- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 4 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 4 months ago
- โลกธรรมPosted 4 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 4 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 4 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 4 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 4 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 4 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 4 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 4 months ago
อาหรับกับศาสนาคริสต์

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 13 มิ.ย. 68)
เยซัสเป็นลูกหลานอิสราเอลคนหนึ่งซึ่งเกิดก่อนนบีมุฮัมมัด 570 ปี เยซัสถือกำเนิดอย่างมหัศจรรย์จากนางมารีย์หญิงสาวบริสุทธิ์โดยไม่มีชายใดแตะต้องตัวนาง การกำเนิดนอกกฎธรรมชาตินี้เป็นปาฏิหาริย์ให้พวกลูกหลานอิสราเอลที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้าได้เห็นว่าหากพระเจ้าประสงค์จะทำสิ่งใด พระองค์ก็สามารถทำได้เพราะพระองค์เป็นผู้สร้างกฎที่ควบคุมทุกสิ่ง พระองค์จึงไม่จำเป็นต้องอยู่ใต้กฎ
เยซัสมีชีวิตบนโลกใบนี้เพียง 33 ปีก่อนที่พระเจ้ารับตัวท่านขึ้นสู่ชั้นฟ้าเบื้องบนและท่านไม่ได้ถูกตรึงกางเขนแต่ประการใด คัมภีร์กุรอานให้ความชัดเจนในเรื่องนี้แก่ชาวคริสเตียนที่มีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องนี้ เยซัสกล่าวชัดเจนว่าท่านไม่ได้มาลบล้างธรรมบัญญัติเดิมที่โมเสสได้รับจากพระเจ้า แต่ท่านมายืนยันธรรมบัญญัตินั้น ท่านสอนเรื่องความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว ท่านไม่ได้อ้างตัวเป็นพระเจ้าและไม่ได้บอกว่าคำสอนของท่านคือศาสนาคริสต์
แต่หลังจากสมัยของท่านประมาณหนึ่งศตวรรษ มีความเชื่อเรื่องตรีเอกานุภาพเกิดขึ้นและเยซัสได้ถูกนำเข้าไปอยู่ในความเชื่อนี้จนผู้คนเกิดความสับสนว่าท่านเป็นบุตรของพระเจ้าหรือแม้แต่เป็นพระเจ้าก็มี
ต่อมา ความเชื่อนี้ได้กลายเป็นพื้นฐานความเชื่อของศาสนาคริสต์ที่ได้กลายเป็นศาสนาทางราชการของอาณาจักรโรมันไบแซนติน
ในเวลานั้น ดินแดนสำคัญของอาณาจักรไบแซนตินคือดินแดนที่ชาวอาหรับเรียกว่า “ชาม” ซึ่งประกอบด้วยซีเรีย จอร์แดน เลบานอนและปาเลสไตน์ ชาวอาหรับเดินทางขึ้นไปค้าขายที่ชามและมีความคุ้นเคยกับชาวไบแซนตินที่นับถือศาสนาคริสต์อย่างดี ชาวอาหรับบางคนจึงรับนับถือศาสนาคริสต์และนำศาสนาคริสต์ไปเผยแผ่ในแผ่นดินอาหรับอีกทอดหนึ่ง ชุมชนชาวคริสเตียนที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินอาหรับเวลานั้นคือแคว้นนัจญ์รอนที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเยเมน

ด้วยการอุปถัมภ์และการสนับสนุนการเผยแผ่ของจักรพรรดิไบแซนติน ศาสนาคริสต์ได้กลายเป็นศาสนาหลักของบางอาณาจักรในอาฟริกา เช่น อาณาจักรอักซุมที่ครอบคลุมพื้นที่ประเทศเอธิโอเปียและเอริเธรียในปัจจุบัน ชาวอาหรับเรียกอาณาจักรนี้ว่า “ฮะบะชะฮฺ”
เมื่อเด็กน้อยนามมุฮัมมัดมีอายุ 12 ปี เขาได้ติดตามกองคาราวานสินค้าของอบูฏอลิบผู้เป็นลุงจากมักก๊ะฮฺไปค้าขายที่ชามด้วย ก่อนถึงชาม บาทหลวงในโบสถ์เล็กๆแห่งหนึ่งชื่อบะฮีรอสังเกตเห็นปรากฏการณ์ก้อนเมฆเคลื่อนตัวตามกองคาราวานนี้ เมื่อกองคาราวานผ่านมา บะฮีรอจึงได้เชิญคนในกองคาราวานมาแวะพักและเลี้ยงอาหารคนในกองคาราวาน
บะฮีรอพยายามมองหาสิ่งที่ทำให้เขาเห็นการเคลื่อนตัวของเมฆ แต่เขาก็ไม่พบคนใดหรือสิ่งใดในกองคาราวานที่เขาคาดหวัง เขาจึงถามอบูฏอลิบว่ามีใครที่ยังไม่ได้เข้ามาในโบสถ์ของเขาไหม อบูฏอลิบ ตอบว่ามีมุฮัมมัดหลานชายของเขาอยู่คนเดียวที่เขาทิ้งไว้เฝ้าอูฐและสินค้า บะฮีรอจึงให้คนไปตามมา
ระหว่างที่เด็กน้อยมุฮัมมัดกินอาหารอยู่ บะฮีรอได้แอบสังเกตอะไรบางอย่างบนตัวของเด็กน้อยเพราะเขามีความรู้ในเรื่องคัมภีร์ก่อนหน้านี้ที่พูดถึงการมาของบุคคลผู้หนึ่งที่พระเจ้าจะส่งมาและคนที่มีความรู้ในคัมภีร์ต่างรอคอย
เมื่อบะฮีรอมองเห็นปานบนหลังของเด็กน้อยมุฮัมมัด เขาก็รู้ทันทีว่าเด็กคนนี้คือผู้ที่คัมภีร์ที่เขาศึกษามาได้บอกล่วงหน้าไว้ เขาจึงเรียกอบูฏอลิบมาบอกเป็นการส่วนตัวว่าในวันข้างหน้าหลานของเขาจะเป็นบุคคลสำคัญในการปฏิบัติภารกิจที่พระเจ้ามอบหมายมา และขอให้ดูแลหลานคนนี้ให้ดีเพราะเขาจะถูกต่อต้านในการปฏิบัติหน้าที่ที่พระเจ้ามอบให้
You must be logged in to post a comment Login