ย้อนรอยศาสนาของอับราฮัม

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 16 พ.ค. 68)

ชาวยิว ชาวคริสเตียนและชาวมุสลิมมีอับราฮัมเป็นบรรพบุรุษร่วมกัน  บ้านเกิดของอับราฮัมอยู่ที่เมืองอูร์ในประเทศอิรักปัจจุบัน  ในขณะที่ชาวเมืองอูร์กราบไหว้บูชารูปเคารพที่พ่อของเขาทำขึ้นจำหน่าย   แต่เขากลับเชื่อมั่นในพระเจ้าองค์เดียว  ความขัดแย้งเรื่องความเชื่อของเขากับชาวเมืองและแม้แต่กับพ่อของเขานี้เองที่ทำให้เขาต้องออกจากเมืองอูร์พร้อมนางซาราห์ภรรยาและโลทผู้เป็นลูกพี่ลูกน้อง

อับราฮัมมีลูกชายคนแรกชื่ออิชมาเอลกับนางฮาการ์ภรรยาคนที่สอง ในวัยชราอายุเกือบร้อยปี  อับราฮัมได้ลูกชายคนที่สองชื่ออิชอัคกับนางซาราห์  นอกจากนี้แล้ว อับราฮัมยังมีลูกชายอีกคนหนึ่งชื่อมัดยันกับภรรยาคนที่สามชื่อนางเคธูราห์  ที่กล่าวมานี้สามารถหาอ่านได้ในคัมภีร์ไบเบิล

อิชมาเอลมีลูกชายคนหนึ่งชื่อเคดาร์ผู้เป็นต้นตระกูลเผ่ากุเรชที่นบีมุฮัมมัดถือกำเนิด ส่วนอิชอัคมีลูกชายชื่อยาโกบ(ผู้ได้ฉายาว่าอิสราเอล)และเป็นบรรพบุรุษของนบีคนสำคัญๆเช่น โมเสส  เดวิด โซโลมอน เยซัส(พระเยซู) เป็นต้น  ส่วนมัดยันมีลูกหลายคนและหนึ่งในนั้นเป็นบรรพบุรุษของเจ้าชายสิทธัตถะ

เมื่ออับราฮัมเดินทางมาเยี่ยมนางฮาการ์และอิชมาเอลที่หุบเขาบักก๊ะฮฺ   เขาได้รับคำบัญชาจากพระเจ้าให้สร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺเพื่อเป็นสถานที่เคารพสักการะพระองค์  เมื่อสร้างเสร็จแล้ว  เขาได้วิงวอนต่อพระเจ้าให้ลูกหลานของเขาเป็นผู้นำของประชาชาติต่างๆ   พระเจ้าได้ตอบรับคำวิงวอนของเขาโดยการที่ลูกหลานของเขาได้เป็นผู้นำ(นบี)ของชนชาติต่างๆ

ลูกหลานของอิสราเอล(ยาโกบ)บันทึกการสืบเชื้อสายบรรพบุรุษของตนไว้ละเอียดในคัมภีร์ไบเบิล  ส่วนลำดับเชื้อสายบรรพบุรุษของนบีมุฮัมมัดถูกบันทึกไว้ในความจำของชาวกุเรชที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมาและถูกบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในตอนหลัง  แต่ลำดับเชื้อสายบรรพบุรุษของเจ้าชายสิทธัตถะอยู่ในผลงานการศึกษาทางประวัติศาสตร์ศาสนาของชาวตะวันตก

ในอดีต  ลูกหลานอิสราเอลมีบทบาทสำคัญในการสืบทอดคำสอนของอับราฮัม นั่นคือ ความศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว  อิชอัคและยาโกบผู้เป็นบุตรก็รักษาความเชื่อของอับราฮัมสืบต่อกันมา  ก่อนยาโกบเสียชีวิตในอียิปต์  ยาโกบได้เรียกลูกชายทั้ง 12 คนของตนมาถามว่าหลังจากที่เขาจากไป ลูกๆจะนับถือศาสนาอะไร  ลูกทั้งหมดผู้ได้ฉายาว่าบนีอิสรออีลได้ยืนยันว่าจะนับถือศาสนาของพ่อและของบรรพบุรุษ นั่นคืออิชอัคและอับราฮัมผู้ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว

หลังจากยาโกบสิ้นชีวิต  พวกลูกหลานอิสราเอลได้ผิดสัญญาที่ทำไว้กับพ่อของตนโดยหันไปกราบไหว้บูชารูปเคารพของชาวพื้นเมืองอียิปต์  พระเจ้าจึงลงโทษด้วยการให้พวกลูกหลานอิสราเอลตกเป็นทาสของราชวงศ์ฟาโรห์นานนับหลายร้อยปี  ด้วยเหตุนี้  พวกลูกหลานอิสราเอลจึงวิงวอนขอความช่วยเหลือต่อพระเจ้า  ในที่สุด พระเจ้าได้ส่งโมเสสมาช่วยคนพวกนี้ให้อพยพหลบหนีออกมาจากอียิปต์และพ้นจากความเป็นทาสของฟาโรห์

ไม่เพียงเท่านั้น พระเจ้ายังประทานคัมภีร์โตราห์(กฎหมาย)ให้แก่โมเสสเพื่อนำทางและปกครองพวกลูกหลานอิสราเอลด้วย  แต่ถึงกระนั้น พวกลูกหลานอิสราเอลก็ยังท้าทายโมเสสและปฏิเสธคำบัญชาของพระเจ้า  ด้วยเหตุนี้  พระเจ้าจึงลงโทษพวกลูกหลานอิสราเอลให้ต้องเร่ร่อนไร้แผ่นดินถิ่นอาศัยในทะเลทรายเป็นเวลานานหลายสิบปี

พวกลูกหลานอิสราเอลได้มีโอกาสอยู่รวมกันเป็นปึกแผ่นอีกครั้งหนึ่งเมื่อเดวิดตั้งอาณาจักรอิสราเอลขึ้นมาและได้รับคัมภีร์ที่ใช้เป็นกฎหมายปกครอง  (ภาษาอาหรับเรียกคัมภีร์นี้ว่า “ษะบูรฺ” )  คัมภีร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของพันธะสัญญาเดิมในคัมภีร์ไบเบิล

เมื่ออาณาจักรอิสราเอลถูกทำลายหลังกษัตริย์โซโลมอน  พวกลูกหลานอิสราเอลได้ตกเป็นทาสของชาติมหาอำนาจในเวลานั้น  เมื่อได้รับการปลดปล่อยจากกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซีย  พวกลูกหลานอิสราเอลได้กลับมายังเมืองเยรูซาเล็มอีกครั้งหนึ่ง และพระเจ้าได้ส่งเยซัสมาเพื่อยืนยันธรรมบัญญัติเดิม(ของโมเสส)  แต่พวกลูกหลานอิสราเอลที่เป็นชนชั้นนำไม่ยอมรับและวางแผนฆ่าเยซัสโดยใช้มือของผู้ปกครองชาวโรมันลงโทษประหารเขาด้วยการตรึงกางเขน  (ยังมีต่อ)

You must be logged in to post a comment Login