- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 5 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 5 months ago
- โลกธรรมPosted 5 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 5 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 5 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 5 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 5 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 5 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 5 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 5 months ago
ความสูญเสียจากสงครามไทย-กัมพูชา

ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 29 ก.ค. 68)
ในช่วงสงครามไทย-กัมพูชาล่าสุดในกลางปี 2568 นี้ ส่งผลกระทบต่อมูลค่าทรัพย์สินมากน้อยเพียงใด มาประมาณการกันให้ชัดเจน
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ซึ่งเป็นผู้ประเมินค่าทรัพย์สินให้ข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้:
1. จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือจังหวัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อันได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด (เรียงตามด้านตะวันออกไปทางด้านตะวันตก) รวม 7 จังหวัด และหากกรวมเฉพาะอำเภอที่ได้รับผลกระทบเพราะตั้งอยู่ติดชายแดนมีถึง 21อำเภอ รวมบ้านทั้งหมด 465,603 หน่วย
2. อย่างไรก็ตามแต่ละอำเภออาจได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันตามตามทำเลที่ตั้งที่อยู่ห่างมากหรือน้อยจากชายแดน จึงประมาณการเปอร์เซ็นต์ของผลกระทบที่แตกต่างกัน บางอำเภอที่อยู่ติดชายแดนมากเป็นพิเศษ เช่น อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด อาจได้รับผลกระทบถึงประมาณ 40% ในขณะที่อำเภอกันฑรลักษ์ และอำเภอภูสิงห์ ของจังหวัดศรีสะเกษ และอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ คาดว่าอาจได้รับผลกระทบเพียง 8% ของบ้านทั้งหมด
3. โดยสรุปแล้ว จากจำนวนบ้านทั้งหมด 465,603 หน่วย ได้รับผลกระทบจนต้องย้ายออก 57,905 หน่วย รวมเป็น 12% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมด
4. สมมติว่าราคาบ้านหลังหนึ่งเป็นเงินประมาณ 1.5 ล้านบาท มูลค่าของบ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวน 57,905 หน่วย จึงน่าจะเป็นเงิน 86,857 ล้านบาท
5. หากคิดว่าอัตราผลของแทนของบ้านหลังหนึ่งเป็น 5% ต่อปีของมูลค่า (อ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนเปรียบเทียบของมูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย และหากต้องมีภาระย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว ต้นทุนในการหาบ้านหรือโรงแรมหรือที่พักอื่น ก็อาจประมาณเท่ากับ 5% ต่อปีของมูลค่าบ้านของตนเช่นกัน ดังนั้นอัตราผลตอบแทนรวมจึงเป็น 10% หรือเดือนละ 0.83% ของมูลค่ารวม
6. และโดยที่มูลค่ารวมของบ้านเป็นเงิน 86,857 ล้านบาท การที่ต้องโยกย้ายบ้านเป็นเวลา 1 เดือน ณ อัตราผลตอบแทนที่ 0.83% มูลค่าความสูญเสียจึงควรเป็นเงิน 724 ล้านบาท ในกรณีที่ยืดเยื้อเป็น 2 เดือนหรือ 3 เดือน มูลค่าความสูญเสียอาจสูงเป็น 1,448 ล้านบาท และ 2,171 ล้านบาทตามลำดับ
ทั้งหมดนี้ยังไม่ได้รวมความเสี่ยงจากการถูกขโมยขึ้นบ้าน และโอกาสที่จะบาดเจ็บหรือเสียชีวิตด้วย แต่ในที่นี้ไม่ได้คิดไว้ ความสูญเสียอย่างนี้ก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สงครามจึงไม่ได้สิ่งที่ดี กระทั่ง พลเอกชาติชาย ชุณหวัณ ยังเคยย้ำว่าในความขัดแย้งต่างๆ เราต้อง “ใช้การเมือง นำการทหาร” และต้องเร่ง “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า” เพื่อประโยชน์สุขของทุกฝ่าย
เราต้องหยุดสงครามด้วยความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายโดยเร็ว

You must be logged in to post a comment Login