- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 6 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 6 months ago
- โลกธรรมPosted 6 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 6 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 6 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 6 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 6 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 6 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 6 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 6 months ago
อพวช.ชวนเปิดประสบการณ์ ชม 4 บูธไฮไลท์ในงาน NST Fair 2025

นายสุวรงค์ วงษ์ศิริ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM จัดงาน ‘มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2568’ (National Science and Technology Fair 2025; NST Fair 2025) ภายใต้แนวคิด “SCIENCE IN ACTION! FOR SUSTAINABLE COMMUNITIES” เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของไทยและต่างประเทศ โดยมีประทศต่าง ๆ อาทิ จีน ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส นำความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมานำเสนอ ขณะที่ประเทศไทยเองมีหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมโดยเน้นการนำเสนอเรื่องราวของความยั่งยืนในด้านต่าง ๆ

“วิทยาศาสตร์อยู่ในทุกชุมชน คำว่าชุมชนในที่นี้หมายถึงทุกหน่วยงาน คนมาชมงานก็เป็นชุมชน มาชมงานแล้วเกิดการเรียนรู้ร่วมกัน โดยในครั้งนี้เน้นเรื่องความยั่งยืนและพลังงาน ซึ่งจะตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ ( SDGs) ทำให้เรื่องราวของวิทยาศาสตร์แทรกซึมเข้าไปในจิตวิญญาณของผู้มาเข้าร่วมงานผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย โดยในส่วนของ อพวช. มีไฮไลท์ 4 จุดที่แนะนำให้เยี่ยมชม ได้แก่ นิทรรศการควอนตัมเปลี่ยนโลก (Quantum Quest) ที่จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี การค้นพบทฤษฎีควอนตัมในปีนี้ รูปแบบนิทรรศการแบบจับต้องได้ที่จะทำให้ได้รู้จักกับอนุภาคเล็ก ๆ ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ของวิทยาศาสตร์ และเป็นสิ่งของที่เราใช้กันอยู่ทั้งเรื่องของแสงจอแอลอีดี เครื่องเอ็มอาร์ไอที่ใช้ในการตรวจร่างกาย เลเซอร์ที่ใช้ในการรักษา รวมถึงคอมพิวเตอร์ประมวลผลในระดับควอนตัม ที่จะให้รู้ว่า ควอนตัมเกิดอย่างไรและกลายมาเป็นสิ่งของที่เราใช้ประโยชน์ได้อย่างไร”

รักษาการแทนผู้อำนวยการ อพวช. แนะนำต่อว่า อีกบูธที่แนะนำให้เยี่ยมชมคือ นิทรรศการส่องสมอง (Brain Inside Out) ที่เปิดโลกการทำงานของสมองมนุษย์ในทุกช่วงวัย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการทำงาน ประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งผลักดันการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ในด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะต้องเริ่มตั้งแต่เด็กทารกที่สัดส่วนของสมองกับร่างกายมีสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง จากนั้นจึงปลูกฝังมาเรื่อย ๆ จนมาถึงการเรียนในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา นิทรรศการนี้จะแสดงให้เห็นความสำคัญของสมองว่า มีการส่งผ่านข้อมูลได้อย่างไร และการควบคุมการสั่งการอวัยวะต่าง ๆ สมองแต่ละส่วนทำงานอย่างไร โดยมีโดมสมองขนาดใหญ่ที่จะพาเข้าไปอยู่ในสมองซึ่งเต็มไปด้วยเซลล์ประสาทนับหมื่นล้านเซลล์

อีกบูธที่แนะนำให้เข้าเยี่ยมชมคือ นิทรรศการคลังเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต (Mystery of Svalbard) เพื่อเรียนรู้บทบาทของคลังเมล็ดพันธุ์จากทั่วโลก ณ สฟาลบาร์ ที่เป็นเสมือนความหวังในการสร้างความมั่นคงทางอาหารของมวลมนุษยชาติ นิทรรศการจะพาไปยังดินแดนที่หนาวเหน็บบริเวณอาร์คติกเซอร์เคิล
“เมล็ดพันธุ์ พืชพรรณมีการสูญพันธุ์ไปเรื่อย ๆ หากไม่มีการเก็บรักษาไว้ บางทีข้าวอาจจะไม่มีเมล็ดมาเพาะแล้ว จึงเป็นที่มาของคลังเก็บเมล็ดพันธุ์จากทั่วโลกที่สฟาลบาร์ ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นห้องเก็บเมล็ดพันธุ์ที่เจาะภูเขาเข้าไป เรียกว่า เป็นตู้เย็นธรรมชาติ ด้านในจะมีอุณหภูมิคงที่อยู่ที่ -18 องศา อพวช.นำมาจัดแสดงให้ดูว่าการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืชเหล่านั้นเป็นอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไร และอีกบูธที่อยากแนะนำให้พาเด็ก ๆ มาร่วมกิจกรรมคือ นิทรรศการดินแดนนักประดิษฐ์ตัวน้อย (Little Inventor) เป็นพื้นที่ที่เด็กอายุ 3-7 ปี จะมีโอกาสได้ทำการทดลองในรูปแบบที่ต่างจากที่เคยพบเห็น โดยมีการสอดแทรกศิลปะเข้ามาด้วย เช่น การเรียนรู้ว่า ไฟฟ้าเดินทางจากแหล่งกำเนิดมาถึงหลอดไฟได้อย่างไร การแทรกเรื่องของศิลปะไว้นั้นก็เพราะการประดิษฐ์และศิลปะ หากไปด้วยกันจะช่วยลดความแข็งกระด้างของวิทยาศาสตร์ลงไป”

นอกจากนี้ ยังมีโซนที่นำวรรณคดีไทยผลงานของสุนทรภู่ มาผูกโยงกับวิทยาศาสตร์ที่จะทำให้เข้าใจได้ว่า ปี่ที่พระอภัยมณีเป่านั้น มีคลื่นเสียงที่หลากหลายอยู่ในนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้นางผีเสื้อสมุทรฟังแล้วเกิดอาการง่วงนอนได้ รวมถึงความเป็นไปได้ในการเป็นลูกผสมระหว่างยักษ์กับมนุษย์อย่างสินสมุทร เป็นการทำให้เรื่องราวของวรรณคดีคลี่คลายด้วยวิทยาศาสตร์
ทั้งนี้ ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ ยังมีกิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งการประกวดแข่งขันทางวิทยาศาสตร์สำหรับเยาวชน, Prime Minister’s Science Award 2025, Thailand Science Communication Award 2025, ห้องกิจกรรมการเรียนรู้และห้องทดลองวิทยาศาสตร์ รวมถึงการประชุมสัมมนาทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมราว 500,000 คน

ผู้ที่สนใจสามารถร่วมงาน “NST Fair 2025” จัดขึ้นที่ฮอลล์ 5-6 ชั้น LG ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถดูรายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.thailandnstfair.com และ Facebook: NSTFair Thailand และเข้าชมงาน “อว.แฟร์ 2025” จัดขึ้นที่ฮอลล์ 1-4 ชั้น G ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เช่นเดียวกัน
You must be logged in to post a comment Login