วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

“ต้องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” สัมภาษณ์- รศ.อัษฎางค์ ปาณิกบุตร โดย ประชาธิปไตย เจริญสุข

On February 19, 2018

รศ.อัษฎางค์ ปาณิกบุตร นักวิชาการอาวุโสด้านรัฐศาสตร์ ชี้รัฐบาล คสช. มีปัญหาวิกฤตศรัทธามากขึ้นเรื่อยๆ 4 ปียังแก้ปัญหาประเทศไม่ได้เลย แต่รัฐบาล คสช. ก็ไม่วิตก เพราะคุมอำนาจได้หมด เตือนเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีกจะยิ่งถูกต่างชาติแซงชั่นมากขึ้น ไม่ทำตามสัญญาประชาคมโลกก็ยิ่งไม่อยากคบหาสมาคม ส่วนประชาชนต้องรักษาสิทธิของตัวเองและต้องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

++++++++++

แม้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเผชิญมรสุมอย่างหนักเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม แต่เขาก็ไม่หวั่นไหวแม้แต่นิดเดียว เพราะอำนาจอยู่ในมือเขาหมด ประชาธิปไตยมาไม่ได้เลย จริงๆแล้วเขาวางแผนวางระบบไว้ดี คุมไว้หมดทุกอย่าง แต่ก็ทำให้เกิดความประมาท คือทำงานไปเรื่อยๆ แต่พอไม่เก่งก็แก้ปัญหาไม่ได้ อาจเพราะขาดทีม ขาดวิสัยทัศน์ ขาดแนวร่วมที่จะช่วยทำงานดีๆ ก็เลยไม่มีผลงานชัดเจน เลยมองดูเหมือนประสบมรสุม ถ้าเป็นรัฐบาลธรรมดาก็อาจไปแล้ว แต่นี่เป็นรัฐบาลเผด็จการจึงทำอะไรไม่ได้

อย่างเรื่องตัวบุคคลที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ถูกกดดัน ผมเชื่อว่าเขาหาทางออกได้ เขามีโซลูชั่นไม่ให้เสียหายนัก อย่างมากก็ลาออก ความผิดคงไม่มี เพื่อนนักธุรกิจให้ยืมใช้ หรือแหวนที่เป็นสมบัติของญาติ มันง่ายสำหรับคนมีอำนาจ ผมเชื่อว่าเขาไม่แคร์ประชาชนอยู่แล้ว เพราะไม่ใช่รัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งที่ต้องแคร์ประชาชน กรณี พล.อ.ประวิตร สื่อหรือฝ่ายไหนจะโวยวายแค่ไหนเขาก็เฉยๆ เพราะเขาคุมอำนาจได้เบ็ดเสร็จ แม้กระแสจะตก แต่ภาพรวมเขายังแข็งแรงเหมือนเดิม ยังมีอำนาจมากเหมือนเดิม

หาก พล.อ.ประวิตรไม่ยอมลาออก

เพื่อไม่ให้โดนข้อครหา พล.อ.ประวิตรต้องยอมลาออกจากตำแหน่ง แม้พรรคพวกจะเกรงใจ แต่เขาคงมีการพูดกัน เพราะ พล.อ.ประวิตรโดนหลายเรื่อง แต่เขาก็ถูลู่ถูกังกันมาทุกที พล.อ.ประวิตรอยู่ในแวดวงการเมืองมา 10 ปีแล้ว ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีกลาโหมปี 2551 ไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขา เพราะเขามีอำนาจจริง แม้จะมีเรื่องที่ชัดเจนหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องตำรวจ ใครจะเชื่อว่าคนนั่งหัวโต๊ะใหญ่ที่สุดไม่ยุ่งกับเรื่องผลประโยชน์ เรื่องอนาคตจึงอยู่ที่ พล.อ.ประวิตรเองจะรู้สึกอย่างไรและตัดสินใจอย่างไร หาก พล.อ.ประวิตรบอกว่าเขาไม่ได้ทำผิด พล.อ.ประยุทธ์จะกล้าปลดหรือ ไม่กล้าปลดหรอก

จะเป็นจุดอ่อนของรัฐบาล

ความจริงรัฐบาล คสช. มีจุดอ่อนเยอะแยะมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่แค่คนคนเดียว ถ้าโปร่งใสจริง มีการตรวจสอบจริง ก็จะเจอเยอะกว่านี้อีก แต่ไม่มีใครกล้าพูด อย่างเรื่องรถไฟความเร็วสูง เรื่องซื้ออาวุธ สอบสวนได้อย่างไร วันนี้มันไม่มีระบบตรวจสอบ เป็นข่าวเกิดขึ้น อย่างมากก็ออกมาแก้ตัว คนถามมากก็แก้ตัว ไม่ว่าเรื่องเรือดำน้ำหรือการบริหารของรัฐบาล คสช. ที่ล้มเหลว

โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ใครคิดว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เก่ง ก็ต้องไปถามพรรคเพื่อไทยดู ครั้งพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลยังแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ดีกว่านี้ มีคนรักประเทศเยอะแยะแต่ไม่ได้เอาเขามาใช้ก็เลยไม่ได้ทำ เศรษฐกิจเสียหายแล้วไปโทษเมืองนอกไม่ได้ มันอยู่ที่ตัวเราเอง ความไม่เป็นประชาธิปไตยของเราโดนต่างชาติแซงชั่น มันต้องหลุดจากกรอบเผด็จการมาเป็นประชาธิปไตยก่อน

ก่อนหน้านี้จำได้หรือไม่ว่า อียู (สหภาพยุโรป) เขาเปิดไต๋มา ถ้าอ่านรายละเอียดทั้ง 12 ข้อ จะเห็นเลยว่าจริงๆแล้วเขาบอกว่าถ้าท่านทำอย่างนี้เราก็ยินดีจะเปิดความสัมพันธ์ เราก็ไปดีใจว่าอียูยอมเปิดความสัมพันธ์ แต่เราไม่ได้ดูรายละเอียดทั้งหมด เขาตั้งเงื่อนไขตามกติกาของเขา โดยเฉพาะการเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ อียูต้องการกระตุ้นให้ประเทศไทยกลับมาสู่ประชาธิปไตยเร็วๆ เขาอยากค้าขายตามปรกติ แต่เขามีกติกาที่ต้องแซงชั่น เราไม่ได้สิทธิพิเศษทางภาษีหลายเรื่อง เพราะเรายังไม่เป็นประชาธิปไตย

หากการเลือกตั้งปี 2561 เลื่อนอีก

การแก้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ( พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทำให้ต้องเลื่อนเลือกตั้งไปอีก 60 วัน หรือประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2562 บางคนวิตกว่าอาจไม่มีการเลือกตั้งก็ได้ ตรงนี้ชัดเจนว่าเป็นกลยุทธ์ทางการเมือง รัฐบาล คสช. ไม่อยากให้มีการเลือกตั้งเร็วหากเขายังไม่มั่นใจ เพราะเลือกตั้งเมื่อไรก็ต้องยกเลิกมาตรา 44 แต่ขณะนี้อำนาจอยู่กับเขาหมด เขาจึงไม่กลัวอะไรเลย แม้มีปัญหาในการทำงานก็ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาพูดว่ามันไม่ใช่ มันต้องทำอีกแบบอะไรอย่างนี้ คุณคิดดูรัฐบาล คสช. ใหญ่ขนาดนี้ยังแก้ปัญหาล็อตเตอรี่แพงไม่ได้ ไม่รู้จะบอกว่ายังไงแล้ว เรื่องง่ายๆคุณยังทำไม่ได้แล้วจะไปทำเรื่องยากๆได้อย่างไร

การเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีกสร้างความเสียหายให้กับประเทศ เพราะเขาไม่เชื่อมั่นในคำพูดของผู้นำประเทศ คุณอาจพูดโรดแม็พอะไรของคุณไป แต่อย่าลืมว่าโรดแม็พกับความเป็นจริงมันผิดกัน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไปบอกว่าจะให้มีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561 แต่คนในรัฐบาลก็บอกว่าเลื่อนออกไปอีก

ถามว่าเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเรื่อยๆจะเกิดอะไรขึ้น มันขึ้นอยู่กับพลังภาคประชาชนจะกล้าออกมาแสดงความคิดเห็นหรือไม่ ประชาชนต้องพร้อมใจกันลุกฮือขึ้นมาทวงอำนาจอธิปไตยของเขาว่าเมื่อไรจะคืน เมื่อไรจะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ภาคประชาสังคมต้องแข็งแกร่งกว่านี้เยอะ นี่มันยังอ่อนไป คนไทยมีนิสัยไม่สนการเมืองอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องของกูก็ไม่สนใจ แค่มองๆเท่านั้นเอง สังคมไทยเลยชอบละเมิดกติกา ใช้ชีวิตผิดกฎหมายทุกวันก็จะทำ ไม่เห็นเป็นไรเลย ทำจนเป็นนิสัยแล้ว ไม่ว่าเรื่องจราจร เรื่องรักษาความสะอาด คนไทยมันห่วย ที่เขาว่าไปไม่รอด เพราะคนไทยเห็นแก่ตัว ไม่รักส่วนรวม ประเทศจะเดินไปข้างหน้าจึงทำได้ยาก ยิ่งมีรัฐประหารบ่อยๆยิ่งตาย

อย่างไรก็ตาม ผมขอเตือนว่าหากการเลือกตั้งปี 2561 ถูกเลื่อนออกไปอีกจะยิ่งถูกต่างชาติแซงชั่นมากขึ้น ปัจจุบันเขาก็ทำอยู่แล้ว ถ้าเราไม่ทำตามสัญญา โลกก็ไม่เคารพเรา ไม่อยากคบหาสมาคมกับเรา เข้ากับสังคมโลกไม่ได้ มันกระทบไปทุกเรื่อง โดยเฉพาะสังคมและเศรษฐกิจจะกระทบมาก ยิ่งทำให้ประเทศเราล้าหลัง

กระแสข่าวจัดตั้งพรรคทหาร

ผมมองว่าไม่จำเป็น เขาก็มีพรรคพวกเป็นนักการเมืองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องตั้งพรรค เสียเงินแล้วอาจได้คนห่วยด้วย ส.ส. ที่สังกัดพรรคอยู่แล้วจะมาหรือ ถ้าเปลี่ยนพรรคก็อาจสอบตก โดยเฉพาะภาคอีสานอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยกล้าย้ายพรรคหรือไม่ อาจมีบ้าง แต่ก็น้อย แล้วไม่แน่ว่าจะได้รับเลือกหรือไม่ การเมืองไทยยังเกี่ยวกับเรื่องเงิน ผมเตือนรัฐบาล คสช. หลายครั้งแล้วว่าถ้าคุณตั้งพรรคการเมืองก็จะมีแต่เรื่องปวดหัวเพิ่ม

คุณไม่ต้องตั้งพรรคหรอก รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นอาวุธของคุณอยู่แล้ว กองทัพแข็งแกร่งอย่างนี้ สามารถต่อสายได้หมด อำนาจอยู่ในมือคุณอยู่แล้ว อำนาจ เงิน อำนาจปืน พรรคทหารอาจจะเป็นพรรคการเมืองปรกติที่จดทะเบียนตั้งใหม่ มีสมาชิกทำกิจกรรม แต่ถามว่าใครจะมาอยู่ด้วย เสียเงินเปล่าๆ ผมเชียร์ให้ตั้งด้วยซ้ำไป ใครอยากตั้งๆไปเลย จะได้เห็นหน้า จะได้รู้ว่าใครเป็นหัวหน้าพรรค การตั้งพรรคไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับประเทศนี้ จะตั้งพรรคกระจอกแบบเก่าๆไม่ได้ หรือตั้งพรรคเพื่อขอเงินคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มันคนละเรื่อง คนเราต้องมีอุดมการณ์ทางการเมืองก่อนถึงจะตั้งพรรคการเมือง แต่พวกนี้ยังไม่เข้าใจอุดมการณ์ทางการเมืองเลย

ภาพรัฐบาลใหม่ในอนาคต

อย่างที่ผมเคยวิเคราะห์ว่า การเลือกตั้งในอนาคต คสช. ได้ล็อบบี้ทุกพรรคการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลไว้แล้ว ยกเว้นพรรคเพื่อไทย ผมขอย้ำอีกครั้งว่า โดยทั่วไปคนมีอำนาจต้องเตรียมพร้อมถ้าอยากจะอยู่ต่อ เขาก็ต้องต่อสายพรรคการเมืองต่างๆ ตอนนี้ก็เห็นหมดแล้ว ทีนี้ปัญหาคือรัฐบาล คสช. ทำโพลหรือเปล่า ผมคิดว่าเขาทำและพบว่าพรรคเพื่อไทยยังแข็งแกร่ง จึงยังไม่อยากให้เลือกตั้ง ถ้าเขาไม่ทำก็แสดงว่าไม่ฉลาด เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปรกติที่ต้องดูความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ ผมยุให้รัฐบาล คสช. จัดการเลือกตั้งท้องถิ่น จะรู้เลยว่าใครเป็นใคร ใครมีของ ไม่มีของ มองเห็นขุมกำลังของแต่ละฝ่ายอย่างชัดเจนว่าจังหวัดนี้เป็นของใคร ทำให้มองง่ายขึ้นถึง 90%

ผมเชื่อว่า คสช. ยังกลัวพรรคเพื่อไทยอยู่ การเลือกตั้งในอนาคตพรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องได้คะแนนถล่มทลาย ได้แค่ 200 เสียงก็ปวดหัวแล้ว เพราะพรรคเพื่อไทยจะไปชวนพรรคอื่นมาร่วมก็ง่ายขึ้นถ้าข้อต่อรองดีกว่าอยู่กับทหาร นักการเมืองพอมีตัวเลขก็จะเอากระทรวงนั้นกระทรวงนี้ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีใครพูดล่วงหน้า เขาพูดทีหลัง

ผมยกตัวอย่างกรณีที่มีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ออกมาวิจารณ์รัฐบาล คสช. อย่างรุนแรงเรื่องต่างๆ ผมคิดว่าเขาแบ่งเป็นสาย วิพากษ์ก็วิพากษ์ไป แต่ที่จับมือไว้แล้วก็จับมือกันไป ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ใครเป็นนายทุนล่ะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค มีเงินอุดหนุนทั้งหมดหรือไม่ โดยทั่วไปพรรคการเมือง คนมีอำนาจ มีพลังพิเศษข้างนอกหลายๆอย่างเป็นองค์ประกอบ ไม่ใช่อยู่ง่ายๆหรอก ผมขอบอกเลยว่าการเมืองไทยมันสลับซับซ้อน เล่ห์เหลี่ยมเยอะ มันไม่ได้รักประเทศอย่างแท้จริง รักตัวมันกับพวกมัน ผมฟันธงว่าถึงแม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล คสช. อย่างหนักในช่วงนี้ แต่พอหลังการเลือกตั้งก็จะไปจับมือทหารเพื่อจัดตั้งรัฐบาลอีกแน่นอน ถ้าเขาเห็นตัวเลขเขาอาจจะบิดพลิ้วหน่อย คือไม่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย พวกนี้อยู่ในคราบของนักการเมืองว่าฉันอิสระ แต่จริงๆแล้วพอเข้ามาก็หาประโยชน์ทางการเมือง ทำให้ คสช. ด่านักการเมืองว่าโกงทั้งหมด นักการเมืองไม่เห็นเดือดร้อนเลยโดนเขาว่าอย่างนี้

ส่วนพรรคเพื่อไทยขณะนี้ก็โดนรัฐบาล คสช. สกัดกั้นทุกอย่าง เขาฆ่าพวกชินวัตรไปหมดแล้ว อยู่ที่ว่าพรรคเพื่อไทยจะอยู่ต่อได้ยังไง ใครจะเป็นหัวหน้า ใครจะออกทุน ตัวเก่าๆเก่งๆยังเหลือมั้ย หรือจะเลิกเล่นไปเลย ยังมีปัจจัยอีกเยอะ รัฐบาล คสช. ไม่ควรกลัว ควรกลัวตัวเองมากกว่า ถ้ากลัวคนอื่นก็ทำอะไรไม่ได้ จริงๆแล้วควรทบทวนว่าตัวเองมีฝีมือจริงหรือเปล่า ซื่อสัตย์จริงมั้ย เสียสละจริงหรือไม่ ที่สำคัญทำเพื่อประเทศจริงหรือเปล่า ดูกันง่ายๆ เปิดโอกาสให้เขาได้วิพากษ์วิจารณ์

นายกฯคนนอก

ขึ้นอยู่กับแม่ทัพบกจะให้ใครเป็น ถ้าแม่ทัพบกยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อยู่ก็เป็นต่อ ถ้าเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน กลุ่มนี้ยังมีอำนาจอยู่ไปอีก 10 ปี เพียงแต่ว่าตัวบุคคลจะเอาใครเท่านั้น การดำเนินการและวิธีปฏิบัติของรัฐบาล คสช. ขณะนี้กำลังชี้ให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์สามารถเป็นนายกฯคนต่อไป กระทั่งลงไปคนรากหญ้าก็ยังไปถามว่าจะเลือกใครหลังจากที่เอาเงินไปแจกเขาแล้ว อย่างนี้ไม่ใช่หาเสียงแล้วจะเรียกว่าซื้อเสียงได้หรือไม่ เขาใช้ความได้เปรียบทุกอย่างเพื่อตัวเองจะได้เป็นนายกฯคนต่อไป แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้คือ ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้ง 200 คนตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คสช. เป็นคนคัดเลือก เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ไปเป็นนายกฯ

คำถามง่ายๆก็คือ ส.ว. ทั้งหมดตามไปช่วยเหลือในสภาได้หรือไม่ คำตอบคือไม่ สภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวสำคัญที่จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ยาวตลอดวาระหรือไม่ อย่าลืมว่านักการเมืองโดยสัญชาตญาณเปลี่ยนได้เสมอเมื่อผลประโยชน์ลงตัว อย่าไปเชื่อว่านักการเมืองสัญญาจะอยู่กับนายกฯประยุทธ์ตลอดชาติ ไม่มี ผมคิดว่ารัฐบาล คสช. ฉลาดกว่าและเหนือกว่ารัฐบาลสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เพราะเขายึดได้ทุกอย่างไม่เหลือแล้ว พล.อ.เปรมยังไม่ยึดเลย นี่เขายึดหมด กติการัฐธรรมนูญก็จัดตั้งไว้เรียบร้อยทุกอย่างเพื่อให้พรรคพวกตัวเองมีอำนาจ ผมจึงว่า คสช. ยุคนี้ยิ่งกว่ายุค พล.อ.เปรมอีก

แนวโน้มทิศทางการเมืองไทย

ไม่ต้องดูอะไรเลย เขาไปได้สบาย เพียงแต่ว่ารัฐบาล คสช. อย่าลื่นหกล้มเองก็แล้วกัน ไม่มีเรื่องอื่นเลย ถ้าเขาบริหารประเทศในลักษณะนี้ ความเสื่อมของเขาจะค่อยๆเยอะขึ้นไปเรื่อยๆ ความเชื่อมั่นไม่มีในหมู่ประชาชน คุณอาจจะดีขึ้นถ้าเศรษฐกิจโลกดีขึ้น หมายความว่าส่งออกดี คนข้างบนดีขึ้น แต่คนข้างล่างไม่ได้ดีขึ้น คน 50-60% ลงมาจากยอดลงมาถึงข้างล่างแย่หมด ช่องว่างระหว่างชนชั้นมันสูงอยู่แล้ว ความไม่เป็นธรรมในสังคมมันเยอะ เลยยิ่งไปกันใหญ่ สังคมไทยเป็นสังคมเอาเปรียบ สังคมอุปถัมภ์ โดยเฉพาะคนข้างล่างไม่มีระบบพรรคพวกมาช่วยเหลือ ยังไม่รวมปัญหาการศึกษาก็แย่ ตำรวจก็แย่ แย่ไปหมด

ผมมองว่าการเมืองไทยขณะนี้รัฐบาล คสช. กำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤตศรัทธาค่อนข้างมาก ถ้าทำงานไปเรื่อยๆอย่างนี้ก็ตาย แต่เขาคงเอาใจประชาชน เช่น ให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้วแก้ไขปัญหาเรื่องเกษตรกรบางเรื่อง แต่ช่วยพรรคพวกเขาก่อนคือยางพารา ผมอยากฝากประชาชนให้ระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้น ต้องรู้จักอดออม สมถะ ใส่ใจการเมืองมากขึ้น รักษาสิทธิของตัวเอง ที่สำคัญจะต้องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย


You must be logged in to post a comment Login