- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 5 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 5 months ago
- โลกธรรมPosted 5 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 6 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 6 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 6 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 6 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 6 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 6 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 6 months ago
สกพอ.เปิดตัวกิจกรรม EEC Connext ในงาน Smart SME EXPO 2025

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดงาน กิจกรรมเชื่อมโยงธุรกิจวิสาหกิจชุมชนกับเป้าหมาย ในพื้นที่ อีอีซี (EEC Connext) ในงาน Smart SME EXPO 2025 เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมขั้นสูงในพื้นที่หลัก 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง พร้อมเชื่อมโยงการพัฒนาสู่ชุมชนในพื้นที่ ส่งต่อโอกาส รายได้ และองค์ความรู้ สร้างอนาคตเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวเปิดงาน “กิจกรรมเชื่อมโยงธุรกิจวิสาหกิจชุมชนกับเป้าหมาย ในพื้นที่ อีอีซี” EEC Connext ในงาน Smart SME EXPO 2025 ว่า “การขับเคลื่อน “เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” หรือ EEC ถือเป็นภารกิจสำคัญที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยงโลจิสติกส์ และการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต เช่น เทคโนโลยีขั้นสูง ดิจิทัล พลังงานสะอาดและสุขภาพ โดยมีพื้นที่หลักครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ซึ่งถือเป็นกลไกเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทยในระยะยาวอย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่เราผลักดันให้เกิดการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมขั้นสูงในพื้นที่ สิ่งที่ สกพอ.ให้ความสำคัญควบคู่กัน คือ “การเชื่อมโยงประโยชน์จากการพัฒนาไปสู่ชุมชน” เพื่อให้การเติบโตนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงในระดับมหภาค แต่สามารถส่งต่อโอกาส รายได้ และองค์ความรู้ไปยังระดับฐานรากของสังคมไทยได้อย่างแท้จริง EEC Connext คือเครื่องมือในการส่งต่อศักยภาพนั้นสู่โอกาสเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม”

ภายใต้โครงการนี้ สกพอ. ไม่ได้เพียงคัดเลือกสินค้ามาแสดงเท่านั้น แต่ยังมีการดำเนินกิจกรรมพัฒนาร่วมด้วย เช่น
• การสำรวจความต้องการจากภาคอุตสาหกรรม ผ่านการสำรวจ การประเมินจากนักลงทุนกว่า 100 ราย และการสัมภาษณ์เชิงลึกกว่า 30 บริษัท
• การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching)
• การเชื่อมโยงการจัดซื้อจัดจ้างระหว่างชุมชนกับนิคมฯ
• และนำสินค้าชุมชน เพื่อแสดงในงานเพื่อให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไป ได้รับรู้สินค้าจากชุมชนต่างๆ ใน EEC


“ความยั่งยืนของ EEC จะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อ ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เชื่อมโยงกันอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าเดียวกัน จึงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนภารกิจนี้ ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย และความร่วมมือจากทุกฝ่ายขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ และขอเชิญชวนผู้ประกอบการ นักลงทุนและประชาชนทั่วไป มาร่วมสร้างอนาคตเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน” นายก่อกิจกล่าวทิ้งท้าย
You must be logged in to post a comment Login