นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊คแสดงความเห็นถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคและทีมบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่ 15 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ผมได้ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้สมัครทั้ง 4 ท่าน ที่ล้วนแล้วแต่เป็นความหวังของพรรคทุกคน ในฐานะที่ผมเคยเป็นผู้สมัครชิงหัวหน้า แม้จะมีการเปลี่ยนกฏกติกา แต่ผู้นำพรรคคนใหม่ต้องนำพาพรรคสู่ความรุ่งเรืองให้ได้ ในเชิงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครทั้ง 4 ท่าน ล้วนมีเป้าหมายที่ไม่ต่างกันคือ สร้างความปรองดอง สร้างความมีส่วนร่วมแก่สมาชิก ทำงานเป็นทีม เพื่อนำพาพรรคให้เป็นที่พึ่งเพื่อแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน หัวใจสำคัญที่อยากจะฝากผู้นำพรรคคนใหม่นั่นคือ พรรคประชาธิปัตย์ต้องกลับมายืนอยู่บนจุดแข็งของพรรค และแยกแยะปัญหาทางการเมืองของประเทศให้ได้ ผมเชื่อมือในการแก้ปัญหาปากท้องของทุกๆท่านที่เป็นผู้เข้าชิง แต่การวิเคราะห์ปัญหาทางการเมืองต่างหากที่ยังวิเคราะห์ไม่ตรงกัน และไม่ตรงใจประชาชนในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ผมเชื่อมั่นว่าถ้าผู้นำพรรคท่านใหม่สามารถนำพรรคกลับมายืนบนจุดแข็งของพรรคเหมือนในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา แยกแยะให้ถูกว่าปัญหาทางการเมืองของประเทศที่ประชาชนกังวลนั้นคืออะไร เดินชนสิ่งนั้นด้วยความมั่นใจ ผมเชื่อมั่นว่าความศรัทธาต่อพรรคจะกลับมาเร็วมาก เพราะประชาชนยังรอให้โอกาสพรรคของเรา แต่ถ้าแยกแยะปัญหาของประเทศผิด และยังถลำไปในทิศทางที่ผิดๆอีก………..จบกันครับ

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า หลังจากสมาคมได้แจ้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยังมีข้อสงสัยการถือหุ้นของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากตรวจพบข้อมูลใหม่ว่าอาจจะเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ อาจเป็นลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 98 (3) แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 ประกอบมาตรา 42 (3) พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 และข้อ 90 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 หรือไม่ “สมาคมได้ตรวจพบว่ามีชื่อนายธนาธรถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ที่มีหนึ่งในวัตถุประสงค์ตามหนังสือบริคณห์สนธิว่าประกอบกิจการเกี่ยวกับหนังสือพิมพ์ โรงพิมพ์ จัดพิมพ์และเผยแพร่ ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นสื่อมวลชนอีกมากมายไม่ต่ำกว่า 13 บริษัท ซึ่งกรณีดังกล่าวมีบรรทัดฐานในการวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งออกมาหลายคดีแล้วกรณีการถือครองหุ้นสื่อของผู้สมัคร...

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย วิเคราะห์สถานการณ์ประเทศไทยเนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปีการอยู่ในอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยระบุว่า รายได้ของประชาชนในกรุงเทพมหานครลดลง 10% ถ้าทั่วประเทศก็เชื่อว่าลดลงมากกว่า ทำให้มีคำถามว่า..ทำไมเป็นอย่างนี้ และจะช่วยกันคิดแก้ไขอย่างไร? จากข้อมูลรายได้ต่อครัวเรือนต่อเดือนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตั้งแต่ปี 2545-2560 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้ว่า รายได้ลดลงในช่วงปี 2556-2560 คือปี 2556 รายได้เป็นเงินเดือนละ 49,191 บาท แต่จากการสำรวจใหม่ในปี 2558 รายได้กลับลดลงเหลือ 45,572 บาท และมาในปี 2560 ซึ่งเป็นการสำรวจล่าสุด รายได้เพิ่มขึ้นน้อยมากคือ เป็นเงินเดือนละ 45,707 บาทเท่านั้น...

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว “Anutin Charnvirakul” พร้อมแนบลิงค์ข่าวของสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่มีเนื้อหาว่า นายเนวิน ชิดชอบ ต่อสายนายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา หวังดึงแท็กทีมกดดันพรรคพลังประชารัฐเกลี่ยโควตารัฐมนตรีใหม่ โดยระบุว่า “มีข่าวนี้ออกหลายสื่อเมื่อเช้าวันนี้ ขอยืนยันครับว่าไม่มีมูลความจริง เรื่องการตัดสินใจใดๆทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทยต้องพูดคุยเจรจาต๊ะอ้วยกับหัวหน้าพรรคเท่านั้นนะครับ ส่วนใครอยากคุยเรื่องฟุตบอลของบุรีรัมย์หรือสุพรรณบุรีติดต่อทั้งสองท่านนี้ได้โดยตรงครับ #คือแบบว่ามันคนละเรื่องเดียวกันเลยอ่ะ”

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวคัดค้านการใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของ กกต. ที่ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณของ กรธ. ที่จัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อให้พรรคการเมืองขนาดเล็กที่ได้คะแนนไม่ถึงจำนวน ส.ส.พึงมี เพราะจะขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (4) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 (5) โดยนายสมชัยได้ใช้เอกสารข่าวของสำนักงาน กกต. ที่ 61/2562 ในส่วนหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจำนวน 14 หน้า มาเป็นหลักในการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยตั้งข้อสังเกตว่า การคำนวณตามขั้นตอนของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 129...

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ทวีตข้อความระบุว่า ไทยรักไทยทำโครงการเอื้ออาทรเพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อย แต่วันนี้มีโครงการใหม่ # ส.ส.เอื้ออาทร เพื่อช่วยสืบทอดอำนาจ มี #ส.ส.เอื้ออาทร คสช. แล้วก็ยังได้แค่ 138 ที่นั่ง เร็วๆนี้จะออกตัวช่วยเพิ่มคือ #ส.ว.เอื้อพวกพ้อง พรรคใดเคยสัญญากับประชาชนไว้อย่างไร ในวันนี้อย่าลืม #ฟังเสียงประชาชนด้วยนะคะ

น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ ระบุว่า หวังว่าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนที่หาเสียงว่าไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สืบทอดอำนาจ โดยไม่บิดพลิ้วคำสัญญาเพื่อผลประโยชน์ของคนสูงวัยในพรรคด้วยการสนับสนุนการสืบทอดอำนาจในวิธีการที่พุทธศาสนาเรียกว่าเดรัจฉานวิชาที่ทำลายความฝันและความหวังอนาคตของคนรุ่นใหม่ทั้งในพรรค ปชป. เองและคนรุ่นใหม่ทั้งประเทศ ในที่สุดจะทำลายอนาคตทางการเมืองของสมาชิกพรรค ปชป. น.ส.เกศปรียาระบุว่า เมื่อติดตามพฤติกรรมเผด็จการทหารที่วางแผนพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อสืบทอดอำนาจแล้ว รู้สึกผิดหวังและอายแทนลูกหลานพวกเขามากว่าจะต้องถูกตราหน้าเป็นลูกหลานคนเห็นแก่ได้ที่ไร้ความละอาย คนที่ผ่านชีวิตมาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตที่เหลือระยะเวลาบนโลกนี้ไม่นาน ทำไมปล่อยให้กิเลสตัณหาและความอยากมีอำนาจ กล้าทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องที่สังคมไม่ยอมรับเพื่อสนองความต้องการของตนเองได้ การเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ครั้งนี้จะถูกบันทึกประจานในประวัติศาสตร์ว่า เป็นการเลือกตั้งเพื่อชุบตัวเผด็จการผู้ไร้ความละอาย

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊คถึงการแต่งตั้ง ส.ว. ว่า ถึงตอนนี้มีความชัดเจนเรื่องจำนวน ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อที่ กกต. ประกาศรับรองแล้ว 498 ที่นั่ง จาก 500 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร เพียงพอที่จะทำให้เกิดความชัดเจนทางการเมืองและอนาคตประเทศไทยว่าจะเดินไปทางไหน ซึ่งผมและพรรคอนาคตใหม่ขอให้ทุกท่านนำข้อเสนอที่เราพูดไว้ก่อนเลือกตั้งเรื่องการ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” มาช่วยกันผลักดันทำให้เกิดขึ้นจริง การ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” คือการที่เราสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในสภาผู้แทนราษฎร (ที่มีอยู่ 500 คน) โดยไม่ให้สมาชิกวุฒิสภา...

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่พรรค พปชร. รวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ยังไม่มีอะไรเป็นข้อยุติ ในการดำเนินการของพรรคนั้น กรรมการบริหารพรรคมีมติให้ตนและนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เป็นผู้ประสานงานเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาล และจนถึงขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานกับพรรคอื่นๆอยู่ สุดท้ายผลเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกระทรวงเศรษฐกิจว่า พรรค พปชร. ควรปล่อยให้พรรคร่วมอื่นๆบ้าง นายอุตตมกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ไปถึงขั้นนั้นจนมีข้อยุติว่าใครจะได้กระทรวงใด ทุกอย่างยังอยู่ในขั้นของการหารือ เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพิ่งรับรอง ส.ส. ยืนยันว่ายังไม่มีเรื่องนี้ ส่วนกระแสข่าวความไม่พอใจของพรรคประชาธิปัตย์ที่พรรค พปชร. เอากระทรวงเศรษฐกิจไปทั้งหมด จึงมีแผนจะแยกตัวจัดตั้งรัฐบาลแข่งโดยร่วมกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนา นายอุตตมกล่าวว่า ยังไม่ได้ยินข่าวนี้ การดำเนินการของเราก็ยังคงเดินหน้าต่อไป ตอนนี้ยังไม่เห็นเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น เมื่อถามต่อว่าจริงหรือไม่ที่พรรค...

น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กส่วนตัวเป็นจดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยระบุว่า จดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในช่วงเวลาที่การประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการด้วยสูตรคำนวณที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญเพิ่งเกิดขึ้น และผลปรากฏว่า เจ็ดพรรคฝ่ายประชาธิปไตยมีเสียงรวม 245 ที่นั่ง ฝ่ายประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์มี 138 ที่นั่ง พรรคที่ยังไม่ประกาศตัวมี 116 ที่นั่ง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีผู้นำที่ชัดเจน ความสนใจย่อมพุ่งมาที่พรรคภูมิใจไทยกับ 51 ที่นั่งที่ได้รับจากเสียงของประชาชน พร้อมกับการทบทวนคำมั่นสัญญาก่อนการเลือกตั้ง เพียงสองวันก่อนการเลือกตั้ง คุณอนุทินประกาศในการแถลงข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยยึดถือว่าผู้จะดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ จะต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของ ส.ส. พรรคไม่ต้องการให้เกิดปัญหารัฐบาลเสียงข้างน้อย เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งนายกฯ แต่ไม่มีความมั่นคง “ขอให้ ส.ส. เคารพศักดิ์ศรีของตนเองรวมเสียงให้ได้ 376 คน เลือกนายกรัฐมนตรี...

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า การคิดคำนวณของ กกต. ที่คำนึงถึงพรรคเล็กเป็นการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญ พรรคเห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่บอกว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 เมื่อกฎหมายประเทศไทยเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษร ก็ต้องดำเนินการตามอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม วิธีคำนวณของ กกต. ตีความเกินเลยกว่าที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้มีส่วนได้เสียต่อคะแนน ส.ส. ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้รับรองการกระทำของ กกต. เมื่อ กกต. ตีความเกินรัฐธรรมนูญก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นทุกช่องทางที่กฎหมายกำหนดไว้ด้วย นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า หากคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด จะมีพรรคการเมืองได้ ส.ส....