- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 9 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 9 months ago
- โลกธรรมPosted 9 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 9 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 9 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 9 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 9 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 9 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 9 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 9 months ago
หรือซาตานออกลูกแพร่หลานบนโลกมนุษย์?
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 13 พ.ย. 68 )
คำสอนดั้งเดิมในคัมภีร์ทางศาสนาที่ไม่ถูกบิดเบือนบอกให้เรารู้ว่ามนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์ ทุกเพศบนโลกนี้ถูกพระเจ้าสร้างขึ้นมาเหมือนกัน ตัวสเปิร์มนับร้อยล้านตัวที่ออกมาจากน้ำอสุจิมีลักษณะเหมือนกันตั้งแต่แรก หัวกระโหลกและโครงกระดูกของมนุษย์ทุกคนล้วนเหมือนกันจนแยกไม่ออก ต่อเมื่อมีเนื้อมีหนังที่มีสีผิวแล้วเท่านั้นจึงบอกได้ว่าเป็นชนชาติใด แต่เมื่อตายแล้ว เนื้อหนังของมนุษย์ก็ยุ่ยสลายกลายเป็นดินที่เป็นต้นกำเนิดของมนุษย์เหมือนกัน
มนุษย์จึงมีสถานะเท่าเทียมกันในสายตาของพระเจ้า ความเหนือกว่ากันในตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นเรื่องปกติ ในครอบครัว อิสลามให้สามีมีสถานะเหนือกว่าภรรยาหนึ่งขั้นเพราะสามีมีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูภรรยา ถ้าไม่เลี้ยงดู สามีก็มีสถานะเท่าภรรยา และถ้าขอเงินภรรยา สถานะของภรรยาก็สูงกว่าสามีในด้านศักดิ์ศรีและความรับผิดชอบ แม้แต่ในบรรดานบี พระเจ้ายังยกย่องนบีบางคนเหนือกว่านบีบางคน
อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีมนุษย์บางกลุ่มหลงผิดคิดว่ากลุ่มของตนเองเหนือกว่าชนชาติอื่นโดยใช้คำสอนของศาสนาเป็นข้ออ้างสนับสนุนความหลงผิดของตนเอง การแบ่งชนชั้นวรรณะเกิดขึ้นในอินเดียก็เพราะชนชั้นปกครองผิวขาวจากดินแดนอื่นอ้างคำสอน “พรหมลิขิต” ว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์มาไม่เท่ากัน ใครเกิดวรรณะใดก็ต้องอยู่ในวรรณะนั้นตลอดไปชั่วลูกชั่วหลาน
หลังสมัยโมเสส มีคนบางกลุ่มที่ถูกเรียกว่ายิวอ้างว่าเผ่าพันธุ์ของตนเป็น “ชนชาติที่พระเจ้าทรงเลิอก” ให้เหนือกว่าชนชาติอื่นๆในโลกและชนชาติอื่นเป็นเหมือนสัตว์และถูกสร้างมาเพื่อเป็นทาสรับใช้ชนชาติยิว หลังจากนั้น ความคิดเช่นนี้ได้ถูกนำมาใส่ไว้ในคัมภีร์ตัลมูดที่ชาวยิวสุดโต่งเขียนขึ้นมาและสั่งสอนลูกหลานของตนจนถึงปัจจุบัน
แม้หลังสมัยโมเสส พระเจ้าได้ประทานคัมภีร์แก่เดวิดและเยซัสเพื่อยืนยันคำสอนดั้งเดิมอันบริสุทธิ์ของพระองค์ แต่ทั้งสองคัมภีร์นี้ก็ไม่พ้นจากการถูกแทรกแซงและการเปลี่ยนแปลงของผู้ทรงความรู้ชาวยิว
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมพระเจ้าจึงต้องประทานคัมภีร์กุรอานแก่นบีมุฮัมมัดเพื่อยืนยันคำสอนดั้งเดิมของพระองค์อีกครั้งหนึ่งและเป็นครั้งสุดท้าย
หลังสมัยของเยซัส ชาวยิวต่างรอคอยการมาของนบีคนหนึ่งที่ถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์ก่อนหน้านี้ แต่เมื่อนบีมุฮัมมัดอ้างว่าตัวท่านคือนบีที่พวกเขารอคอย ชาวยิวกลับไม่ยอมรับเพราะชาวยิวทะนงว่าชนชาติอื่นไม่สามารถเป็นนบีได้ นบีต้องเป็นชนชาติยิวเท่านั้น และนี่คือเหตุผลที่ชาวยิวต่อต้านนบีมุฮัมมัด
ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงประทานเรื่องราวการสร้างอาดัมผู้เป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ในอาณาจักรของพระองค์ หลังจากสร้างอาดัมและประทานความรู้แก่อาดัมแล้ว พระเจ้าได้บัญชาให้อิบลีสบรรพบุรุษของซาตานก้มกราบอาดัม แต่อิบลีสไม่ยอมทำตามโดยอ้างว่า “ฉันถูกสร้างจากไฟ แต่อาดัมถูกสร้างจากดิน” ความทะนงในต้นกำเนิดที่มาทำให้มันลืมไปว่าแม้มันจะถูกสร้างมาจากไฟ มันก็เป็นสิ่งถูกสร้างโดยพระเจ้าเหมือนกับอาดัม ด้วยเหตุนี้ มันจึงถูกเนรเทศออกมาจากอาณาจักรของพระเจ้า
ฉากเหตุการณ์อิบลีสปฏิเสธคำบัญชาของพระเจ้าเกิดขึ้นต่อหน้าอาดัมเพื่อสอนให้อาดัมบิดาของมนุษย์ได้รู้ถึงผลของการไม่เชื่อฟังคำบัญชาของพระเจ้า ในขณะเดียวกัน พระเจ้าก็ต้องการใช้เหตุการณ์นี้บอกชาวยิวในสมัยนบีมุฮัมมัดว่าถ้าใครคิดว่าเผ่าพันธุ์ตัวเองเหนือกว่าคนเผ่าพันธุ์อื่น คนผู้นั้นก็มีความคิดไม่ต่างจากอิบลีสหัวหน้าซาตาน
หรือยิวไซออนิสต์ในปัจจุบันอาจเป็นซาตานในร่างมนุษย์ ก็ชวนให้คิดได้





You must be logged in to post a comment Login