- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 3 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 3 months ago
- โลกธรรมPosted 3 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 3 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 3 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 3 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 3 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 3 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 3 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 3 months ago
เมื่อลูกหลานอิสราเอลหลงไปจากทางของอับราฮัม

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 24 พ.ค. 68)
โมเสสได้รับคัมภีร์โตราห์จากพระเจ้าเพื่อนำมาใช้เป็นกฎหมายปกครองลูกหลานอิสราเอลที่อพยพจากอียิปต์มาอยู่ในทะเลทราย เพราะการมีกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการอยู่รวมกันเป็นสังคม กฎหมายที่โมเสสนำมาถือว่าพระเจ้าเป็นอำนาจอธิปไตยที่ผู้อยู่ใต้กฎหมายต้องยอมรับ
พวกลูกหลานอิสราเอลเคยได้รับบทเรียนอันเจ็บปวดยาวนานมาแล้วจากการอยู่ภายใต้การปกครองของฟาโรห์ที่ถือว่าคำบัญของเขาคือกฎหมายและตัวเขาเป็นอธิปไตยในฐานะตัวแทนของพระเจ้าที่ชาวอียิปต์ต้องเคารพกราบไหว้
โมเสสไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้งศาสนายูดาย แต่ศาสนายูดายเกิดขึ้นเมื่อโมเสสจากโลกนี้ไปและต้นฉบับของคัมภีร์โตราห์สูญหาย พวกลูกหลานอิสราเอลจึงพยายามรวบรวมคำสอนของโมเสสและเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตจากผู้คนที่พอจะจำได้ แต่ข้อมูลจากความจำที่ขาดตกบกพร่องประกอบกับความอคติจึงทำให้มีคัมภีร์เล่มใหม่เกิดขึ้นซึ่งผิดเพี้ยนไปจากคำสอนของโมเสสและเป็นที่มาของศาสนายูดาย
ความเชื่อและการปฏิบัติศาสนาของพวกลูกหลานอิสราเอลดำเนินไปจนกระทั่งเยซัสหรือนบีอีซาได้ถือกำเนิดมาท่ามกลางพวกลูกหลานอิสราเอล แม้จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียง 33 ปี แต่เยซัสได้ประกาศว่าเขามิได้มาล้มล้างธรรมบัญญัติ แต่มายืนยันธรรมบัญญัติเดิมที่โมเสสนำมา เยซัสจึงไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้งศาสนาคริสต์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และไม่มีตรงไหนในคัมภีร์ไบเบิลระบุว่าเยซัสประกาศยกตัวเองเป็นพระเจ้า

หลังจากเมืองเยรูซาเล็มถูกกองทัพโรมันทำลายใน ค.ศ.70 สาวกและสานุศิษย์ของเยซัสที่ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวยังคงพยายามเผยแผ่คำสอนของเยซัสในอาณาจักรไบแซนตินอย่างยากลำบาก ชาวโรมันเรียกคำสอนที่ผู้ศรัทธาในเยซัสนำไปสอนว่าศาสนาคริสต์ หลังจากเวลาผ่านไปกว่าสองศตวรรษ ศาสนาคริสต์ที่ชาวโรมันเรียกกันก็กลายเป็นศาสนาทางการของอาณาจักรไบแซนติน
คำสอนของเยซัสที่ถูกบันทึกไว้เป็นภาษาอาราเมอิกและถูกทำลายไปได้ถูกรวบรวมขึ้นมาใหม่เป็นภาษากรีกและมีการสังคายนากันหลายครั้งจนมีข้อความหลายตอนผิดเพี้ยนไปจากคำสอนดั้งเดิม แต่ที่ร้ายแรงที่สุดคือการมีหลักความเชื่อเรื่อง “ตรีเอกานุภาพ” ขึ้นมาซึ่งขัดกับความเชื่อของโมเสสและเยซัส
ตรงนี้เองที่ลูกหลานอิสราเอลหลงออกไปจากแนวทางของอับราฮัม บรรพบุรุษแห่งความศรัทธาของพวกตน กลุ่มหนึ่งนับถือศาสนายูดายและอีกกลุ่มหนึ่งนับถือศาสนาคริสต์ แม้จะมีบรรพบุรุษทางความเชื่อร่วมกัน แต่ทั้งสองกลุ่มต่างมีอคติต่อกัน คนที่นับถือศาสนายูดายถูกเรียกว่ายิว
หลังจากเมืองเยรูซาเล็มถูกทำลายใน ค.ศ.70 ชาวยิวได้อพยพหลบหนีไปหลบภัยในที่ต่างๆ มีชาวยิวสามเผ่าอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่ชานเมืองยัษริบ(มะดีนะฮฺ)ก่อนนบีมุฮัมมัดถือกำเนิดประมาณ 500 ปี ขณะเดียวกัน กษัตริย์อาณาจักรไบแซนตินได้อุปถัมภ์การเผยแผ่ศาสนาคริสต์ไปยังอาฟริกาและในคาบสมุทรอาหรับ ถิ่นฐานของชาวอาหรับที่นับถือศาสนาคริสต์คือแคว้นนัจญ์รอนทางตอนใต้ของอาระเบีย
เนื่องจากบรรพบุรุษของชาวยิวหลายคนเป็นนบีและนบีบางคนได้รับคัมภีร์ ชาวยิวจึงมีความภาคภูมิใจในบรรพบุรุษของตัวเองและถือว่าชนชาวยิวเป็นผู้มีความรู้ในคัมภีร์ที่บรรพบุรุษของตัวเองได้รับจากพระเจ้า ดังนั้น ชาวยิวจึงดูถูกชนชาติอาหรับว่าเป็นคนป่าเถื่อนและไร้การศึกษา ถ้าจะมีนบีคนใดเกิดขึ้นตามคำนายล่วงหน้าในคัมภีร์เก่า นบีคนนั้นต้องเป็นลูกหลานอิสราเอล นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเมื่อนบีมุฮัมมัดประกาศว่าตัวท่านเป็นนบี ชาวยิวจึงไม่ยอมรับเพราะความอคติ ไม่เพียงเท่านั้น พวกลูกหลานอิสราเอลยังสมคบคิดกับชาวอาหรับต่อต้านและทำลายนบีมุฮัมมัดด้วย (ยังมีต่อ)
You must be logged in to post a comment Login