วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

กรมสุขภาพจิต แนะประชาชนเตรียมพร้อมรับมือพายุ“บารีจิต-มังคุด” ให้ตั้งสติ-วางแผน ป้องกันล่วงหน้า

On September 13, 2018

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ทุกภาค  จากพายุโซนร้อน บารีจัต ( Barijat) และพายุไต้ฝุ่นมังคุด (Mangkhut ) ในช่วงวันที่ 13 -18 กันยายน 2561 ตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ว่า กรมสุขภาพจิตมีความเป็นห่วงประชาชน เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม ดินโคลนถล่มซึ่งเป็นภัยจากธรรมชาติ จะมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจประชาชน ส่วนใหญ่จะอยู่ในสภาวะเครียด  วิตกกังวล   วิธีการป้องกันผลกระทบดังกล่าวที่ดีที่สุด คือการเตรียมความพร้อมรับมือไว้ล่วงหน้าทั้งตนเองและครอบครัว  จะช่วยลดความสูญเสียต่างๆได้ หรือหากมีก็จะมีน้อยที่สุด  โดยขอให้ประชาชนตั้งสติ และคิดถึงความปลอดภัยชีวิตไว้ก่อน  และให้ติดตามข่าวสารประกาศเตือนภัยจากทางราชการเป็นหลัก

สำหรับในส่วนของความพร้อมการจัดบริการดูแลประชาชน ได้ให้โรงพยาบาลจิตเวชและศูนย์สุขภาพจิตทั่วประเทศรวม 33 แห่ง จัดเตรียมทีมเยียวยาจิตใจหรือทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทพร้อมเวชภัณฑ์ยาที่จำเป็นอย่างน้อยแห่งละ 3 ทีม เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของทีมเอ็มแคทในพื้นที่ ในการดูแลจิตใจผู้ประสบภัยในภาวะฉุกเฉินอย่างเต็มที่    และให้โรงพยาบาลจิตเวชสำรองเตียงรับผู้ป่วยจิตเวชฉุกเฉิน  ทั้งนี้หากประชาชนไม่สบายใจ สามารถรับบริการปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน  หรืออสม. หรือโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง

ทางด้านนายแพทย์กิตต์กวี  โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ จ.นครพนม กล่าวว่า  การเตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบจากฝนตกหนัก มีข้อแนะนำ 5 ประการดังนี้  1.  ให้เตรียมความพร้อมร่วมกันในครอบครัว  กำหนดหน้าที่ของคนในครอบครัว    และวางแผนการขนย้ายผู้ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้หรือได้น้อย เช่นผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ รวมทั้งสิ่งของสำคัญไว้ให้พร้อม  หากเกิดสถานการณ์จริง     จะสามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ได้ทันที   จะช่วยลดความสับสน ตื่นตระหนกลงได้   ผลกระทบความเครียดจะลดน้อยลง

2.  เตรียมแผนป้องกันความเสียหายและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในครัวเรือน เช่น การกั้นน้ำไม่ให้เข้าบ้าน ดูแลเรื่องไฟฟ้า ประปา ที่จอดรถ     3. ครอบครัวที่มีผู้มีโรคประจำตัวทุกโรคทั้งทางกายหรือทางจิต   ขอให้จัดเตรียมยาที่กินประจำไว้ใกล้ตัว  เพื่อหยิบง่ายในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน  โดยเฉพาะผู้ป่วยจิตเวช ห้ามขาดยา เพราะอาการจะกำเริบได้  หากพบว่ายาใกล้หมด ขอให้ไปพบแพทย์ก่อนวันนัดได้    4. จัดเตรียมอุปกรณ์  สิ่งของเพื่อยังชีพ เช่น เทียนไข  น้ำดื่มสะอาด ข้าวสาร อาหารแห้งเผื่อไว้อย่างน้อยอยู่ได้ 3 วัน  และ 5.  ควรจดเบอร์ฉุกเฉินของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะด้านสุขภาพและความปลอดภัยไว้ประจำบ้าน ได้แก่   สายด่วนสุขภาพจิต 1323 , สายด่วนกู้ชีพ 1669  , สายด่วนนิรภัย 1784 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  เพื่อสามารถโทรขอรับความช่วยเหลือได้ทันทีหากเกิดภาวะจำเป็นเร่งด่วน


You must be logged in to post a comment Login