นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ค Somchai Srisutthiyakorn แสดงความเห็นเกี่ยวกับการต่อรองเก้าอี้ขณะนี้ โดยระบุว่า อย่าให้ภาพการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องการต่อรองตำแหน่ง เหมือนภาพที่ปรากฏต่อสังคมคือ ประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยกำลังอาศัย 103 เสียงของฝ่ายตน เพื่อบอกพลังประชารัฐให้คายกระทรวงใหญ่ มิฉะนั้นอาจจะไม่เข้าร่วมรัฐบาล ภาพดังกล่าวคือภาพการเมืองยุคเก่าที่จบด้วยผลประโยชน์ของนักการเมือง ภายใต้ข้ออ้างเพื่อโอกาสทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง พลังประชารัฐอาจยอมเสียสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต แต่ภาพของคนที่รับอวัยวะ แม้ได้ของใหญ่ กลับไม่ใช่ภาพที่ประทับใจผู้คน ข้อเรียกร้องประการเดียวที่จะทำให้ประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยเข้าร่วมได้อย่างสง่างามคือ พลังประชารัฐต้องยอมถอยประยุทธ์และทหารออกจากการมีตำแหน่งทางการเมืองสำคัญ เพื่อให้การเมืองไทยเป็นการเมืองในระบอบรัฐสภาที่แท้จริง ไม่มีทหารมาอยู่เบื้องหลังแต่อาศัยการเลือกตั้งมาฟอกตัวว่าเป็นประชาธิปไตยแล้ว หากยอม แล้วประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยเข้าร่วมกับพลังประชารัฐ สองพรรคกลางนี้แหละจะได้รับเสียงชื่นชมว่าท่านใช้ 103 เสียง เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบ้านเมืองอย่างแท้จริง

ที่พรรคประชาธิปัตย์  นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่านายชวนไม่ควรเอาเรื่องภายในมาพูดภายนอกว่า สาเหตุที่ตนให้สัมภาษณ์ข้างนอก เนื่องจากมีการออกข่าวตำหนิตนข้างนอก ไม่ใช่ในพรรค ทำให้มีการขยายข่าวไปทั่วประเทศ ตนจึงต้องอธิบายให้ที่ประชุมพรรคฟังว่าอะไรเป็นอะไร นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่ปรึกษาพรรค ก็เห็นว่าอะไรทั้งหลายควรอยู่ในห้องประชุม ซึ่งตนไม่เห็นด้วย เพราะเขาเอาเรื่องตนไปพูดข้างนอกทำให้เสียหายจึงต้องชี้แจง นายพีระพันธุ์ปฏิเสธว่าไม่ได้หมายถึงตน แต่ทั้งหมดเมื่ออ่านแล้วก็รู้ว่าหมายถึงตน ซึ่งตนก็พูดให้ที่ประชุมฟังอย่างนี้ถึง 2 ครั้ง เรื่องก็จบ ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นควรจะทำความเข้าใจกันหรือไม่ เพราะดูเหมือนนายพีระพันธุ์ยังไม่เข้าใจ นายชวนกล่าวว่า ไม่อยากทะเลาะกันเหมือนเด็ก ดีที่สุดคือพูดความจริง ใครไม่พอใจใครก็เป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าจะไม่ยกมือไหว้ไม่นับถือกันก็ไม่เป็นไร แต่การนำไปวิจารณ์ข้างนอกในเรื่องที่ไม่จริงเป็นเรื่องเสียหาย เข้าใจว่าคนที่ออกมาอาจจะไม่พอใจ ก็บอกว่าถ้าตนมีบารมีอาจจะทำอะไรมากกว่านี้ การที่บอกว่าตนไปแทรกแซงนั้น...

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ ถึงกระแสข่าวที่ว่านายชวนจะรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแลกกับการที่พรรคจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐว่า ไม่ทราบว่าข่าวดังกล่าวมาอย่างไร ทั้งนี้ เคยมีการพูดคุยก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าพรรคมีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกประธานสภา บุคคลที่เหมาะสมที่สุดคือนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยมีการพูดถึงตน เพราะตนเคยเป็นประธานสภามาแล้ว ซึ่งนายบัญญัติได้ปฏิเสธไปแล้ว เราไม่ต้องพูดถึงกันอีกแล้ว ขณะเดียวกันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ก็มีความแม่นยำเรื่องข้อกฎหมาย แต่นายอภิสิทธิ์คงไม่สนใจตำแหน่งนี้เช่นกัน สำหรับตนนั้นตอนนี้มีเป้าหมายที่อยากช่วยน้องๆที่สอบตกในการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ผ่านมา และช่วยผู้ที่มาเป็น ส.ส. อย่าให้สอบตกในวันข้างหน้า ซึ่งตนได้ไปพบประชาชนเพื่อช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เพราะหวังว่าถ้าพรรคได้คะแนนดีขึ้นจากการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าวจะทำให้พรรคได้มี ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่ม 1 คนคือ น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี...

นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ กบข. จะมีการลงนามร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรายใหญ่ 7 แห่ง บริษัทประกันชีวิตรายใหญ่ 3-4 แห่ง และกองทุนประกันสังคม เพื่อร่วมกันจัดทำ Negative List Guideline หรือเกณฑ์ไม่ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มีปัญหาการปั่นหุ้น การใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น (อินไซด์) รวมทั้งบริษัทไม่ผ่านเกณฑ์เรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน (ESG) ซึ่งหมายถึงสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล เป็นระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือน เพราะ กบข. และนักลงทุนสถาบันต้องการสร้างมาตรฐานในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน...

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ว่า เป็นการลาออกจากหัวหน้าพรรค ไม่ใช่ลาออกจากการเป็น ส.ส. จึงยังคงเป็นสมาชิกพรรคอยู่ หากลาออกจากการเป็นสมาชิกจะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะจะทำให้ขาดการเป็นสมาชิกภาพ เว้นแต่ว่าพรรคถูกยุบ หากเป็นเช่นนั้นก็ถือว่าไม่ใช่การลาออกเอง ไม่ทราบว่าเหตุใดนายมิ่งขวัญลาออก หากเป็นเรื่องปัญหาภายในพรรคก็เป็นเรื่องส่วนตัว เมื่อถามว่ามองเรื่องเสถียรภาพของพรรคการเมืองเป็นอย่างไรที่เกิดปัญหาเช่นนี้หลังเลือกตั้ง เพราะไม่ใช่แค่พรรคเศรษฐกิจใหม่เท่านั้น แต่ยังมีพรรคประชาธิปัตย์ด้วย นายวิษณุกล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละพรรค เพราะปัญหาของแต่ละพรรคและแต่ละคนไม่เหมือนกัน หัวหน้าพรรคมีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบมาก หากคิดว่าไม่สามารถแบกภาระหรือทำภารกิจได้ก็เป็นเรื่องของแต่ละคนเป็นผู้จัดการ ไม่ใช่เรื่องแปลก เช่นเดียวกับที่รัฐมนตรีลาออก เพราะเป็นเรื่องธรรมดาในทางการเมือง เมื่อถามอีกว่ากรณีดังกล่าวมองว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะการปรับเปลี่ยนหัวหน้าพรรคมีมาหลายยุคหลายสมัย บางพรรคเมื่อครบเทอมก็เปลี่ยนหัวหน้าพรรค ถือเป็นเรื่องธรรมดา

นายอังกฤษฎา ราวินิช ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดอุดรธานี พรรคเศรษฐกิจใหม่ มาขอคำปรึกษาทางกฎหมายและขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีถูกกรรมการบริหารพรรคหลอกลวง โดยสัญญาว่าจะให้เงินสนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้ง แต่เมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้น พรรคได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจำนวน 6 คนจาก 480,000 คะแนน แต่พรรคกลับบ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น “ผู้สมัครแต่ละคนลงทุนหาเสียงไปคนละ 2 แสนถึง 2 ล้านบาท เป็นผลให้ผู้สมัครของพรรคเกิดความเครียดจนอยากฆ่าตัวตาย เพราะมีปัญหาหนี้สินรุมเร้า และผู้สมัครเสียชีวิตจากความเครียดไปแล้ว 2 ราย เมื่อไปติดต่อที่พรรคก็ถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมประชุม และด่าว่าเป็นแค่ตัวเห็บ อย่าเข้ามายุ่งกับพรรค” นายอังกฤษฎากล่าว ส่วนกรณีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค...

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวภายหลังเปิดการอบรมกัญชาการแพทย์รุ่น 2 กับแพทย์และเภสัชกรว่า ได้เน้นย้ำเรื่องการสั่งจ่ายและการใช้กัญชาทางการแพทย์ หลังเกิดปัญหาคนทดลองใช้กัญชาจนเกิดอาการวูบหลับ หัวใจเต้นเร็ว และได้รับรายงานว่าผู้ป่วยมีอาการจากพิษของกัญชา ทั้งหัวใจเต้นเร็ว วูบ อยากทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ผู้ที่ใช้ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ที่ให้การรักษาอยู่ร่วมด้วย เนื่องจากองค์ความรู้ของการใช้กัญชายังไม่แน่ชัดถึงความเหมาะสมในการใช้ ทำให้บางคนได้รับผลข้างเคียงจากฤทธิ์ของกัญชา เพราะกัญชายังจัดเป็นยาเสพติดประเภท 5 อยู่ นพ.สมศักดิ์กล่าวต่อว่า การอบรมใช้กัญชาทางการแพทย์เน้นการดูแลใน 4 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคลมชักในเด็ก แก้อาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด บรรเทาอาการปวดกรณีที่ไม่สามารถใช้ยาแก้ปวดอื่นได้ และปลอกประสาทเสื่อมแข็งเท่านั้น ไม่สามารถรักษาได้ทุกโรค เพราะกัญชาไม่ใช่ยาครอบจักรวาลรักษาได้ทุกอย่าง และไม่ได้รักษาได้ถึง 39 โรคอย่างที่มีการแชร์และส่งต่อในระบบไลน์ “ในการอบรมเรื่องกัญชาของกรมการแพทย์ยังจะเน้นแนวทางการรักษาแบบประคับประคอง ส่วนในอนาคตกรมการแพทย์จะมีการพัฒนาการรักษาโรคมะเร็งในโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ให้เกิดการรักษาแบบบูรณาการ รักษามะเร็งแบบครบวงจรควบคู่กับยาสมุนไพรด้วย เพื่อเป็นการเปิดกว้าง...

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เพิ่งรับทราบการลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ทั้งนี้ ตนเคารพการตัดสินใจ แต่ยังเชื่อว่านายมิ่งขวัญจะรักษาคำพูดและคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการพูดคุยกับนายมิ่งขวัญไม่ได้พูดคุยส่วนตัว แต่เป็นส่วนรวมในการกำหนดอนาคตการทำงาน 7 พรรคการเมืองเพื่อหาทางออกประเทศ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าแม้นายมิ่งขวัญจะลาออกจากหัวหน้าพรรค แต่ในฐานะ ส.ส. ก็จะยังยึดมั่นจุดยืนรักษาประโยชน์ของประเทศชาติ นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ไม่ปรกติ มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นอย่างผิดปรกติ และถือเป็นขบวนการที่แปลก คาดว่าจะเกิดขึ้นจนกว่าจะมีระบอบประชาธิปไตยที่ปรกติ ยืนยันว่ายังมีการติดต่อพูดคุยตลอด และไม่ใช่การส่งสัญญาณใดๆ ส่วนการตัดสินใจของรักษาการหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่นั้น เชื่อว่าทุกคนจะยังยึดมั่นในเจตนารมณ์เดิม เพราะทุกครั้งที่หารือกันไม่ได้คุยเฉพาะหัวหน้าพรรค แต่ทุกคนในพรรครับรู้ หลังจากนี้จะติดต่อกับนายมิ่งขวัญเป็นการส่วนตัวถึงเหตุผลของการลาออกว่ามีเบื้องหลังหรือมีการกดดันใดๆหรือไม่

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊คหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกสอบเพิ่มกรณีถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด หลังจากที่ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว โดยระบุว่า “ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ฟันธนาธรไปก่อน แล้วค่อยสืบสวนข้อเท็จจริงทำสำนวนทีหลัง ทำแบบนี้ก็ได้หรือ???? เมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) พยานของผม 2 คนในการโอนหุ้นวี-ลัค ได้รับจดหมายหนังสือเชิญไปให้ถ้อยคำ ฉบับลงวันที่ 17 พ.ค. 2562 จากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. (ชุดเดียวกับที่ผมได้ไปให้ถ้อยคำกับ อ.ปิยบุตรเมื่อวันที่ 30 เม.ย.) และจดหมายเพิ่งถูกจัดส่งเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2562...

นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงว่าพรรคชาติไทยพัฒนามีการกู้เงินมาเป็นรายได้ของพรรคว่า ไม่เป็นความจริง เพราะตั้งแต่ตั้งพรรคมาพรรคชาติไทยพัฒนาไม่เคยกู้เงินผู้ใดมาเป็นรายได้ของพรรคเลย เอกสารที่นายปิยบุตรนำมาแถลงนั้นเป็นงบดุลเก่า ซึ่งระบุเกี่ยวกับเจ้าหนี้-เงินยืมทดรองจากสาขาพรรคช่วงที่กองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองยกเลิกการสนับสนุนสาขาพรรค แต่กฎหมายกำหนดให้สาขาพรรคต้องมีการแสดงค่าใช้จ่ายต่อไป กรรมการสาขาพรรคจึงต้องเป็นผู้ทดรองจ่ายเงินดังกล่าว ถือเป็นเจ้าหนี้ทางรูปบัญชีสะสมมาหลายปี ซึ่งทางพรรคได้มีการสำแดงในรูปบัญชีส่งให้ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองรับทราบอยู่ตลอดมา ไม่ใช่เงินรายได้จากการกู้ยืมแต่อย่างใด ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนากล่าวว่า ตนทำหน้าที่บริหารพรรคมากว่า 20 ปีในฐานะผู้อำนวยการพรรค ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคชาติไทยมาจนถึงชาติไทยพัฒนา ผ่านการปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมืองมาหลายฉบับ ไม่เคยเห็นการกู้ยืมเงินของพรรคชาติไทยและพรรคชาติไทยพัฒนามาก่อน เนื่องจากทางพรรคเห็นว่าการกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจการพรรคนั้น โดยหลักการและเจตนารมณ์ของการตั้งพรรคการเมืองไม่น่าจะกระทำได้ ดังนั้น แม้ว่าผู้บริหารของพรรคในอดีตจะมีฐานะการเงินดีพอที่จะให้กู้เงินเพื่อมาใช้ในการบริหารพรรคและใช้จ่ายในการเลือกตั้งอย่างเพียงพอก็ตาม แต่ทั้งพรรคชาติไทยและพรรคชาติไทยพัฒนาก็ไม่เคยดำเนินการดังกล่าวแต่อย่างใด “พรรคหารายได้โดยการขอรับบริจาคเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนด และจัดระดมทุนในช่วงที่มีการเลือกตั้งตามกฎหมายเลือกตั้ง แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายก็ตาม แต่เห็นว่าสอดคล้องทั้งหลักการของพรรคการเมืองซึ่งเป็นสถาบันการเมืองของประชาชนและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย” นายนิกรกล่าวอีกว่า ไม่ขอให้ความเห็นต่อกรณีที่นายปิยบุตรได้กล่าวถึงพรรคเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เป็นจริงนี้ เพราะไม่อยากให้เป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองในช่วงที่ประชาชนต้องการความสามัคคีปรองดองของพรรคการเมืองภายหลังการเลือกตั้ง...

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ โดยระบุว่า เนื่องจากการบริหารจัดการในพรรคได้แบ่งแยกภารกิจออกเป็น 2 ส่วนอย่างชัดเจนคือ ตนมีหน้าที่ร่างนโยบายและออกไปพูดกับสาธารณชน ส่วนการบริหารกิจการภายในพรรคเป็นหน้าที่ของนายสุภดิช อากาศฤทธิ์ และทีมบริหารอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ดูแล เห็นว่าช่วงเวลานี้เป็นเวลาอันเหมาะสม จึงขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่ยังคงสถานะสมาชิกภาพของพรรคเศรษฐกิจใหม่และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยนายสุภดิช รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 จะทำหน้าที่รักษาการแทนหัวหน้าพรรค ตามข้อบังคับพรรคข้อ 14 ไปจนกว่าจะมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ทั้งนี้ นายมิ่งขวัญยืนยันว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้ง 6 คน จะรักษาคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับประชาชนตามที่เคยแถลงข่าวกับสื่อมวลชนในทุกโอกาสว่าจะปฏิบัติหน้าที่ต่างๆอย่างเต็มความสามารถ ต่อชาติ ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์