- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 8 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 8 months ago
- โลกธรรมPosted 8 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 8 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 8 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 8 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 8 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 8 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 8 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 8 months ago
งดเหล้าเข้าพรรษาครบ 3 เดือน ผลลัพธ์เกินคาด ลดขาด-ลา มาสาย มีสุขภาพดี

การรณรงค์ “งดเหล้าเข้าพรรษา” ปี 2568 ภายใต้การขับเคลื่อนของ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ยังคงได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายสถานประกอบการทั่วประเทศ อีกหนึ่งโมเดลต้นแบบในการรณรงค์

เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ประธานเครือข่ายงดเหล้า เปิดเผยว่า ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าอัตราความชุกของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากปี 2560 มีผู้ดื่มจำนวน 15.9 ล้านคน (ร้อยละ 28.4) เพิ่มเป็น 20.9 ล้านคน (ร้อยละ 35.2) ในปี 2567 สะท้อนให้เห็นว่าการดื่มแอลกอฮอล์ในสังคมไทยกลับมาขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและเพศหญิง ขณะที่เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็น เบียร์ รองลงมาคือ สุราขาว และสุรากลั่นชุมชน
ต้องขอชื่นชม สถานประกอบการ และโครงการ SHAP กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ที่ร่วมขับเคลื่อนการรณรงค์ “งดเหล้าเข้าพรรษา” อย่างต่อเนื่อง จากความร่วมมือ จนเกิดกระบวนการเรียนรู้และแรงจูงใจในการปรับพฤติกรรม ลด ละ เลิกการดื่ม พร้อมตระหนักถึงผลกระทบของแอลกอฮอล์ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทำงานให้ดีขึ้น ทั้งนี้ “การสื่อสารที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคือหัวใจสำคัญ” เพราะช่วยให้สังคมเข้าใจคุณค่าของการงดเหล้าและเกิดกระแสสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้เครือข่ายได้นำแนวคิด “มีสติ มีสุขได้ในทุกโอกาส” มาสื่อสารให้เห็นว่า การงดเหล้าไม่ใช่ข้อจำกัด แต่คือ “โอกาสในการดูแลตัวเองและคนรอบข้าง” ซึ่งมีผลต่อทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสำคัญที่สุดคือ ความสุขของครอบครัว

นายวินัยศักดิ์ เหมืองทอง ผู้จัดการโครงการ SHAP เปิดเผยว่า เครือข่ายสถานประกอบการในโครงการ SHAP ร่วมรณรงค์ โครงการ งดเหล้าเข้าพรรษา อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งสำหรับการพัฒนากิจกรรมพัฒนาผลิตภาพควบคู่กับสร้างเสริมสุขภาวะพนักงานในองค์กรเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะพนักงาน จากผลสำรวจค่าความสุของค์กรโดย Happy Meter โดยศูนย์ Happy Workplace Center พบว่าพนักงานในสถานประกอบการมีปัญหาการเงิน สุขภาพและความเครียด ทางโครงการจึงได้บูรณาการองค์ความรู้ เครื่องมือ และนวัตกรรมเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและเอื้อต่อพฤติกรรมสุขภาวะ เช่น งดเหล้า–บุหรี่ ลดอาหารรสจัด เพิ่มการออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพจิตในที่ทำงาน
โครงการ SHAP ร่วมกับเครือข่ายงดเหล้า ประสานมอบสื่อรณรงค์และเชิญชวนองค์กรร่วมลงนาม ปฏิญาณตน “งดเหล้าเข้าพรรษา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” พร้อมติดตามผลโดยนักสร้างสุขในพื้นที่ ปีนี้มีสถานประกอบการเข้าร่วมกว่า 396 แห่ง มีพนักงานร่วมงด–ลดการดื่ม 9,121 คน คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการลดค่าใช้จ่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กว่า 10.6 ล้านบาท มีผู้ที่สามารถ เลิกดื่มได้สำเร็จ 190 คน และ เลิกสูบบุหรี่ 51 คน ซึ่ง สะท้อนพลังความร่วมมือขององค์กรต่าง ๆ ในการสร้างวัฒนธรรมสุขภาวะและสังคมปลอดปัจจัยเสี่ยงอย่างยั่งยืน ในการดำเนินการกิจกรรมดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากคณะทำงาน SHAP AGENTS จำนวน 20 หน่วยงาน ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ช่วยกันขับเคลื่อนโครงการด้วยจิตอาสาอย่างต่อเนื่อง

นางญาณิตา คนซื่อ ผู้จัดการฝ่าย Employee Experience บริษัท ลินเซ่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเข้าร่วมโครงการปีนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญขององค์กร เพราะเป็นปีแรกที่บริษัทดำเนินการในระดับองค์กรอย่างจริงจัง โดยมีพนักงานเข้าร่วมกว่า 1,400 คน จากจำนวนพนักงานทั้งหมด 1,600 คน
“เราทำด้วยใจและตั้งใจถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การรณรงค์นี้ทำให้พนักงานมีพลังบวก สุขภาพดีขึ้น และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนมีความสุขและรู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับองค์กรและสังคม”
บริษัทได้นำแนวคิด Happy Workplace มาผสานกับแคมเปญงดเหล้า ผ่านการอบรมให้ความรู้เรื่องสุขภาพ การออมเงิน และการดูแลสุขภาพจิต พนักงานหลายคนเริ่มจากการ “ลดดื่ม” จนสามารถ “งดครบ 3 เดือน” ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายรายเดือนลงได้เฉลี่ย 3,000–5,000 บาท พร้อมเกิดความสัมพันธ์ที่ดีในทีมงาน ซึ่งทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น และยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทีมงาน และครอบครัวอีกด้วย

ด้านนางสาวดารา เอิบผักแว่น ผู้จัดการฝ่ายบุคคล (HR Manager) บริษัท ไทยสหกิจการยาง จำกัด จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า บริษัทฯ เข้าร่วมโครงการเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้รับความร่วมมือจากพนักงานมากกว่า 90% ของจำนวนทั้งหมดกว่า 100 คน “เรามีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ก่อนเข้าทำงานทุกวัน และพบว่าพนักงานมีสุขภาพดีขึ้น มีความพร้อมในการทำงานมากขึ้น มาทำงานตรงเวลา และปัญหาครอบครัวลดลงอย่างชัดเจน
“ปีแรกอาจมีความท้าทายบ้าง แต่เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ดี องค์กรจึงขยายผลต่อในปีที่สอง ด้วยการสื่อสารผ่านคลิปวิดีโอเกี่ยวกับโรคต่างๆที่เกิดจากการดื่มสุรา แผ่นพับ บอร์ดประชาสัมพันธ์ และเวิร์กช็อปให้ความรู้เรื่องโทษของสุราและให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ พนักงานเริ่มเข้าใจและให้ความร่วมมือมากขึ้น “หลายคนเลิกดื่มได้ครบพรรษา สุขภาพดีขึ้น มีเงินเหลือเก็บ และที่สำคัญคือครอบครัวมีความสุขขึ้นมาก”

สำหรับปีนี้ ผู้บริหารสถานประกอบการให้การสนับสนุนเต็มที่ เพราะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนทั้งด้านสุขภาพ ประสิทธิภาพการทำงาน การลดการขาด–ลามาสาย และการสร้างบรรยากาศองค์กรที่เข้มแข็งและมีความสุข
นางสาวดารา กล่าวเพิ่มเติมว่า หนึ่งในบุคคลต้นแบบของบริษัทฯ ที่งดเหล้าติดต่อกัน 2 ปีในช่วงเข้าพรรษา เผยว่า การเลิกดื่มตลอดระยะเวลา 3 เดือน ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น มีสมาธิในการทำงาน ภรรยาและลูกมีความสุขมากขึ้นเพราะมีเวลาให้ครอบครัว ที่สำคัญครอบครัวไม่ต้องทะเลาะกันเพราะเมาเหล้าอีก

เภสัชกรสงกรานต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การรณรงค์ “งดเหล้าเข้าพรรษา” ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่ช่วงสามเดือนของฤดูกาลเข้าพรรษาเท่านั้น แต่ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงระยะยาว ทั้งในระดับบุคคล องค์กร และสังคม โดยแต่ละปีของการรณรงค์ไม่เพียงช่วยจุดประกายแรงจูงใจให้ผู้คนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่ยังต่อยอดให้ “งดเหล้าเข้าพรรษา” กลายเป็น วัฒนธรรมสุขภาวะร่วมสมัย ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตจริงของผู้คนในชุมชนและสถานที่ทำงานทั่วประเทศ เพื่อก้าวไปสู่สังคมที่แข็งแรง ปลอดภัย และมีความสุขอย่างยั่งยืน
You must be logged in to post a comment Login