วันพฤหัสที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ตู้ปันสุขพระช่วย

On May 13, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 14 พ.ค. 63)

และแล้วเจ้าโควิด-19 ก็สามารถสร้างเรื่องใหม่ๆให้คนไทยได้เห็น ได้ดู ได้ทำกัน นั่นก็คือ ตู้ปันสุข คือ มีคนที่พอมี พอกิน พอเหลือ จะเอาข้าวสาร อาหารแห้ง สิ่งของจำเป็น ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นม น้ำดื่ม มาแบ่งปัน ติดตั้งตู้กันหลายจุดตามชุมชนหรือหน้าบ้านทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดจนเกิดเป็นกระแสชื่นชม ส่วนคนที่ข้นแค้น ฝืดเคือง ขัดสน ก็ได้มาเอาสิ่งของเหล่านี้มาประทังชีวิต ทำให้เกิดการช่วยเหลือกันแบบชนิดเหมือนปิดทองหลังพระ

ไม่ต้องมานั่งดู นั่งแจกกันล่ะ ใส่แล้วก็ไป ฝ่ายคนที่ได้รับความเดือดร้อนก็จะมาเอาเรียกว่า เกิดเป็นกระแสดราม่าตู้ปันสุข ถือโครงการดีๆเพื่อแบ่งปันน้ำใจในช่วงวิกฤตโควิด-19 กระจายไปทั่วประเทศ มีการแบ่งปันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างที่ จ.สุพรรณบุรี มีการแชร์ภาพตู้ปันกันอิ่ม หน้าโรงพยาบาลธนบุรี-อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อมีลุงมาเปิดตู้หยิบคนไปกินแค่กล่องเดียว พร้อมคำพูดที่ว่า ” นมกล่องเดียวก็อิ่มแล้ว เอาไว้ให้คนอื่นกินบ้าง ” เมื่อผู้ถ่ายภาพนี้แล้วนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก ทำให้ชาวโซเชียลพากันชื่นชมจำนวนมาก

ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องที่คนไทยมีอะไรแปลกๆเรื่องบัน เรื่องให้ นิสัยช่วยๆ ให้ๆ ต้องเรียกว่า คนไทยไม่แพ้ชาติไหน มีการช่วยๆ ให้ๆอย่างเป็นหน้า เป็นตา เป็นชื่อเสียงของโลกในระดับต้นๆ ถึงเราไม่ขนาดเท่าพม่าในเรื่องของความใจบุญสุนทาน แต่เรื่องการช่วยกันในยามวิกฤตคับขันของเราก็เรียกว่า ผ่านเข้ารอบกับเขาด้วย ไม่น้อยหน้าใครในโลกนี้ ขอให้สิ่งเหล่านี้มันขยาย มันเป็นไปอย่างงดงาม ผู้ใหญ่ก็มีจิตใจงดงาม ผู้รับก็ต้องรับแบบจิตใจที่งดงาม ไม่ควรที่จะไปรับแบบหิวโซอย่างกับผีเปรต ซาตาน ทำให้คนเขานึกด่า นึกแช่งเอาว่า ไม่เห็นใจคนอื่นบ้าง

ยกตัวอย่างมีสื่อรายงานว่า มีบางกลุ่มคนในบางพื้นที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ผิดวัตถุประสงค์หยิบไปแต่พอดี ถ้าท่านมีใส่ตู้แบ่งปัน เช่นที่ จ.นครสวรรค์ มีคลิปชาวบ้านรุมแย่งของ ชุลมุนหน้าตู้ปันสุข มีทั้งมาเป็นทีมเวียนหยิบของ บางรายถึงขั้นกระชากจากมือคนอื่นไป ไม่ถึงนาทีของเกลี้ยงตู้ เกิดขึ้นที่หน้าห้างแฟรี่แลนด์ หลังเกิดเหตุนายกเทศมนตรี สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ ย้ายตู้ปันสุขไปตั้งหน้าสถานีดับเพลิง พร้อมออกกฎเข้ม 1 คนหยิบได้ 4 ชิ้น

ขณะที่ จ.อุบลราชธานี เกิดกรณีพ่อลูกคู่หนึ่ง ขี่มอเตอร์ไซค์มาขนของจากตู้แบ่งปัน ที่หน้าวัดป่าหัวดอน บริเวณสี่แยกร่มเกล้า เขตเทศบาลนครอุบลราชธานี พอมีคนตะโกนถามไปว่า เอาไปหมดเลยหรือ ไม่เหลือไว้ให้คนอื่นบ้างหรือ เด็กน้อยกลับตอบมาว่า “คนอื่นหยิบไปเยอะกว่าผมอีก อีกเคสหนึ่ง ที่ จ.ชลบุรี โซเชียลแชร์ภาพรถเก๋งขับมาจอดหยิบของจนเกลี้ยงตู้แล้วหนีไป และมีกลุ่ม จยย.ลงมาจอดขนของ ก่อนแยกย้ายไร้ร่องรอย

เรื่องนี้ที่วัดสวนแก้วก็เริ่มมีการตั้งตู้ปันสุข 1 ตู้ มีการเอาผลไม้ใส่ไว้บ้าง รวมทั้งปลากระป๋อง ของแห้งต่างๆนาๆก็เอามาใส่ แต่จะไม่แจกให้เหมือนกับทั่วไปที่เขาตั้งๆ เราอาจจะต้องแจกเฉพาะคนที่มีบัตร มีคูปอง ไม่เช่นนั้น มันจะวนเวียน ใครมีบัตรคูปองก็สามารถหยิบของในตู้ได้ เราจะดำเนินการแจกภายในวัดสวนแก้วก่อน เพราะคนอยู่ในวัดหลายร้อยคนที่ตกทุกข์ได้ยาก ตกงาน ตกการนี่ ทางวัดจะให้คนกลุ่มนี้ก่อน และจะให้รับได้ครั้งหนึ่งต่อวัน ไม่ใช่ปล่อยให้เวียนเอาๆ คนอื่นก็อด

ครั้งต่อไปน่าจะมีเรื่องศีลธรรมมากำกับบ้าง ถ้าใครไม่มีศีลธรรม ขี้เหล้ามายา ขี้เกียจ ขี้คร้านก็ไม่ให้สิทธิมาหยิบของในตู้บันสุขนี้ได้ แต่ที่วัดได้ชื่อว่า ตู้พระช่วย พระให้อะไรทำนองนี้ แต่ขอย้ำว่า หยิบสิ่งของในตู้ดังกล่าวได้เฉพาะในวัดก่อน เพราะคนตกงานมาอยู่ในวัดมีจำนวนมากแล้ว ถ้าให้คนนอกมาด้วยจะไปเหลืออะไร และต่อไปอาจจะต้องตรวจสอบ สอบถามว่า กินเหล้ามั้ย ขี้เกียจมั้ย สู้ชีวิตมั้ย ถ้าติดเหล้า ติดการพนัน งานการไม่ทำ ถ้าสู้ชีวิตมาตลอด แต่ว่า บังเอิญมาตกงาน บริษัทถูกปิด

อันนี้น่าช่วย น่าให้ ไม่ใช่ว่า พอเปิดตู้ใครต่อใครก็ไม่รู้ พวกยากจนก็ดีช่วยกัน แต่พวกอยากจนนี่ซิ ทำเป็นคนอยาก คนจน ไม่คิดอะไรในทางที่สร้างสรรค์ มีแต่จะจ้องจองล้าง จองผลาญหยิบของในตู้ปันสุขหมดเกลี้ยง ส่งผลให้บางคนที่เขาได้รับความเดือดร้อนก็ลำบาก ไม่มีโอกาสที่จะได้กินเหมือนกับคนอื่น เพราะฉะนั้น จึงอาตมาจะให้แบบมีศีลธรรมต่อรอง ไม่ใช่ให้แบบไม่มองตาม้า ตาเรือ ถ้าหากว่า ไม่มีศีลธรรมเป็นเครื่องต่อรอง อาตมาว่า คนก็จะไร้ศีลธรรมมากขึ้น

เหมือนรัฐบาลให้เงินเยียวยา 5,000 บาท ถ้าเอาเรื่องศีลธรรมมาสักนิดหนึ่ง ถ้าไม่ติดอบายมุข ไม่ดื่มเหล้า เมายา น่าจะเป็นคนให้ก่อน แต่คุณสมบัติข้อแรก ศีลธรรมบ้าง ไม่ใช่ไปวางกฎกติกาอย่างอื่น เป็นคุณสมบัติอย่างอื่น แต่เวลาจะคิดพิจารณาคนสนับสนุนคนให้มีศีลธรรม อันนี้น่าจะมีเรื่องคิดแบบนี้กันแบบนี้บ้าง ไม่ควรที่จะให้กันง่ายๆแบบไม่มีอะไรเป็นเครื่องต่อรอง ต่อไปคนจะไม่คิดถึงเรื่องศีลธรรมกันเลย ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องคิดแบบนี้ ทำแบบกันบ้าง เผื่อประเทศชาติจะเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสให้มีศีลธรรมกลับมา

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login