นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ เปิดเผยว่า จากการที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกไปโรงเรียนชุมพลโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ขอความร่วมมือลบรูปพานไหว้ครูออกจากโซเชียลให้หมด รวมทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนได้ให้ข่าวว่า ได้เรียกนักเรียนมาอบรมแล้วว่า นักเรียนยังเป็นเด็กอยู่ ยังไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อครูและนักเรียนนั้นเป็นการจำกัดเสรีภาพของนักเรียนและครูตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ นักเรียนและครูมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่ไม่ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมทั้งพื้นที่โรงเรียนมีเสรีภาพทางวิชาการหรือไม่ ขอบคุณภาพประกอบจาก-https://today.line.me

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่าไทยมีฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนักบางแห่งและลมกระโชกแรก ให้ระวังอันตรายจากฝนตกฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก และฝนตกสะสมนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในทุกพื้นที่ออกปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยเน้นให้บูรณาการกำลังร่วมกันในการอำนวยความสะดวกการจราจรกับกองบังคับตำรวจจราจรกลาง กองบังคับการตำรวจทางหลวง และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ในถนนที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมา และเร่งระบายรถอย่างเต็มกำลังในชั่วโมงเร่งด่วน รวมไปถึงการจัดชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วในการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลช่องทางจราจร เคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวาง อาทิ กิ่งไม้หัก ต้นไม้ หรือเสาไฟฟ้าโค่นล้ม พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งด้วยความเสียสละและทำงานกันอย่างหนักในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้ศึกษาข้อมูลสภาพอากาศ เส้นทาง ข่าวสารสภาพการจราจร ตรวจเช็กสภาพรถ เครื่องยนต์...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิโรจน์ ทองชิว คุณพ่อของน้ำตาล เดอะสตาร์ หรือบุตรศรัณย์ ทองชิว ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ค “ฮีโร่เก่า ญี่ปุ่น” แจ้งข่าวว่า “ลูกน้ำตาล บุตรศรัณย์ ทองชิว จากไปแล้วอย่างสงบและสวยงาม เวลา 02.17 น. ทางครอบครัว แม่ พ่อ พี่สาว น้องสาว ขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใยน้ำตาล บุตรศรัณย์ ทองชิว มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ”

นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ว่าที่เลขาธิการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวตอบโต้กรณีที่มีการกล่าวหานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา ว่าถ่วงเวลาในการส่งคำร้องของพรรคอนาคตใหม่ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ 41 ส.ส. นายสมบูรณ์กล่าวว่า​ เรื่องดังกล่าวไม่จริง เพราะหลังได้รับคำร้องจากพรรคอนาคตใหม่ นายชวนได้สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำร้องว่าถูกต้องหรือไม่ โดยใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมาก ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ยื่นมา 2 คำร้อง คำร้องแรกยื่นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส. 30 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 มิถุนายน...

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงปมปัญหาเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลว่า ทุกอย่างจบเรียบร้อยไปตั้งนานแล้ว และยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนโพสต์ลงเฟซบุ๊คส่วนตัวเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการแสดงออกที่ชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา นายอนุทินได้โพสต์ข้อความว่า “กระทรวงมีไว้ให้คนเข้าไปทำงาน ไม่ใช่มีไว้ให้มาเที่ยวแลกไปมา จบข่าว!!!”

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลสำรวจของสวนดุสิตโพลที่ระบุว่าประชาชนรู้สึกผิดหวังกับการที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐว่า พรรคเข้าใจในความรู้สึกของพี่น้องประชาชนในทุกกลุ่มที่สะท้อนความคิดเห็นมา แต่การเข้าร่วมรัฐบาลเป็นการตัดสินใจภายใต้มติของเสียงส่วนใหญ่ในพรรคจากการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทุกคนก็ได้สะท้อนเสียงของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ มติจึงออกมาบนพื้นฐานสำคัญคือยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง การมุ่งนำนโยบายของพรรคไปขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนคือสิ่งสำคัญที่สุด การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น และประการสำคัญ การบริหารราชการแผ่นดินต้องเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต อย่างไรก็ตาม พรรคตระหนักดีว่าไม่ว่าตัดสินใจไปทางไหนก็จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และมีผลกระทบต่อพรรค แต่คำตอบที่จะได้จากหลักคิดบนพื้นฐานของการยึดประโยชน์จากประเทศในวันข้างหน้าจะเป็นคำตอบให้พี่น้องประชาชนได้ดีที่สุด “พรรคตั้งต้นคิดเพื่อประชาชน สุดท้ายปลายทางแน่นอนว่าอยากให้มองที่ความมุ่งมั่นและความสำเร็จในวันข้างหน้า ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาประชาธิปัตย์ได้ทำให้เห็นแล้วว่าเราทำเพื่อประชาชนได้จริง ส่วนอุดมการณ์ของพรรคยังคงดำรงอยู่เช่นเดิมทุกประการภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” นายราเมศกล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่ยังมีการต่อรองไม่จบของพรรคร่วมรัฐบาลว่า เห็นบางพรรคลงโซเชียลในทำนองว่าแลกกระทรวงไม่ได้ ซึ่งดูแล้วรัฐบาลที่มีจุดอ่อนเสียงปริ่มน้ำการทำงานก็จะยาก อีกทั้งมีพรรคร่วมรัฐบาลมากถึง 20 พรรค จะทำให้การทำงานร่วมกันลำบากมากไปอีก ขณะเดียวกันพรรคขนาดใหญ่และกลางที่มาจับมือกัน นโยบายที่เป็นจุดยืนของแต่ละพรรคจะเอายังไง รวมทั้งผลประโยชน์ต่อรองกระทรวง จนไปถึงผลประโยชน์ต่างๆในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ภาพเหล่านี้คนรุ่นใหม่อาจจะไม่เคยเห็น แต่นี่คือภาพการเมืองเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว สิ่งที่เกิดเป็นเพียงหนังตัวอย่าง เมื่อทำงานจริงความยากลำบากจะมีให้เห็นมากขึ้น และคนที่จะเป็นทุกข์ก็คือประชาชน จึงอยากให้รีบต่อรองกันให้จบเพื่อจะได้มาทำงานให้ประชาชน คุณหญิงสุดารัตน์ยังกล่าวถึงความเหนียวแน่นของ 7 พรรคการเมืองว่า ยังผนึกกำลังเหนียวแน่น และจะเดินหน้าทำงานตรวจสอบอย่างมีคุณภาพ เป็นฝ่ายค้านที่มีเหตุมีผล หากทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ ไม่มีทุจริต พวกเราก็พร้อมสนับสนุน คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวถึงการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า ไม่ได้เป็นเพราะ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ บกพร่อง เพราะหลายปีได้ทุ่มเทมาตลอด...

ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา มีการจัดเสวนา “วิกฤตศรัทธาตุลาการ กับอนาคตประเทศไทย” โดย พ.ต.อ.วิรุฒ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรองผู้บังคับการจเรตำรวจ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเห็นว่าควรมีการแก้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีความอาญา โดยเฉพาะชั้นสอบสวนควรให้อัยการเข้ามามีส่วนร่วม ให้อัยการเข้าไปพื้นที่เกิดเหตุพร้อมๆกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะคดีฆาตกรรมไม่ควรปล่อยให้ตำรวจเข้าพื้นที่ฝ่ายเดียว เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามีหลายคดีที่ไม่สามารถหาตัวฆาตกรได้ อีกเรื่องที่สำคัญ ตลอด 5 ปี คสช. คุยว่าออกกฎหมายกว่า 500 ฉบับ แต่กลับไม่ผ่านกฎหมายที่ช่วยแก้ปัญหาคอร์รัปชันอย่าง พ.ร.บ.การขัดกันแห่งผลประโยชน์ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ดีมากในการใช้ปราบปรามการทุจริต การเอาคนหรือของหลวงไปใช้ถือว่ามีความผิด ซึ่งมีการยกร่างแล้วแต่ไม่ผ่านสภาที่แล้ว จึงคิดว่าวันนี้มีสภาใหม่ มี ส.ส.-ส.ว. แล้วควรเดินหน้าต่อ และประชาชนต้องร่วมติดตาม ด้าน น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา...

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐจะล้มข้อเสนอที่ได้มีการเจรจาโควตากระทรวงเกรดเอในรอบแรกในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ยืนยันว่าโควตากระทรวงในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นเหมือนเดิม ตนถือว่าการเจรจาเงื่อนไขจบลงตั้งแต่วันที่มีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและวันที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว จากนี้ไปจะต้องเดินตามโรดแม็พที่วางเอาไว้ในขั้นต่อไปคือ มีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และเดินหน้าจัดทำนโยบาย ย้ำว่าไม่มีการเจรจาเพิ่มเติมและไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะทุกอย่างถือว่าจบแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ฟังคนที่มาเจรจาด้วยเท่านั้น และตนไม่สามารถตอบได้ว่าเพราะสาเหตุอะไรพรรคพลังประชารัฐจึงมีการปล่อยข่าวออกมาเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ภายในพรรคของเขาจะต้องพูดคุยกันเอง เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. มีการต่อสายตรงเพื่อพูดคุย นายนิพนธ์กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีการต่อสายตรง และไม่มีการส่งสัญญาณอะไร เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาเปลี่ยนแปลงข้อตกลงอีก ขณะนี้ทุกฝ่ายเดินหน้าตามข้อตกลงที่วางไว้แล้ว เมื่อถามอีกว่าหากมีการล้มดีลเกิดขึ้นจริง พรรคประชาธิปัตย์เตรียมหาทางออกไว้แล้วหรือไม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า เขาไม่ทำอย่างนั้น ไม่มีทางเกิดขึ้น ไม่มีเหตุการณ์อย่างนั้น และมันจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน

นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ กล่าวถึงกระแสข่าวการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังไม่ลงตัว และมีข่าวการแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีบางกระทรวงว่า เป็นเรื่องปกติของการตั้งรัฐบาลที่จะต้องมีการเจรจาต่อรองกัน อยากให้มองในแง่ดีว่าเป็นธรรมชาติของการเมืองทุกครั้งที่มีการตั้งรัฐบาลภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เพราะไม่ได้แต่งตั้งโดยผู้มีอำนาจเพียงคนเดียวหรือจับฉลาก และเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นพรรคใดเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลก็จะเป็นเช่นนี้ แม้แต่พรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายค้านก็ยังมีการต่อรองเจรจาตำแหน่งหัวหน้าพรรคกัน “ผมว่าเราอย่ามาตำหนิประเด็นนี้เลย แม้ว่าผมเองจะไม่ชอบรัฐบาลนี้เท่าไร เพราะไม่เป็นไปในรูปแบบที่ผมคิดว่าจะเป็นประชาธิปไตยมากกว่านี้ แต่ผมมองว่าการแต่งตั้งมันแย่งกันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องที่น่าเกลียดน่ากลัวการเมืองเสียหาย มองให้เป็นเรื่องธรรมดาที่มันเกิดขึ้นเสมอ ถ้าจะมองเรื่องผลประโยชน์ก็คิดกันได้ ซึ่งหลายคนเป็นแบบนั้นก็มี แต่ก็ขอให้ทำงานเพื่อประชาชนจริงๆและให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะการบริหารประเทศที่สังคมเปิดมากขึ้นมันอยู่ในสายตาของประชาชน ของสื่อมวลชน จะมามุบมิบทำอะไรโดยคนไม่รู้คงทำไม่ได้ พร้อมทั้งมองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ยังอยู่ในสายตา ดีกว่าไปทำอะไรที่สังคมไม่ได้รับรู้” สำหรับเงื่อนเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลจะใช้เวลานานแค่ไหนจึงจะได้คณะรัฐมนตรีนั้น นายสุขุมกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ขณะนี้เลือกนายกรัฐมนตรีไปแล้ว หากปล่อยนานไปแล้วยังไม่เรียบร้อยนายกรัฐมนตรีก็จะถูกตำหนิ และถูกมองว่าไม่มีความสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในเวลาอันเหมาะสม เพราะนายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ดังนั้น ต้องหยุดพฤติกรรมการแสดงออกต่างๆให้ได้ พร้อมทั้งขอให้ประชาชนเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวโดยใช้ความอดทนด้วยเช่นกัน

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เตรียมยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 มาตรา โดยเฉพาะมาตรา 272 ที่ให้ ส.ว. ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีด้วยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะมีหลายขั้นตอน เท่าที่ดูเฉพาะเสียงของพรรคอนาคตใหม่ที่รวมกับพรรคแนวร่วม 7 พรรค ไม่น่าจะเพียงพอ และยังต้องอาศัยเสียง ส.ว. 1 ใน 3 สนับสนุนด้วย อีกทั้งหากเป็นเรื่องสำคัญต้องผ่านการเห็นชอบจากประชาชนอีก จึงมั่นใจว่าไม่มีทางแก้สำเร็จ ดูแล้วเป็นแค่การพูดสร้างกระแสให้ประชาชนเกิดความสบสน ไม่ชอบ และเข้าใจผิดต่อ ส.ว. ในแง่ร้าย ขณะนี้รัฐธรรมนูญเพิ่งเริ่มใช้ไปไม่ทันไร และ ส.ว. เพิ่งเริ่มทำหน้าที่ จึงยังไม่ถึงเวลาแก้รัฐธรรมนูญ...