แดนนี่ โสฬส ซุกลูก จริงไม่จริง เจ้าตัวเผย.. แค่ไม่ได้บอกสื่อฯ

• Tweet
• 

เมื่อวันที่9 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ บางกอก มีงานมอบรางวัล บุคคลดีเด่นระดับประเทศและระดับโลก internationnal Classic Awards ครั้งที่1 ทีมข่าวได้เจอหนุ่มแดนนี่ โสฬส ศิลปินนักแสดง คาสโนว่าตัวพ่อ ในงานรับรางวัล จึงขอสัมภาทอัพเดตเรื่องราวชีวิต และ เรื่องประเด็นภาพถ่ายคู่กับเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักที่โพสลงบนFacebook กับแคปชั่น “จากเคยเป็นลูกของพ่อ วันนี้กลายเป็นพ่อของลูก” ที่โพสลงพร้อมรูปเมื่อวันที่5ธันวาคมที่ผ่านมา ทำเอาบรรดาแม่ยายแม่ยกเหล่าFcน้อยใหญ่ฮือฮาสะท้านสะเทือน เข้ามาแสดงความคิดเห็นคอมเม้นกันมากมาย จนสื่อเหลือบไปเห็น ก็อดไม่ได้ที่จะขอสัมภาทความเป็นจริงว่าเป็นยังไงกันแน่ ลองไปดูบทสัมภาทกันค่ะ

สื่อ: วันนี้มาทำอะไรคะ

แดนนี่: วันนี้มารับรางวัลครับผม ขอบคุณทางสมาคมและเป็นเกียรติมากๆครับที่ให้เกียรติเชิญศิลปินนักแสดงตัวเล็กๆอย่างผมมาเข้าร่วม ผมจะตั้งใจสร้างผลงานดีๆและพัฒนาตนเองในทุกๆด้านให้ดียิ่งกว่านี้ครับ

สื่อ:วันนี้มากับใครค่ะ ควงดาราแฟนสาวมาหรือเปล่า

แดนนี่: (หัวเราะ) ไม่มีหรอกครับ ผมโสด วันนี้ผมมากับ พี่ไมค์กี้ นักร้องเพื่อนสนิทที่ร้องคู่กับผม และ เพื่อน นักแสดงHollywood ชาวต่างชาติ ชื่อ Willy คนที่เล่นหนังเป็นตัวร้ายสู้กับ Jason statham ในเรื่อง The mechanic resurrection ครับ เป็นเพื่อนรู้จักกันมานานมากละครับพอรู้ว่าถูกเชิญมางานนี้ก็เลยมาพร้อมกันจะได้มีเพื่อนครับสนุกดีไม่เหงา

สื่อ:ถามเรื่องเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักๆที่ลงในโซเชี่ยลได้ไหมค่ะ สรุปเด็กคนนี้เป็นใครค่ะ แดนนี่ซุกลูกจริงหรือเปล่าค่ะ

แดนนี่: ซุกลูกหรือเปล่าหรอ ไม่หนิครับ ผมแค่ไม่ได้ประกาศบอกใครหรือบอกสื่อเท่านั้นเองครับ แต่ส่วนมากเพื่อนๆผมที่สนิทกันจะรู้กันหมดครับ ผมขออธิบายนิดนึง คือจริงๆแล้วเป็นเรื่องในอดีตของตัวผม เมื่อ7ปีก่อน สมัยยังเป็นวัยรุ่น ก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เนอะที่เราจะมีความรักมันก็ไม่แปลกอะไร พอดีผมไปพบรักสาวสายการบินแห่งหนึ่งครับ ก็รักกันอะเนอะจากนั้นก็มีเด็กคนนี้ แต่ด้วยเหตุผลบางสิ่งบวกกับตัวผมในตอนนั้นยังคงรักสนุกติดเพื่อนติดสังคม พูดง่ายๆก็คือ ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมยังเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ เราก็เลยแยกทางกันไป ส่วนเรื่องลูกก็อยู่กับทางคุณแม่เขา แต่ตัวผมเองช่วยดูแลส่งเสียให้เขาเท่านั้นครับ

สื่อ:แล้วได้เจอกันบ่อยไหมค่ะ ?

แดนนี่: หมายถึงแม่เด็กหรือว่าลูกหล่ะครับ (หัวเราะ) ถ้าเป็นแม่เด็ก คงไม่ครับ คงไม่ได้เจอหากไม่มีเรื่องจำเป็นที่เกี่ยวกับเขา ส่วนตัวลูก ก็ถ้าผมว่าง นานๆทีจะติดต่อขอเข้าไปรับออกมาเดินเล่นทานข้าวซื้อของเล่นบ้าง บางทีก็พาไปเล่นสวนสนุกหากิจกรรมทำด้วยกันเท่านั้นเองครับ ผมพาเขาออกไปได้ไม่เกิน ครึ่งวันเท่านั้นแหละครับ บ้านเขามีกฎกติกาของเขาที่เราต้องยอมรับและทำตามตกลงครับ สำหรับลูกผมเขาจะไม่สามารถมาหาผมหรือมาอยู่กับผมได้ จนกว่าจะอายุครบ18 ครับ เป็นข้อตกลงกันในศาลครับ เพราะเขาไม่สามารถมาอยู่กับผมได้ตลอดแม้จะแค่วันเดียวก็ตาม หากผมว่างและหากทางนั้นไม่ติดอะไรผมก็จะไปรับเขามาเจอตลอดครับ เพราะผมไม่อยากให้เขารู้สึกว่าเขาขาดและผมก็อยากมีช่วงเวลาดีๆกับเขาในวันที่เรายังทำได้ เพราะชีวิตมนุษย์เรามันเอาแน่ไม่ได้ จริงไหมครับ ผมอยากทำให้ดีที่สุดในทุกๆวันที่ผมยังมีลมหายใจให้เขาครับ และอีกอย่างผมเคยเป็นคนที่ใช้ไม่ได้มาก่อน พอวันที่ผมโตเป็นผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบมากขึ้นมีความและเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ผมจึงไม่อยากจะเป็นคนที่ใช้ไม่ได้อีกเหมือนในอดีตที่ผ่านมาครับ ผมจึงตั้งใจทำหน้าที่ของผมให้ดีถึงแม้ว่าผมจะถูกมองยังไงก็ตามครับ

สื่อ:แล้วโพสรูปลูกชายลงแบบนี้ กลัวกระแสดราม่า หรือ กลัวFcแฟนๆหายบ้างไหมค่ะ

แดนนี่: (ยิ้ม) ผมคิดว่าทุกคนใจกว้างและเข้าใจครับ ผมเองก็เป็นแค่มนุษย์เดินดินธรรมดาคนนึง ก็ไม่แปลกที่จะมีอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต เหมือนคนทั่วไป ละยิ่งยุคสมัยนี้แล้ว ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป สังคมเปิดกว้าง ขนาดเรื่องผู้ชายผู้หญิงข้ามเพศ สังคมเปิดกว้างหมดแล้วยอมรับคนสร้างสรรและสิ่งสร้างสรรใหม่ๆเข้ามาเป็นที่ยอมรับ ละทำไมเรื่องอดีตของผมแค่นี้ จะไม่มีใครยอมรับได้หล่ะครับ ถ้าถามว่าผมกังวลเรื่องซุบซิบนินทาไหม บอกเลยผมไม่สนใจครับ ผมก็แค่มนษย์คนนึงโดนซุบซิบนินทาไม่ว่าจะเรื่องดีหรือร้ายก็เป็นเรื่องปกติของโลก เราไปห้ามลมปากคนไม่ได้หรอกครับ จะไปนั่งอธิบายให้คนทุกคนคิดเหมือนกันหมดเข้าใจเหมือนกันหมด ก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันครับ ผมไม่ห่วงไม่แคร์เลยครับเรื่องนี้ แต่ที่ผมแคร์ที่สุด คือความรู้สึกของเด็กมากกว่าครับ เด็กสมัยนี้โตเร็วและฉลาดมาก วันนึงเขาโตขึ้นหากเขารู้ว่าผมทำงานอะไรบ้าง แล้วเขามาเปิดเจอข่าวสัมภาทผมในเรื่องของเขา แล้วถ้าผมไม่ยอมรับหรือปฏิเสธว่าผมไม่มีเขา หรือเขาไม่ใช่ลูกของผม เขาจะเสียใจมากแค่ไหนครับ ผมไม่อยากให้เขาเสียใจหรือมีน้ำตาให้กับพ่ออย่างผม ผมอยากให้เขารู้สึกไม่ขาดอะไรเลยจากผม ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม และตัวผมเองรู้สึกว่าหากผมทำแบบนั้น ผมจะเป็นคนที่ไม่เอาไหนเลย แล้วมันก็ไม่แมนเลยครับ ที่จะทำแบบนั้น ผมเป็นคนไม่ชอบเฟคครับ ไม่ชอบอะไรยุ่งยากมากเรื่อง ทำไมผมต้องปิดหรือโกหกว่าผมไม่มีเขาหล่ะครับ ผมไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้น สังคมจะยอมรับคนตรงๆจริงใจและจริงจัง หรือจะยอมรับคนโกหกสร้างภาพลวงตาประชาชนหล่ะครับ ถ้าเป็นคุณจะเลือกคนแบบไหน? ผมแคร์ที่สุดก็คือเขาครับผมรักเขามากครับ ผมว่าทุกคนรักที่ผมเป็นผม รักในชิ้นผลงานของผม รักในความสามารถของผม รักในสิ่งดีๆที่ผมทำ และผมก็เชื่อว่าคนทุกจะรักเด็กคนนี้เหมือนที่ผมรักเช่นกันครับ

สื่อ:ขอถามเรื่องความรักได้ไหมค่ะ และอยากรู้สถานะปัจจุบัน

สื่อ:อยากรู้เรื่องความรักกับดาราสาวดาวร้ายหน้าสวย คุณเมจิ ตอนนี้ความสัมพันเป็นแบบไหน เพราะสื่อไม่เห็นลงภาพด้วยกันมาสักระยะนึงแล้ว เกิดอะไรขึ้นค่ะ ยังดีกันอยู่ไหม ทำไมเรื่องราวของทั้งคู่อยู่ๆก็หายไป จากตอนนั้นเห็นลงภาพสวีทหวานฉ่ำกันมาก ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นค่ะ ?

แดนนี่: (หน้าเศร้า) ก็เป็นเรื่องปกติของความรักครับ คนเราพบกัน ชอบกัน รักกัน ตัดสินใจที่จะคบกันใช้ชีวิตด้วยกัน แต่พอวันนึง ความคิดมุมมองต่างกัน ก็เลือกที่จะแยกทางกัน เรื่องความรักเป็นอะไรที่อธิบายยากครับ อีกอย่างเราคบกันแบบผู้ใหญ่ ต่างคนต่างช่วยดูแลกันมีอะไรก็ปรึกษากัน ช่วยเหลือกัน แต่พอมาถึงจุดที่บางอย่างเดินไปด้วยกันต่อไม่ได้เราก็ต้องยอมรับมันครับ และตัวผมเองก็เป็นผู้ชายที่ดีไม่พอให้เขาได้ครับ ตัวผมเองมีข้อเสียในบางสิ่งผมผิดเองครับที่รักษาเขาไว้ไม่ได้ แต่ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันปกติครับ ผมก็เห็นข่าวเขาเรื่องจะแต่งงาน และได้ฟังมาจากเพื่อนหลายๆคนบ้าง ผมก็ยินดีกับเขาด้วยที่เขาได้เจอคนที่ใช่ และเขามีความสุขผมก็ดีใจครับ แม้ผมจะไม่มีเขาอยู่ข้างๆในวันนี้ ผมก็ต้องเดินต่อไปครับ และก็ขออวยพรให้เขาสมหวังในทุกเรื่องครับ

สื่อ:งั้นสถานะตอนนี้ คือ โสด หรอค่ะ แล้วได้คุยกับใครคบกับใครอยู่หรือเปล่าค่ะ

แดนนี่: โสดครับผม แต่ไม่ซิงนะ(หัวเราะ) ทุกวันนี้ไม่ได้คุยกับใครครับ ผมอยากเน้นโฟกัสที่เรื่องงานมากกว่าครับ ผมอยากสำเร็จสิ่งที่ผมตั้งใจ ผมอยากมีรากฐานที่แน่นพอก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆก็ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติครับ ผมไม่ขอโฟกัสเรื่องนี้เป็นอันดับแรกหรือสอง พูดตรงๆ ผมเบื่อครับ ผมเหนื่อยกับเรื่องแบบนี้ ผมผ่านอะไรมาเยอะ เจอคนทุกรูปแบบทุกประเภท เจอรักที่ดีและไม่ดี ชีวิตผมเหมือนผ่านสงครามอ่าวเปอร์เซียมาเลย ล้มลุกคลุกคลานว่ายน้ำข้ามทะเล ดำลงทะเล แย่งปลาขึ้นมาเอาอากาศหายใจ สารพัดครับ ผมเจ็บมาเยอะ แทบทุกเรื่อง เพราะงั้นตอนนี้ผมขอโฟกัสที่จุดที่ผมต้องการก่อนครับ เรื่องอื่นจะมีไม่มี จะคบใครไม่คบ ผมยังไม่ได้คิดเลยครับ อีกอย่างผมเป็นคนชอบคนยากครับ ยากมากด้วย ต่อให้ดีหรือสวยแค่ไหนก็ตามถ้าไม่ได้ชอบก็คือไม่ครับ ยากมากที่ผมจะชอบใครสักคน แต่ถ้ามีคน คนนั้นลัคกี้มากๆเลยครับ ผมชอบคนยากมาก ก็อยู่ที่เขาว่าชอบผมด้วยหรือเปล่ารักผมที่เป็นผมหรือเปล่ารักอย่างจริงใจหรือเปล่านั้นก็อีกเรื่องครับ

สื่อ: ขอฝากผลงานไว้ด้วยค่ะ ทำอะไรบ้างค่ะตอนนี้

แดนนี่: ตอนนี้ผมทำเพลงครับ ทำกับพี่ไมค์กี้ (ไมค์กี้ เดอะว้อย)ทำกัน2คนครับ ทำไป60%แล้ว ยังเหลือเพลงที่ต้องเข้าห้องอัดอีกหลายเพลง ตัวอย่างทีเซอร ก็เพิ่งปล่อยลงโซเชี่ยลไป ลองไปดูกันได้ครับ https://youtu.be/D3ORviiZf9Q
งานเพลงก็น่าจะออกมาให้ดูกันในปีหน้านี้ครับรวมถึงMv งานนี้พวกเราทุ่มเทสุดพลังทำออกมาอย่างเต็มที่ในแนวของเราครับ ส่วนเรื่องงานแสดง คาดว่าปีหน้าจะได้เห็นผลงานของผมครับ ส่วนพี่ไมค์กี้ ผมก็ขอฝากผลงานด้วยครับ ปีหน้ามีภาพยนต์ฟอมยักษทุ่มทุนสร้างจากต่างประเทศมหาศาล ถ่ายทำที่ไทยครับ เป็นหนังของพี่ ปีเตอร์ ไมอ็อกซี่ พี่ชายที่น่ารัก เป็นกำกับและหาทุนสร้างด้วยครับ หนังระดับฮอลี่วู้ดเลยครับ เป็นหนังแอคชั่นดุเดือดแบบ 10เต็ม10 ครับ พี่ไมคกี้เล่นเป็นตัวร้ายในเรื่อง ฝากติดตามด้วยนะครับ เรื่องDa2 ครับ เข้าฉายทั้งในไทยและต่างประเทศครับ
สุดท้ายนี้ขอบคุณสื่อมากๆครับที่เอ็นดูผมให้เกียรติสัมภาทผมในครั้งนี้ครับ ขอบคุณมากๆที่ติดตามน้องคนนี้ครับ ขอบคุณจากใจจริงครับผม

You must be logged in to post a comment Login