การ์ตูนกระตุกหนวดถอนขน จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ฉบับที่ 4518 วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น เรื่องสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) 7 คน ถูกเปิดเผยสถิติการขาดประชุมจนเสี่ยงต่อการสิ้นสมาชิกภาพ แต่ถูกอธิบายว่ายังไม่สิ้นสมาชิกภาพเพราะว่ายื่นหนังสือลาประชุมตามสิทธิ ตามกฎระเบียบที่ให้ทำได้ แต่พอผู้ที่นำข้อมูลมาเปิดเผยขอดูหลักฐานการยื่นหนังสือลาประชุม กลับได้รับคำตอบจากผู้เกี่ยวข้องว่าเป็น “ความลับทางราชการ” ขณะนี้มีเสียงเรียกร้องให้ สนช.ที่ไม่ค่อยว่างเข้าประชุมพิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากตำแหน่ง เพราะเมื่อไม่มีเวลามาประชุมสภา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ไม่ควรที่จะได้รับค่าตอบแทนในรูปของเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆ นอกจากเสียงเรียกร้องให้พิจารณาตัวเองแล้ว ยังมีประเด็นที่น่าพิจารณาคือเรื่องที่ว่าหนังสือลาประชุมเป็น “ความลับทางราชการ” ว่าเรื่องแบบนี้ถือเป็น“ความลับทางราชการ” จริงหรือ? หากการเข้าประชุมสภาถือเป็น “ความลับทางราชการ” ทำไมที่ผ่านมาเราสามารถนำข้อมูลการเข้าประชุมสภาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมาเปิดเผยต่อสาธารณะได้ นับแต่มีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการยุบสภา หรือมีการเลือกตั้งมักมีบุคคลหรือองค์กรต่างๆนำข้อมูลการเข้าประชุมสภาของส.ส.มาเปิดเผยต่อสาธารณะนัยว่าเพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับประชาชนใช้พิจารณาในการลงคะแนนเลือกส.ส.ในครั้งต่อไป มีการรณรงค์กันถึงขนาดว่าใครที่ขาดประชุมสภาบ่อยไม่ต้องเลือก เพราะถือว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ไม่รับผิดชอบต่อประชาชนที่ลงคะแนนเลือกให้เป็นตัวแทนมาทำงานในสภา พูดกันถึงขนาดที่ว่าพฤติกรรมของส.ส.ที่แสดงออกในสภาเป็นอย่างไรสะท้อนถึงคุณภาพประชาชนในเขตนั้นหรือจังหวัดนั้นที่เลือกส.ส.คนนั้นเข้ามาเป็นตัวแทน หากส.ส.ขาดประชุมสภาบ่อย ไม่ค่อยเข้าประชุมสภา หรือแสดงพฤติกรรมเสื่อมเสียในสภาประชาชนเขตนั้นหรือจังหวัดนั้นควรมีความละอายที่ได้ลงคะแนนเลือกให้เป็นตัวแทนเข้ามาทำงานในสภา ย้อนไปหลังการประกาศยุบสภาของ...

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด ผู้เขียน : นายหัวดี ประเด็นร้อนของบ้านเมืองวันนี้ คงหนีไม่พ้นกระบวนการสร้างความปรองดองภายใต้ “ระบอบพิสดาร” ซึ่งรัฐบาล คสช.วาดฝันสวยหรูจะปฏิรูปประเทศทุกด้าน ทุกองค์กร ให้ประเทศไทยมั่นคง มั่งคั่ง และเป็นมหาอำนาจ แม้ยังไม่เห็นการปฏิรูปอะไรเป็นรูปธรรม เช่นเดียวกับการสร้างความปรองดอง ซึ่งหลายฝ่ายก็ยังกังวลกับท่าทีของ “ท่านผู้นำ” ว่าจริงใจและทำจริงหรือไม่ เพราะทุกฝ่ายต้องการให้บ้านเมืองกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย การปรองดองจึงเหมือนถนนสายสำคัญของประเทศ ที่ทุกกลุ่มทุกฝ่ายต้องการให้เคารพกติกา ไม่ใช่ขี้แพ้ชวนตี หรือมีผลประโยชน์แอบแฝงแล้วสร้างสถานการณ์ “ล้มกระดาน” อย่างที่ผ่านมา เช่นเดียวกับแนวคิดและท่าทีของ “ท่านผู้นำ” ที่ต้องไม่ใช้ความสัมพันธ์เชิงอำนาจบังคับหรือสั่งการให้คนรักกันและปรองดองกัน หรือเดินไปตาม “ธง” ที่ “คณะรัฏฐาธิปัตย์” กำหนดไว้ “โลกวันนี้วันสุข” จึงเปรียบความปรองดองครั้งนี้เหมือนถนนสายสำคัญ...

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ คณะรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้าเฝ้าเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ซึ่งท่านได้รับสั่งหลายประเด็นเรื่องศาสนา โดยให้รัฐบาลมีสมาธิ สติ สัมปชัญญะ รู้คิด รู้ตัว และรู้ปฏิบัติ ทำงานอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาท เข้าใจว่ามีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ อาตมารู้สึกว่า พระสังฆราชองค์นี้แปลกกว่าที่แล้วๆมาที่มักให้ศีลให้พรและให้เหรียญ เครื่องรางของขลังต่างๆ แต่ที่ให้หลักธรรมอย่างนี้ไม่ค่อยมี ทั้งยังลึกซึ้งสำหรับเรื่องโลกธรรม 8 ที่ว่ามีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มีสรรเสริญ มีสุข...

การ์ตูนกระตุกหนวดถอนขน จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ฉบับที่ 4517 วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยโดย โครงการอินเทอร์เน็ต เพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ ที่แสดงให้เห็นถึงการขาดประชุมจวนจะสิ้นสมาชิกภาพของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 7 คน ถือว่าน่าสนใจ ความน่าสนใจไม่ได้อยู่แค่เพียงมีชื่อของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (สนช.) มีรายชื่อเป็น 1 ใน 7 คนที่ขาดประชุมเป็นประจำ แต่น่าสนใจตรงที่ว่าทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งใครดำรงตำแหน่งอะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ จะถูกอธิบายว่าผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งมีความเหมาะสม และเป็นการแต่งตั้งเข้ามาเพื่อทำประโยชน์ให้บ้านเมืองส่วนรวมไม่มีเรื่องพวกพ้องน้องพี่ ทั้งนี้ ตามข้อบังคับการประชุมของสภากำหนดให้สมาชิกต้องมาลงมติอย่างน้อย 1 ใน 3 ของทุกรอบ 90 วัน...

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด ผู้เขียน : นายหัวดี “ยังไหว” คือคำที่ “ไผ่ ดาวดิน” บอกกับเพื่อนที่ให้กำลังใจหลังจากอัยการสั่งฟ้องในข้อหามาตรา 112 ทำให้กลับเข้าคุกต่อไป เช่นเดียวกับ “ผู้เห็นต่าง” กับ “คณะรัฏฐาธิปัตย์” ที่หลายคนถูกจับกุมและดำเนินคดี ภายใต้ “อำนาจรัฏฐาธิปัตย์” จึงไม่มีคำว่าสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน หรือความยุติธรรมตามหลักกฎหมาย “rule of law” เช่นประชาคมโลกที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย “ไผ่ ดาวดิน” กล่าวผ่าน “iLaw” ในฐานะ “นักโทษทางความคิด” ว่าอยากให้คดีของตนอธิบายกับสังคมและเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ เพื่อให้ทุกอย่างดีกว่านี้ ทั้งกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย กรณีของ...

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยต่างก็ประกาศจะปฏิรูปการศึกษา เพื่อให้เป็นผลงานชิ้นใหญ่ชิ้นสำคัญ หรือจะปฏิรูปประเทศ อย่างขณะนี้กำลังจะสร้างความปรองดอง แต่ผ่านมากี่ยุคกี่สมัยก็ยังปองด่าปองร้ายกันอยู่อย่างนี้ ไม่รู้ว่าจะเกิด จะมี จะเป็นได้สักแค่ไหน แม้ครั้งนี้ความตั้งใจจะมาแรง เพราะสถานการณ์น่าจะปรองดองกันได้ แต่ยังมีคนที่ทำให้เสียบรรยากาศ ตอดเล็กตอดน้อย มีการเกี่ยงงอนอะไรกันอยู่ ยังไม่ร่วมเดินทางเดียวกัน จึงยังจะหวังร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ แต่ที่ดีคือไม่มีม็อบมาขวางถนน ขวางทำมาหากิน แท็กซี่ไม่ถูกทุบรถ วิ่งส่งผู้โดยสารจะได้เงินได้ทอง เรื่องนี้โพลก็บอกว่าคนพอใจรัฐบาลทหารอีกเรื่องคือปราบคอร์รัปชัน แต่อาตมาชักลังเลว่ามันจะเป็นไปได้มั้ยระหว่างการปฏิรูปกับการปราบทุริตคอร์รัปชัน เมื่อเร็วๆนี้อ่านหนังสือพิมพ์ว่า รัฐบาลคุณชวน หลีกภัยโปร่งใสที่สุด ต่อมารัฐบาลคุณบรรหาร ศิลปอาชา ก็โปร่งใสเป็นอันดับ 2 รัฐบาลท่านพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ...

การ์ตูนกระตุกหนวดถอนขน จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ฉบับที่ 4516 วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น หลังศาลปกครองกลางไม่รับคำร้องให้ทุเลาคำสั่งทางปกครองให้ชดใช้ค่าเสียหายจาการดำเนินการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีจาก นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และพวก รวม 6 คน โดยแยกความเสียหายที่ต้องจ่ายให้กับรัฐดังนี้ นายบุญทรง ต้องจ่ายค่าเสียหาย 1,770 ล้านบาท นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ 2,300 ล้านบาท นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ ต้องจ่ายคนละ 4,000 ล้านบาท หลังมีคำสั่งศาลเมื่อวันศุกร์ที่...

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด ผู้เขียน : นายหัวดี เงียบหายไปนานสำหรับเรื่องของเครือญาติตระกูล “จันทร์โอชา” เมื่อมีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แสวงหาข้อเท็จจริงกรณีร้องเรียนให้ตรวจสอบ หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่นที่ นายปฐมพล จันทร์โอชา บุตรชาย “บิ๊กติ๊ก” ที่เป็นคู่สัญญากับภาครัฐหลายแห่ง รวมถึงกองทัพภาคที่ 3 นั้น แม้ผ่านมาหลายเดือนก็ยังไม่หายไปในกลีบเมฆ เพราะข่าวบอกว่าคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ตั้งของหจก.คอนเทมโพรารีฯ แล้ว พบข้อมูลเบื้องต้นว่าอาจเข้าข่ายไม่มีคุณสมบัติเพียงพอจะรับงานในฐานะคู่สัญญากับภาครัฐคือ บริษัทไม่เคยมีผลงาน ไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์เพียงพอ ฯลฯ แต่ยังชี้ชัดไม่ได้ว่าใครผิด ที่สำคัญยังเป็นแค่การแสวงหาข้อเท็จจริง และสำนักกฎหมายจึงต้องดำเนินการปรับปรุงระเบียบป.ป.ช.ให้สอดคล้องพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4)...