Pet Fair Southeast Asia 2025 เปิดฉากชูบทบาท “กรุงเทพฯ ศูนย์กลางอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงแห่งเอเชีย”

• Tweet
• 

วันที่ 29–31 ตุลาคม 2568 ณ ไบเทค (BITEC) กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Pet Fair Southeast Asia 2025 หรือ “Pet Fair SEA” ครั้งที่ 4 ซึ่งถือเป็นเวทีระดับภูมิภาคสำหรับอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ (Business‑to‑Business) ที่รวบรวมผู้แสดงสินค้ากว่า 450 รายจากกว่า 35 ประเทศ พร้อมทั้งพาวิลเลียนชาติ 10 แห่ง ที่ขานรับกระแสเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดสัตว์เลี้ยงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วเอเชีย

สะท้อนการเติบโตของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง

งาน Pet Fair SEA 2025 มาพร้อมพื้นที่จัดแสดงสุทธิราว 9,500 ตารางเมตร โดยโฟกัสหนักไปที่นวัตกรรมสินค้าและบริการในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงตั้งแต่วัตถุดิบอาหารสัตว์ สุขภาพ อุปกรณ์ ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ & เทคโนโลยี ซึ่งมีการจัดสัดส่วนพื้นที่อย่างชัดเจน ได้แก่

ประมาณ 60 % ของพื้นที่จัดแสดง เน้นไปที่หมวดอาหารสัตว์เลี้ยง วัตถุดิบขนม และการดูแลสุขภาพประมาณ 30 % เป็นผลิตภัณฑ์สุขอนามัย อุปกรณ์กรูมมิ่ง และดูแลสัตว์เลี้ยงอีก 10 % เป็นหมวดที่นับว่า “ใหม่” เช่น เทคโนโลยีสัตว์เลี้ยง เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น บรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์ขนส่งสัตว์เลี้ยง

ทำไม ‘ไทย’ ถึงกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์

ดร. เดชา จาตุธนานันท์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งระบุว่า “อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงของไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง … คาดว่ามูลค่าตลาดในปี 2568 จะสูงถึง 92,000 ล้านบาท และจะทะลุ 100,000 ล้านบาทในปี 2569”

ดร. ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ประธาน TCEB (สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ) ให้ความเห็นว่า งานนี้คือกลไกของเศรษฐกิจไมซ์ที่จะเชื่อมโยงผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และนวัตกรรมระดับโลก

ดร. ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ รองประธาน หอการค้าไทย เสริมว่า “อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงกลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม S‑Curve ที่มีศักยภาพสูงของประเทศไทย”

เทรนด์ใหญ่ที่สะท้อนในงาน

1.ตลาดสัตว์เลี้ยงเติบโต

ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตลาดดูแลสัตว์เลี้ยง (pet care) ถูกคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึง 29 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2024 โดยอัตราเติบโตเฉลี่ย CAGR ประมาณ 4 % ในระหว่าง 2024‑2029 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก (3 %) และยุโรป (2.1 %)  ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เฉพาะ ตลาดดูแลสัตว์เลี้ยงเติบโตเฉลี่ย CAGR ประมาณ 9 % (ช่วงปี 2023‑2028)  สำหรับประเทศไทยคาดการณ์ว่าตลาดจะอยู่ราว US$ 1.3–1.5 พันล้าน (ราว 50,000–60,000 ล้านบาท) ในปี 2025 โดยมีอัตราเติบโตประมาณ 8‑10 %  

2.นวัตกรรมและช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่

งานปีนี้เปิดตัวฟอรัมเชิงลึกอย่าง Petfood Forum Asia (จัดโดย WATT Global Media) ซึ่งเป็นเวทีเฉพาะสำหรับเทคโนโลยีการผลิตอาหารสัตว์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์นอกจากนี้ งานได้ใช้ระบบ “จับคู่ธุรกิจแบบดิจิทัล” (digital match‑making) ที่ช่วยให้ผู้แสดงสินค้าและผู้ซื้อสามารถนัดหมายล่วงหน้าและเชื่อมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพในด้านความยั่งยืน งานครั้งนี้ยกเลิกคู่มือสิ่งพิมพ์เปลี่ยนมาใช้แอปฯ งานเต็มรูปแบบ (fully digital) เพื่อรองรับแนวทาง ‘ลดใช้ทรัพยากร’ ในอุตสาหกรรม

ขับเคลื่อนไปสู่การผลิตและส่งออก

ประเทศไทยไม่เพียงแต่พุ่งเป้าไปที่ตลาดในประเทศเท่านั้น แต่ยังสร้างความได้เปรียบจากการเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก โดยผู้บริหารงานกล่าวว่าไทย “เป็นผู้ส่งออกอาหารสัตว์รายสำคัญในตลาดโลก”  ด้วยการรวมผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในงานมากกว่า 35 ประเทศ จึงยืนยันได้ว่า Pet Fair SEA 2025 คือเวทีที่ผู้ผลิตไทยได้โอกาสสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศ และผู้ซื้อสากลเข้าถึงซัพพลายเชนไทย

โอกาสและความท้าทายในตลาด

งานนี้ชี้ให้เห็นโอกาสที่น่าสนใจหลายด้าน แต่ก็มีความท้าทายที่อุตสาหกรรมต้องเผชิญ

โอกาส

การเติบโตของตลาดสูงกว่าหลายอุตสาหกรรมอื่น – ตัวเลขเติบโตไทย 8‑10 %  ในปี 2025 ถือว่าสูงทีเดียว  ผู้บริโภคยุคใหม่รับแนวคิด “สัตว์เลี้ยงคือสมาชิกในครอบครัว” ซึ่งทำให้เกิดความต้องการสินค้าและบริการพรีเมียมการขยายตัวของช่องทางออนไลน์ (e‑commerce) ซึ่งช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคได้เร็วขึ้นและครอบคลุมมากขึ้น  

ความท้าทาย

มาตรฐานผลิตภัณฑ์ อาทิ อาหารสัตว์ กฎระเบียบการส่งออก และการรับรองคุณภาพ ยังแตกต่างกันในแต่ละประเทศการแข่งขันจากต่างประเทศสูง โดยเฉพาะแบรนด์ต่างชาติที่มีต้นทุนและเครือข่ายใหญ่ช่องว่างด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีในบางส่วนของซัพพลายเชน – อุตสาหกรรมต้องเร่งพัฒนาความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมและสวัสดิภาพสัตว์ซึ่งกลายเป็นประเด็นสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ

งาน Pet Fair Southeast Asia 2025 ถือเป็น “จุดนัดพบ” สำคัญของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงทั้งไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยไม่ได้เป็นเพียงงานแสดงสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีเชื่อมโยงโอกาสใหม่ในเรื่องนวัตกรรม การผลิต และความร่วมมือข้ามพรมแดนด้วยตลาดที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การจัดงานที่รวมผู้แสดงสินค้ามากกว่า 450 รายจากหลายสิบประเทศ จึงการันตีว่าอุตสาหกรรมนี้กำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอย่างแท้จริง“ไทย” ในฐานะเจ้าภาพ ในปีนี้ ได้รับบทเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์ที่ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจไม่น้อย

You must be logged in to post a comment Login