- กฎแห่งกรรมไม่หมดอายุPosted 2 days ago
- อย่าหัวชนฝาPosted 3 days ago
- เปลี่ยนเป็นตลาดการค้าไวๆPosted 4 days ago
- มนุษย์เกิดมิคสัญญีที่ใจPosted 5 days ago
- ระวังเพื่อความปลอดภัยPosted 6 days ago
- ขอให้ฮึดสู้Posted 1 week ago
- สยบพวกอันธพาลให้ได้Posted 1 week ago
- อย่าทำอะไรมักง่ายPosted 1 week ago
- ผ้าเหลืองห่อเปรตPosted 2 weeks ago
- จงตั้งใจเรียนเพื่อพ่อแม่Posted 2 weeks ago
สหรัฐเดินหน้าแลกหมัดจีน
นายโรเบิร์ต ไลท์ไธเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐเรียกร้องให้จีนยุติการกระทำที่ไม่เป็นธรรมและมีการแข่งขันอย่างแท้จริง แต่จีนกลับตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าสหรัฐทั้งที่ไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าหน้าที่สหรัฐได้เปิดเผยรายชื่อสินค้าจีนที่จะถูกเก็บภาษีครั้งใหม่ครอบคลุมสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างกว้างขวาง อาหาร ยาสูบ สารเคมี ถ่านหิน เหล็ก อะลูมิเนียม ไปจนถึงอาหารแมวและสุนัข โดยมาตรการใหม่จะมีผลหลังจากเปิดให้สาธารณชนแสดงความเห็นเป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งสหรัฐเพิ่งประกาศเก็บภาษีร้อยละ 25 กับสินค้าจีนมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.13 ล้านล้านบาท) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา และถูกจีนตอบโต้ด้วยมาตรการเดียวกันในวันเดียวกันแต่มีผลก่อนเนื่องจากเขตเวลาต่างกัน
นายออร์ริน แฮตช์ สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกัน วิจารณ์การประกาศเก็บภาษีจีนครั้งใหม่ว่าไม่ตรงตามเป้าหมาย ขณะที่หอการค้าสหรัฐแถลงสนับสนุนรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องลดภาษีในประเทศและลดระเบียบการทำธุรกิจ แต่ไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรการทางภาษี เพราะจะทำให้ชาวอเมริกันต้องซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันในราคาแพงขึ้น ขณะที่คนงานชาวอเมริกันก็เดือดร้อนจากภาษีตอบโต้จากจีนที่ทำให้สินค้านำเข้าสหรัฐแพงขึ้น
ส่วนความเคลื่อนไหวอีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประกาศจะให้เงินกู้จำนวน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 640,000 ล้านบาท สำหรับใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอาหรับ ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนโครงการต่างๆเพื่อช่วยสร้างโอกาสในการจ้างงานและผลเชิงบวกทางสังคมแก่ประเทศในกลุ่มอาหรับ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพิเศษสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
นอกจากนี้จีนยังมีโครงการจัดสรรเงินอีก 1,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยพัฒนาขีดความสามารถในการรักษาเสถียรภาพ ที่ผ่านมาจีนเคยจัดสรรเงินช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาหรับไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การจัดสรรเงินจำนวนมหาศาลดังกล่าวก่อให้เกิดความวิตกกังวลทั้งในประเทศและต่างประเทศกรณีความเสี่ยงในการแบกรับภาระหนี้ของบรรดาประเทศยากจนเหล่านั้น
You must be logged in to post a comment Login