วันพฤหัสที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2567

จะถามหากล้วยทำไม? / โดย สนานจิตต์ บางสพาน

On January 22, 2018

คอลัมน์ : สากกะเบือยันเรือรบ

ผู้เขียน : สนานจิตต์ บางสพาน

ชัดเจนขึ้นสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประกาศตัวเป็น “นักการเมือง” แบบไม่ต้องเป็นอีแอบอีซ่อนอะไรหลังทำรัฐประหารตั้ง “คณะรัฏฐาธิปัตย์” มาเกือบจะ 4 ปีแล้ว ตามสัญญาประชาคม (ล่าสุด) คือปลายปีนี้ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งแน่นอน โดยนายกฯรัฏฐาธิปัตย์เป็นเต็ง 1 ที่จะกลับมาอีกครั้งในฐานะ “นายกฯคนนอก” ตามกลไกที่กำหนดและวางกันไว้ล่วงหน้า

อยากจะบอกว่าประเทศอื่นอาจจะชัวร์ไม่มีมั่วนิ่มและนอนมา แต่ประเทศนี้ “ไทยแลนด์ 4.0” อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะไอ้ที่ว่าแน่ๆนอนมา พริบตาเดียวกลายเป็น “พระนำหน้า” มาเฉย

คนไทยยังไม่น่าจะลืม พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี แต่พลิกล็อกชนิดสำเพ็งไหม้ “เซียนอยู่รู หมูอยู่ตึก” จนต้องล้างมือในอ่างล้างหน้า เร้นกายหายไปทำธุรกิจโรงแรมที่เขมรจนกระทั่งเสียชีวิต

นักข่าวเป็นร้อย รถโอบีแวนทีวี 5-6 คันเต็มบ้าน ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนจะมีนักข่าวสาวเพียงคนเดียวจากสำนักคุณพี่แห้ว-ชัชรินทร์ ไชยวัฒน์ ที่ไปซุ่มโป่งอยู่หน้าบ้านนายกฯอานันท์ ปันยารชุน ละแวกสุขุมวิทแต่เช้า กว่าจะได้เข้าไปกินข้าวกินน้ำในบ้านก็บ่าย เป็นสื่อฉบับเดียวที่ได้สัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟนายกฯรอบสอง ส่วนสื่ออื่นๆตกซุ้มอาหารตายเกลื่อนอยู่บ้าน พล.อ.อ.สมบุญ

บรรดาพันธมิตรฯและพวกนกหวีดที่รักชาติ เป็นคนดีศรีรัตนโกสินทร์ทั้งหลาย ไม่ต้องออกตัวหรอก มันสายไปแล้ว พวกท่านมีส่วนร่วมเชื้อเชิญพวกเพ่ๆมาพร้อมมาตรา 44 ก็ก้มหน้ายอมรับสภาพกันไป พวกเราที่ปฏิเสธเผด็จการและรัฐประหารยังต้องยอมรับทั้งที่ไม่เต็มใจแถมรังเกียจกันออกนอกหน้า

จะออกตัวทำกล้วยอะไร มาถึงขั้นนี้แล้ว เหมือนกรณี “นาฬิกาข้อมือ” รองนายกฯที่สะสมแบบ “คนเล่นของ” เรื่องแบบนี้แทบไม่ต้องทายว่าจะจบยังไง

ที่มันทุเรศคือ คนใน ป.ป.ช. หน่วยงานที่ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ จะพูดทำไมเรื่องความเป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะ เป็นนายทหารที่มียศสูง รู้ความรับผิดชอบว่าอะไรควรไม่ควร หรือยกเรื่องหลงลืม

จะพูดแบบฉี่รดหัวใจประชาชนทำไม คนไทยส่วนใหญ่ไม่ใช่ควายกินหญ้าหรือหมูกินแกลบผสมรำข้าวนะครับ อยากทำอะไรก็ทำเลย วันข้างหน้าหมดอำนาจวาสนา หากยังมีลมหายใจก็ระวังตัวและลุ้นกันเอาเองว่าจะโดนเช็กบิลหรือเปล่า เรื่องแบบนี้ไม่เห็นต้องออกมาพูดอะไร

ส่วนเจ้าของเรื่องและเจ้าของนาฬิกานี่ยิ่งชัดเจน อยากทำอะไรเอาเลยครับท่าน เอาที่เพ่สบายใจและสะดวกใจ จะไม่แถลง จะไม่ลาออก หรือจะอยู่ยาวๆไปกับ “ทั่นผู้นำ” ก็ว่าไป ปูนนี้แล้วเหลือเวลาอีกไม่นานก็ต้องไปนอนบนจิตกาธาน ถึงตอนนั้นอย่างมากก็เศษเหรียญสลึง เหรียญบาท โยนใส่โลงหรือยัดใส่ปาก นาฬิกา 20 เรือนคงไม่เผาไปด้วย จะบ้าเหรอ ขายเอาเงินได้ตั้งหลายล้าน…ฮา ของที่สะสมไว้ก็จะไปก่อประโยชน์ให้ญาติ ลูกหลานเหลนโหลน และคนในวงศ์วานว่านเครือ

อย่างที่บอก คนตายแล้วไม่รับรู้ คนเป็นต่างหากที่ต้องรับกันไป คนที่ยังอยู่ “ของร้อน” ยังไงก็เป็น “ของร้อน” ป่วยการมานั่งถามว่าเอาเงินมาจากไหน เงินเดือนเท่าไรถึงมีเงินเหลือมาสะสมและเล่นนาฬิกาหรู เรื่องแบบนี้ไม่ต่างจากกรณี “ลูกชายกระทิงแดง” หนีคดี “อดีตนายกฯปู” ไปอังกฤษ หรือ “หลวงพี่นะจ๊ะ” ที่วันนี้ขี่ก้อนเมฆไปไหนก็ไม่รู้…สนุกจะตายไปมีชีวิตอยู่ใน “ไทยแลนด์ 4.0”


You must be logged in to post a comment Login