การ์ตูนกระตุกหนวดถอนขน จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ฉบับที่ 4585 วันพุธที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น สรุปความคืบหน้าเหตุระเบิดที่ห้อง “วงษ์สุวรรณ” ภายในโรงพยาบาลพระมุงกุฎเกล้า โดยได้หลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดและจากการประชุมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคือ 1.แจกันสีเขียวมีส่วนเกี่ยวข้องกับระเบิด 2.ชายที่เห็นในภาพสวมหมวกอาจเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ได้เพราะยังไม่ได้สอบปากคำ 3.กล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาลบางตัวใช้การไม่ได้ขณะเกิดเหตุ 4.มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2550 รวมทั้งสิ้น 5 คดี ความคืบหน้านี้มีความน่าสนใจตรงที่ว่าเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จะถูกระบุว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลหลังเก่า ถนนราชดำเนิน และที่หน้าโรงละครแห่งชาติที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ยังเชื่อมโยงไปถึงเหตุระเบิดในปี 2550 ซึ่งบ้านเมืองอยู่ในช่วงการปกครองของคณะรัฐประหารรุ่นพี่คสช. ส่วนใครจะเป็นคนทำ ใครจะอยู่เบื้องหลังตอนนี้ยังไม่สามารถจับมือใครดมได้ มีแต่ชี้นิ้วโทษกันไปมา สำหรับคำถามที่ว่าเมื่อเกิดเหตุการแบบนี้จะส่งผลกระทบต่อโรดแม็พเลือกตั้งหรือไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้สัมภาษณ์ไว้ ณ ทำเนียบรัฐบาลหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมาหลังถูกตั้งคำถามถึงกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนว่า...

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด ผู้เขียน : นายหัวดี หลายครั้งที่เกิดเหตุความรุนแรง ไม่ใช่เฉพาะการลอบวางระเบิด จะมีปัญหาว่า “กล้องวงจรปิด” เสียหรือไม่มีคุณภาพ แต่บางกรณีไม่เสีย แต่บอกว่าเสีย เพื่อบิดเบือนความจริงและปกป้องกลุ่มผู้มีอำนาจและพวกพ้อง อย่างกรณีระเบิดบริเวณหน้าห้องจ่ายยา “วงษ์สุวรรณ” โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีหลักฐานชิ้นส่วนของระเบิดชัดเจนและเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิด 2 ครั้งที่หน้ากองสลากและโรงละครแห่งชาติ รวมถึงการทำระเบิดที่เหมือนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงจึงต้องหาข้อสรุปจากหลักฐานให้ชัดเจนว่าใครหรือกลุ่มใดเป็นผู้กระทำ ไม่ใช่โยนความผิดไปให้ฝ่ายการเมืองที่เห็นต่าง อย่างนักการเมืองและสลิ่มบางคนออกมาสร้างกระแสขณะนี้ อีกประเด็นสำคัญคือ “กล้องวงจรปิด” จะเสียหรือเสื่อมสภาพอย่างไรก็ตาม หน่วยงานราชการเกือบทุกแห่งก็จะถูกนำมาเป็นข้อแก้ตัวโดยไม่มีการรับผิดชอบ โดยเฉพาะพื้นที่สำคัญ ไม่ว่าในกรุงเทพฯ หรือภาคใต้ ใช้เงินงบประมาณไปจำนวนมหาศาล แต่ทุกวันนี้ก็ยัง “วัวหายแล้วล้อมคอก” ไม่มีการบูรณะแก้ปัญหาที่ต้นทาง...

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ ระเบิดป่วนเมืองตรงข้ามกับโพลที่ระบุเรื่องความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะระเบิดลงที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ทั้งที่ 3 จังหวัดภาคใต้ยังไม่มีระเบิดในโรงพยาบาล เรื่องระเบิดที่ภาคใต้เป็นสถานการณ์ที่เคยชิน แต่ระเบิดที่กรุงเทพฯและโรงพยาบาลทหารนี่ถือไม่ปรกติ ก่อนนี้ก็หน้าโรงละครแห่งชาติ สนามหลวง ตำรวจ-ทหารก็เยอะ แต่ยังกล้าหาญชาญชัย จึงทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา ระเบิดทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวต้องรับเคราะห์ ทำไมกระหายเลือดเหลือเกิน ไม่กระหายความสงบบ้างเลย ระเบิดโรงพยาบาลที่มีคนเจ็บป่วยถือว่าอุกอาจมาก จึงต้องร่วมกันประณามแรงๆ แต่จะประณามอย่างเดียวไม่ได้ จอมยุทธ์ เสธ.ทั้งหลายต้องหายุทธศาสตร์ยุทธวิธีหยุดยั้งด้วย ทำไมไม่สามารถเป็นหูเป็นตาให้เกิดความปลอดภัยได้ เสียยี่ห้อรัฐบาลท็อปบู๊ต แต่ก็เห็นใจ เพราะถ้าคนในโลกยังไม่มีเมตตาต่อกัน อย่างสมเด็จพระสังฆราชทรงตรัสว่า “โลกร้อน เพราะเมตตาหย่อน โลกเย็นเพราะเมตตายิ่ง” หากบ้านเมืองมีเมตตาก็จะมีผลงานยิ่งใหญ่ตามมาอย่างมหาศาล ถ้าขาดเมตตา...

การเดินทางครั้งใหม่ของ Greyhound Café สู่มนตร์เสน่ห์แห่งเมืองพัทยา เมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่เป็นที่นิยม ของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศมาอย่างยาวนาน กับคอนเส็ปต์คาเฟ่แบบ Hideaway Hound ที่พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูพิเศษจากวัตถุดิบท้องถิ่นบน โรงละครสิงห์ ดีลักษณ์ ซีเนมาติก เธียเตอร์ (Singha D’Luck Cinematic Theatre) ถนนเทพประสิทธิ์ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หากถามถึงเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่รายล้อมด้วยอารมณ์สนุกสนาน กิจกรรมมีสีสัน และรวมความหลากหลายไว้ครบครัน คงไม่มีคำตอบอื่นที่ใช่ไปกว่าพัทยา เมืองที่ผู้คนต่างหลงไหลและกลับมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย นั่นคือเหตุผลแรกที่ทีม เชฟของ Greyhound Café ถูกดึงดูดให้เข้ามาที่นี่ แต่เมื่อยิ่งมาดูมาค้นหาทีมเชฟก็ยิ่งพบว่าเมืองริมทะเลตะวันออกที่ผู้คนคึกคักแห่งนี้ยังมีวัตถุดิบท้องถิ่นและสูตรอาหารพื้นบ้านที่อร่อยแตกต่างไม่เหมือนที่ไหนๆ จนเกิดแรงบันดาลใจที่จะดีไซน์เมนูอาหารแสนพิเศษขึ้นใหม่เพื่อมอบความสุขให้กับผู้มาเยือนเมืองพัทยาแห่งนี้ Greyhound Café พัทยานับเป็นสาขานอกกรุงเทพฯ แห่งแรกที่ตั้งอยู่บนอาคารของตนเอง...

การ์ตูนกระตุกหนวดถอนขน จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ฉบับที่ 4584 วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น เหตุระเบิดที่ห้องจ่ายยานายทหารสัญญาบัตร ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวาน (22 พ.ค.) ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของใคร ทำด้วยจุดมุ่งหมายอะไร เป็นเรื่องที่สมควรประณาม แม้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำเพราะโรงพยาบาลเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วย ไม่ใช่สถานที่ที่ควรก่อเหตุความรุนแรง แม้แต่ในศึกสงครามเขายังหลีกเลี่ยงไม่โจมตี อย่างไรก็ตาม นอกจากการประณามแล้วยังต้องมาพิจารณาว่าระเบิดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้บ่งชี้อะไรบ้าง ต้องไม่ลืมว่าตั้งแต่ขึ้นศักราชใหม่ในเขตกรุงเทพฯเกิดระเบิดแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่าที่ถนนราชดำเนิน ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าโรงละครแห่งชาติ สนามหลวง และครั้งล่าสุดคือระเบิดที่ห้องวงษ์สุวรรณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ความแตกต่างกันระหว่างระเบิดทั้งสามครั้งคือ...

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด ผู้เขียน : นายหัวดี “เสียของ” และ “เสียเปล่า” เป็นคำที่ “ฝ่ายประชาธิปไตย” นำมาสรุปผลงาน 3 ปีของ “คณรัฏฐาธิปัตย์” โดยเฉพาะ“เจ๊ปู” ที่ถูกยึดอำนาจก็ออกมาทวงสัญญาที่ “คณะรัฏฐาธิปัตย์” บอกว่าจะแก้ปัญหาความแตกแยกทางการเมืองให้กลับเข้าสู่ภาวะปรกติโดยเร็ว ขณะที่ “การปฏิรูปประเทศ” ก็ไม่เห็นอะไรเป็นรูปธรรมเลย เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มาพร้อมเสียง “ระเบิด” ปริศนา แม้ไม่เกี่ยวข้องกันก็ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ปรกติสำหรับ “คณะรัฏฐาธิปัตย์” เพราะเพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” ของ “ทั่นผู้นำ” ที่ถูกกรอกหูทุกสื่อมา 3 ปีระบุชัดเจนว่า “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา...

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ กระแสโซเชียลมีเดียตัดสินใครต่อใครขณะนี้มาแรง แล้วก็ผิดพลาดแรงเช่นกัน อะไรที่เร็วเกินไป ถ้าเบรกรั้งไม่ดี ข้อมูลไม่แน่นไม่ชัดเจน ก็อาจแล่นลงนรกตกเหวได้ อย่างกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด จนครอบครัวเดือดร้อนไปด้วย โดยเฉพาะลูกสาวต้องชี้แจงความจริงผ่านโซเชียลมีเดีย อย่าเพิ่งเชื่อหรือตัดสินอะไรโดยไม่ตรวจสอบ ให้รอบคอบ เพราะทางกฎหมายก็ยังไม่ตัดสิน คงเป็นบุญบารมีของผู้ว่าฯ ที่บอกว่านั่งสมาธิและสวดมนต์เช้าเย็น เลยทำให้พ้นความมัวหมอง แม้จะมีคนให้ร้ายอย่างไร ก็ยังเชื่อในความดีเหมือนที่โบราณว่า “คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้” จึงขอแสดงความเป็นคนดีของผู้ว่าฯ ที่ท่านประกาศให้อภัยและอโหสิกรรมทุกคนที่เข้าใจผิด นี่คือผลของการปฏิบัติอยู่ในศีลในธรรม ทำให้ไม่อาฆาตพยาบาทจองเวรแม้แต่คนที่เข้าใจผิดแล้วเอาไปขยายต่อในโซเชียลมีเดีย ซึ่งคงจะสำนึกและได้ข้อคิดอะไรกันบ้าง อย่างที่หลวงพ่อพุทธทาสว่า ต่อไปโลกมันจะวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่นำไปสู่การวินาสนาการทางศีลธรรมอย่างมาก ถ้าโลกไม่วิวัฒนาการเรื่องนี้มา ปัญหาอย่างนี้ก็คงไม่เกิด การจะตัดสินใครว่าเลวชั่วด้วยอารมณ์ หรือคาดเดาเอาเอง...

คอลัมน์ : เรื่องจากปก ผู้เขียน : ทีมข่าวการเมือง ตั้งแท่นตีปี๊บจะแถลงผลงาน 3 ปีรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วันที่ 22 พฤษภาคม แต่สุดท้าย “ทั่นผู้นำ” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ก็ประกาศหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (16 พฤษภาคม) จะไม่แถลงผลงาน 3 ปีของ คสช. แต่จะไปแถลงในเดือนกันยายนแทน โดยช่วงนี้จะสร้างความเข้าใจไปก่อนว่าหลักคิดของรัฐบาลมีปัญหาอะไรบ้างในการขับเคลื่อนทุกภาคส่วนภายใต้โครงการประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับว่า ที่ไม่แถลงผลงาน 3 ปีของ คสช. ส่วนหนึ่งเพราะมีการนำไปเป็นประเด็นโจมตี คสช. และรัฐบาล แต่ยืนยันว่าวันนี้ตนทำงานเกือบ...

คอลัมน์ : จับกระแสการเมือง ผู้เขียน : สมศักดิ์ ไม้พรต ปิดรับลงทะเบียนคนจนรอบสองปี พ.ศ. 2560 ในรัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ายอดลงทะเบียนทั่วประเทศพุ่งกว่า 14 ล้านราย สำหรับคุณสมบัติผู้ที่เข้าข่ายลงทะเบียนกับรัฐได้ต้องเป็นผู้ที่มีเงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล สลากออมทรัพย์ รวมกันแล้วมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาท เป็นผู้มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 100,000 บาท มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เป็นผู้ว่างงาน และถือครองอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่เกินกว่าที่กำหนด รัฐบาลเปิดลงทะเบียนคนจนมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2559 ที่ผ่านมา...