- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
นบีกับคัมภีร์เป็นสิ่งคู่กัน

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 24 เม.ย. 68)
สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ว่าคำสอนของทุกศาสนามีเหมือนกันและมาจากแหล่งเดียวกัน นั่นคือ คัมภีร์ที่บันทึกคำสอนของศาสนาและศาสดาผู้นำคำสอนของศาสนามายังมนุษยชาติ
ถ้ามนุษย์สร้างเครื่องยนต์กลไกหรือเครื่องมืออะไรขึ้นมาสักชิ้นยังมีคู่มือการใช้งานมาให้ แถมยังมีพนักงานมาช่วยอธิบายการใช้ให้เพื่อความสะดวกรวดเร็ว มีหรือที่พระเจ้าผู้สร้างมนุษย์จะไม่ส่งคู่มือการใช้ชีวิตมาให้ในรูปของคัมภีร์และนบีหรือศาสดามาเป็นผู้อธิบายการใช้ชีวิต ทั้งนี้เพราะพระเจ้าได้กล่าวไว้ในคัมภีร์กุรอานว่ามนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาในสภาพอ่อนแอและไม่มีความรู้
คัมภีร์คือบันทึกคำสอนของพระเจ้าที่ประทานแก่นบีบางคนเพื่อนำไปสอนมนุษย์ตามคำสั่งของพระเจ้า นบีจะไม่สอนอะไรนอกเหนือไปจากคำสอนที่อยู่ในคัมภีร์ เมื่อนบีคนใดจากไป แต่คัมภีร์ยังคงมีอยู่ นบีคนต่อมาก็จะนำคำสอนในคัมภีร์นั้นมาสอนต่อ แต่เมื่อใดที่คัมภีร์ถูกทำลายหรือเสียหายหรือถูกบิดเบือน พระเจ้าก็จะประทานคัมภีร์มาให้แก่นบีคนต่อมาในภาษาของนบีและผู้คนในสังคมของนบีนั้นๆ
แม้คัมภีร์และนบีจะใช้ภาษาต่างกัน แต่ทุกคัมภีร์มีคำสอนหลักที่เหมือนกันนั่นคือ พระเจ้าที่แท้จริงที่มนุษย์ต้องเคารพสักการะกราบไหว้และเชื่อฟังมีองค์เดียวที่เป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่งและพระเจ้าองค์เดียวกันนี้แหละที่มนุษย์จะต้องกลับไปหาเมื่อวิญญาณของมนุษย์ออกจากร่างไปหลังหมดลมหายใจ
ตราบใดที่คัมภีร์ยังคงมีอยู่ ตราบนั้น มนุษย์ก็ยังคงมีคู่มือการใช้ชีวิต ขาดคู่มือการใช้ชีวิตเมื่อใด มนุษย์ก็ใช้ชีวิตไม่เป็นและชีวิตมนุษย์จะได้รับความเสียหายในที่สุด
นบีมุฮัมมัดให้ข้อมูลแก่เราว่าก่อนหน้าท่านขึ้นไปมีมนุษย์ในชุมชนต่างๆที่พระเจ้าเลือกขึ้นมาเป็นนบีจำนวน 124,000 คน และในบรรดานบีเหล่านี้พระเจ้าได้ประทานคัมภีร์ให้ 313 เล่ม นบีคนใดที่ได้รับคัมภีร์ก็มีสถานะเป็นศาสนทูต(รอซูล) เราไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อนบีและคัมภีร์ทั้งหมด เพราะทุกคัมภีร์และนบีทุกคนสอนสิ่งเดียวกัน
เนื่องจากคัมภีร์ก่อนๆได้รับความเสียหายหรือถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขไปตามกาลเวลา พระเจ้าจึงประทานคัมภีร์กุรอานเป็นคัมภีร์สุดท้ายแก่นบีมุฮัมมัด อย่างไรก็ตาม มุสลิมได้ถูกกำหนดให้เชื่อในคัมภีร์ก่อนหน้านี้ทุกเล่ม แต่เชื่อว่าคัมภีร์กุรอานเป็นคัมภีร์สุดท้ายที่พระเจ้าประทานแก่มนุษย์และใช้คัมภีร์กุรอานเป็นมาตรฐานในการอ้างอิง ด้วยเหตุนี้ มุสลิมจึงต้องศรัทธาในนบีทุกคนของพระเจ้า แต่เชื่อว่านบีมุฮัมมัดเป็นนบีคนสุดท้ายที่พระเจ้าส่งมายังมนุษยชาติ
สิ่งที่ทำให้คัมภีร์กุรอานแตกต่างไปจากคัมภีร์ก่อนหน้านี้ก็คือ คัมภีร์กุรอานไม่เคยถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือสังคายนาหลังสมัยนบีมุฮัมมัด มุสลิมปัจจุบันจึงอ่านคัมภีร์กุรอานในภาษาอาหรับดั้งเดิมเหมือนกับนบีมุฮัมมัดและสาวกของท่านอ่านเมื่อ 1,400 ปีที่แล้ว ไม่มีใครสามารถอ่านถ้อยคำในคัมภีร์กุรอานเป็นอย่างอื่นได้ เพราะมีมุสลิมทั่วโลกนับหลายล้านคนสามารถท่องจำคัมภีร์กุรอานได้ทั้งเล่ม
คัมภีร์กุรอานถูกประทานแก่นบีมุฮัมมัดครั้งแรกในเมืองมักก๊ะฮฺเมื่อท่านมีอายุ 40 ปี และถูกประทานแก่ท่านอย่างต่อเนื่องในสถานการณ์ต่างๆเป็นระยะเวลา 13 ปีท่ามกลางการถูกต่อต้านที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนท่านและบรรดาสาวกต้องอพยพไปอยู่ที่เมืองมะดีนะฮฺ พระเจ้าก็ยังคงประทานวจนะแก่ท่านอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี การประทานคัมภีร์กุรอานจึงครบถ้วนสมบูรณ์เป็นธรรมนูญในการดำเนินชีวิตของมุสลิมผู้ศรัทธาในพระเจ้าจนถึงวันสิ้นโลก
เมื่อนบีมุฮัมมัดจากโลกนี้ไปในขณะที่มีอายุ 63 ปี คัมภีร์กุรอานจึงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่เป็นหลักฐานยืนยันการมีอยู่ของพระเจ้าจนถึงวันสิ้นโลก
You must be logged in to post a comment Login