแก้ไขสถานการณ์ทางการเมืองที่มีทางออกเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย 3.ได้ร่วมกันแสดงพลังกำจัดจุดอ่อนที่สำคัญที่สุด นั่นคือการสืบทอดอำนาจ เพราะเป็นกับดักเดียวที่ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ เพราะขาดความน่าเชื่อถือที่จะทำให้ต่างประเทศไม่เชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุน เมื่อจุดอ่อนนี้หมดลงเศรษฐกิจจะพลิกฟื้น พี่น้องประชาชนจะยินดีปรีดาสรรเสริญกันทั้งประเทศ และ 4.เป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยนั้นมีความเป็นอารยะกลับคืนมา สามารถกลับไปยืนร่วมกับอารยประเทศในเวทีโลกต่างๆได้อย่างสง่างาม จากเหตุผลดังกล่าวพรรคที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจจึงได้ร่วมมือร่วมใจกันที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการสกัดกั้นการสืบทอดอำนาจให้พี่น้องประชาชนได้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม เรียกศรัทธาของนักการเมืองกลับคืนมา ในความเป็นรูปธรรมลำดับแรกคือ การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากปีกพรรคการเมืองที่ไม่เอากับการสืบทอดอำนาจนั่นเอง

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคการเมืองมาร่วมประมาณ 20 พรรคว่า ถ้าเขาตั้งได้ก็ให้ตั้งไป ตนไม่แน่ใจว่านี่คือครั้งแรกหรือไม่ที่มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคการเมืองมารวมกันถึง 20 พรรค แต่ถือเป็นจำนวนที่มาก เพราะเพียงแค่ 4-5 พรรคก็มีปัญหาเยอะแล้ว อย่างไรก็ตาม คิดว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอน ต้องรอดูไปก่อน เพราะพรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้ออกมาแถลงร่วมกับพรรคอื่นๆอย่างเป็นทางการ อีกทั้งขณะนี้มีประมาณ 3 ขั้วที่แข่งขันเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ฉะนั้นทุกอย่างจะมีความชัดเจนก็ต่อเมื่อวันที่เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อถามว่าจุดยืนของ 7 พรรคการเมืองที่ประกาศสัตยาบันหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังคงเหนียวแน่นหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ยืนยันว่ายังเหนียวแน่น รอเพียงพรรคการเมืองอื่นที่จะเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งขณะนี้ก็มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวการจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่ 3 ซึ่งอาจเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายอนุทิน...

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐว่า นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กำลังดำเนินการอยู่ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถ้อยทีถ้อยอาศัย ซึ่งเป็นการหารืออย่างไม่เป็นทางการ ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐให้เกียรติพรรคที่จะมาร่วมงานด้วย และพรรคที่จะมาร่วมงานต่างก็อยากเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ซึ่งบางพรรคคงต้องรอการหารือกันตามกระบวนการภายในของพรรคก่อนจึงต้องให้เกียรติ ขณะเดียวกันพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องรอการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ให้เสร็จก่อน ซึ่งยังมีเวลาในการเจรจา อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน ทุกอย่างไม่ได้มีปัญหาตามที่มีกระแสข่าวลือออกมา เมื่อทุกอย่างเป็นทางการแล้วพรรคจะแถลงข่าวอย่างแน่นอน นายธนกรกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยระบุว่าพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐหักหลังประชาชนหรือไม่นั้น ตนมองว่าเป็นการพูดที่ใช้ไม่ได้ เพราะทุกพรรคมาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย มาจากประชาชนที่อยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข คำพูดดังกล่าวจึงเป็นการดูถูกประชาชน “ถ้าพรรคการเมืองที่ถูกพูดถึงไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าโฆษกพรรคเพื่อไทยคงไม่ออกมาพูดแบบนี้ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องให้เกียรติพรรคอื่นหรือคนที่เห็นต่างด้วย ไม่ใช่ว่าเมื่อพรรคพลังประชารัฐได้จัดตั้งรัฐบาลก็พาล ออกมาตีโพยตีพาย ไม่ได้ดั่งใจก็เลยงอแง...