- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 8 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 8 months ago
- โลกธรรมPosted 8 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 8 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 8 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 8 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 8 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 8 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 8 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 8 months ago
สสส.จับมือ กสอ.หนุนสร้างแนวคิด Happy Workplace สกัดคนทำงานในSMEs แห่ลาออก

อึ้ง! ผู้ประกอบการ SMEs กว่า 50% เจอปัญหาพนักงานลาออก เหตุงานหนัก มีความเครียด บรรยากาศที่ทำงาน เพื่อนร่วมงาน Toxic สสส.จับมือ กสอ.หนุนสร้างแนวคิด Happy Workplace สร้างความสุข 8 มิติ ผลลัพธ์ที่ได้ประสิทธิภาพการทำงานดี พนักงานลาออกลดลง
ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) จัดงานมอบรางวัลวิสาหกิจต้นแบบ ภายใต้โครงการส่งเสริมสุขภาวะองค์กรในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตามแนวทางมาตรฐานองค์กรแห่งความสุข ประกาศยกย่องสถานประกอบการที่นำแนวคิดองค์กรสุขภาวะ หรือ Happy Workplace ไปใช้กำหนดนโยบายที่ช่วยให้คนวัยทำงานมีความสุขและสุขภาวะดี ที่โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
งานหนัก เครียด ไม่มีความสุข คนแห่ลาออก

ดร.พลาวุธ วงศ์วิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ช่วยปฏิบัติราชการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รายงานสถานการณ์อัตราการลาออกของพนักงาน SMEs ปี 2565 โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พบว่า SMEs ในไทยมีอยู่ 99.57% ของวิสาหกิจทั้งประเทศ มีการจ้างงาน 12,930,004 คน คิดเป็น 70.4% ของการจ้างงานรวมทั้งหมด ถือเป็นกลุ่มสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย โดยSMEs ในจำนวนนี้ 50% กำลังประสบกับปัญหาการลาออกของพนักงานสูง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากองค์กรไม่ให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมสุขภาวะภายในองค์กร พนักงานเกิดความเครียดและไม่มีความสุขในการทำงาน สอดคล้องกับผลสำรวจแรงงานไทย ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า แรงงานไทย 57% ตัดสินใจลาออกจากการทำงาน สาเหตุจากภาระงานหนัก ขาดสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัว
“หากไม่เร่งแก้ไขปัญหาอาจสร้างผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงร่วมกับ สสส. ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมสุขภาวะองค์กรในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม นำแนวคิด Happy Workplace ไปใช้สร้างสุขภาวะที่ดีในองค์กร มีแนวทางการทำงานที่สำคัญ 3 ด้าน 1.ส่งเสริมให้ผู้บริหารของสถานประกอบการมีความตระหนักรู้ถึงความสำคัญในการส่งเสริมให้บุคลากรมีคุณภาพชีวิตดีด้วยแนวคิด Happy Workplace 2.สนับสนุนให้สถานประกอบการจัดกิจกรรมและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีพฤติกรรมสุขภาวะดี เช่น รณรงค์สร้างค่านิยมไม่บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ลดการรับประทานอาหารรสหวาน มัน เค็ม เพิ่มกิจกรรมออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพจิต 3.ผลักดันให้มาตรฐานองค์กรแห่งความสุข ถูกนำไปใช้ในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในระดับนโยบายของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม”
HAPPY –METER คืออะไร
เป็นเครื่องมือวัดค่าความสุขที่บุคคลสามารถวัดค่าความสุขของคนใน มิติต่างๆประกอบด้วย ความสุข 8 มิติ ได้แก่ Happy Body, Happy Heart Happy Relax, Happy Soul, Happy Brain, Happy Money Happy Family ,Happy Society และมิติที่ 9 คือ Happy work-life เป็นมิติเน้นการวัดผลความรู้สึกและประสบการณ์ของคนทำงานในองค์กรว่ามีความพึงพอใจ ความรักความผูกพันกับองค์กร (Employee Engagement) เป็นอย่างไรและสามารถทราบผลการสำรวจได้ทันที
เป็นการสำรวจค่าความสุของค์กรในรูปแบบใหม่พร้อมกับระบบออนไลน์ และ Data Analytics System มีรายงานสรุปผลให้องค์กรเพื่อใช้เป็นผลในการเสริมสร้างความสุของค์กรและแก้ปัญหาความพึงพอใจ และความผูกพันของพนักงานประหยัดเวลาในการสร้างแบบสอบถามลดค่าใช้จ่าย มีผลวิเคราะห์ให้แบบ Real Time ให้คำปรึกษาแนะนำการสร้างองค์กรแห่งความสุข
HAPPY METER จึงเป็นเครื่องมือวัดค่าความสุของค์กรองค์กรของคุณมีความสุขเป็นอย่างไร เคยวัดค่าความสุขไหม ถ้าคนในองค์กรของคุณมีความสุขย่อมทำงานมี Productivity ที่ดี

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ว่า สสส. ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้คนวัยทำงานมีสุขภาวะดี 4 มิติ จึงร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ดำเนินงานโครงการส่งเสริมสุขภาวะองค์กรในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมฯ อย่างต่อเนื่อง ขับเคลื่อนให้เกิดการจัดตั้งศูนย์ Happy Workplace Center 5 แห่ง ในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครราชสีมา ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี ทำหน้าที่บริการข้อมูลองค์ความรู้และนวัตกรรมเครื่องมือในการพัฒนากิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะพนักงานในองค์กร พัฒนาศักยภาพบุคลากร 75 คน ให้เป็นแกนนำที่มีองค์ความรู้ประเมินมาตรฐานองค์แห่งความสุข พร้อมคอยให้คำแนะนำสถานประกอบการที่สนใจขับเคลื่อนนโยบายสร้างสุขในองค์กร มีสถานประกอบการเข้าร่วม 63 แห่งทั่วประเทศ พนักงานได้รับประโยชน์ 19,296 คน ช่วยให้มีผู้เลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ 51 คน ลดการสูบบุหรี่ 1,748 คน เลิกดื่มแอลกอฮอล์ 190 คน ที่สำคัญ การขับเคลื่อนงานสร้างสุขภาวะองค์กรในวิสาหกิจ ช่วยสร้างให้เกิดมูลค่าด้านการผลิตในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 266 ล้านบาท
นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า ในงานวิจัยพบว่าสาเหตุที่ทำให้คนอยากลาออกจากงาน กว่า 50% พบว่าเป็นเรื่องของการที่รู้สึกว่างานหนักเกินและไม่ได้มีความสมดุลระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิต ซึ่งคนรุ่นใหม่อาจจะรู้สึกว่าการทำงานไม่ใช่ชีวิตทั้งหมด เขาต้องการความสมดุลของชีวิต ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ สสส.ทำร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมซึ่งจะไปทำงานร่วมกับบุคลากรของหน่วยงานต่างๆในกลุ่ม SME หรือหน่วยงานขนาดเล็กที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ที่ครอบคลุมจำนวนพนักงานมากถึง 12 ล้านคน หรือคิดเป็น 70% ของกลุ่มแรงงานที่ทำงานกับกลุ่มSME

ทั้งนี้ สสส.ได้จัดทำกรอบการทำงานที่มีความสุขที่เรียกว่า Happy 8 ที่ไม่มองเรื่องสุขภาวะเชิงสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่จะดูทั้งสุขภาพกาย ใจ จิตวิญญาณ สังคม เรื่องของครอบครัว เงิน ทั้งนี้หากมีกรอบและมีกระบวนการดำเนินงานที่มีอิสระให้กับบริษัท ห้างร้าน วิสาหกิจต่างๆที่มีขนาดเล็กได้ลองไปทำดู และประเมินหน่วยงานต้องการเสริมในเรื่องใดบ้าง เพื่อดูว่าจะมีการพัฒนาในด้านต่างๆได้อย่างไร ซึ่งหลายบริษัทได้สร้างนวัตกรรมดีๆ เช่น กิจกรรมช้อปช่วยเพื่อน เพื่อสร้างรายได้ให้กับพนักงานอีกทางหนึ่ง หรือกระบวนการต่างๆในการดูแลกัน ยิ่งทำกิจกรรมมากขึ้นก็จะมีความผูกพันมากขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ ผลประกอบการสูงขึ้น เพราะคนทำงานเมื่อมีความรักความผูกพัน จะเกิดความรู้สึกอยากทำงานเพราะมีความสุข เพราะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อความสัมพันธ์ดีขึ้นแน่นอนผลงานก็จะออกมาเอง
นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า ผลที่ได้เมื่อได้มีการฟังจากบริษัทที่มานำเสนอนั้น พบว่าเรื่องประสิทธิภาพของบริษัทจะเพิ่มขึ้น ได้มีการคำณวนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมว่าโครงการดังกล่าวทำให้มีประประสิทธิภาพของการทำงานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงินถึง 260 ล้านบาท หลายบริษัทพบว่าปัจจัยเรื่องของความสุขมีความสำคัญในการขับเคลื่อน เพราะคนเราโหยหาความสุข เป็นความสุขที่หาได้จากกลางอากาศคือ ความสุขที่ได้จากการทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงาน เพราะถ้าทุกคนรักกัน จะมีความสุขงอกเงยขึ้นมาระหว่างการทำงาน ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทดีขึ้น การลางานลดลง
ผลที่ได้จากโครงการนี้ มีคนงดเลิกเหล้าได้ 190 คน และมีคนงดเหล้าอีกจำนวนเป็นพันคน คนงดบุหรี่อีก 1,700 คน และเลิกได้อีก 50 คน สิ่งที่ได้คนมีความสุขและมีสุขภาพดีทำให้เกิดการลางานน้อยลง เกิดอุบัติเหตุน้อยลง ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เป็นกระบวนการที่พวกเขาได้เรียนรู้ร่วมกัน กำหนดกฎกติการ่วมกัน ทำใหพนักงานในสถานประกอบการมีสุขภาพที่ดีได้

“การขยายโครงการดังกล่าวไปยังหน่วยงานราชการ ตนคิดว่าจุดสำคัญภาครัฐมีระบบระเบียบที่จัดการ ซึ่งเรามีโครงการที่ทำกับภาครัฐกับกระทรวงกลาโหม ที่เข้าไปทำกับทหาร ที่มีเรื่องของการดื่มและสูบที่มาก ที่เราคิดไว้จุดที่ควรจะขยายไปมากๆ คือตามบริษัทต่างๆที่มีมาตรฐานยังไม่ชัดเจน ต้องยอมรับว่าบริษัทใหญ่เขาจะมีมาตรฐานในการดูและพนักงานว่าเป็นอย่างไร แต่ในขณะที่บริษัทเล็กๆ หรือ SME เรื่องการดูแลพนักงานอาจไม่ได้มาตราฐานในทุกบริษัท การที่เราเอามาตราฐานตรงนี้เข้าไปเป็นสิ่งที่เราอยากขยาย การทำงานควบคู่ไปกับทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป และต้องสร้างต้นแบบหลายๆแบบในการที่จะทำให้เกิดสุขภาวะองค์กร และที่มองต่อไปในระยะยาวคือ การสร้างแอพฯที่ทำให้หลายบริษัท ห้าง ร้านเข้ามาใช้ฟรีได้อย่างไร ซึ่งอยู่ในระหว่างการหารือพัฒนากระบวนการนำเทคโนโลยีต่างเข้ามาใช้มากขึ้น” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
บ. ลีซุ่นไถ่ฯวิสาหกิจต้นแบบ พบ คนทำงานมีความสุข ยอดขายเพิ่ม

นายณัฐพล กิตติวรรธนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซุ่นไถ่ (ไทยแลนด์) จำกัด ในฐานะวิสาหกิจต้นแบบ กล่าวว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อความสุขของพนักงานทุกคน จึงได้นำแนวคิด Happy Workplace ของ สสส. มาออกแบบนโยบายและกิจกรรมที่สอดคล้องกับองค์กร มุ่งเน้นการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมสุขภาวะทุกมิติ เช่น กิจกรรมอบรม Happy Money เงินดีมีสุข มุ่งเสริมให้พนักงานมีความรู้การบริหารจัดการเงินออม กิจกรรมอบรมลดพุง ลดโรค ให้ความรู้เรื่องการบริโภคอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการและการออกกำลังกาย จัดทำมุมอ่านหนังสือ ให้พนักงานได้ใช้ในช่วงเวลาพักกลางวัน ผลการดำเนินงาน พบว่า พนักงานมีความสุขในการทำงานเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะด้านการเงิน ที่สำคัญ ผลลัพธ์ด้านการผลิตขององค์กร พบว่า มียอดขายเพิ่มขึ้น ข้อร้องเรียนลดลง สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายวัสดุสิ้นเปลืองได้สูงถึง 5,441,500 บาท
ประโยชน์ที่องค์กรได้รับคือ
-ด้านบุคลากร มีสมาธิ กระตือรือร้น คุณภาพงานดีขึ้น, มีความสุขกับงาน การลาออกลดลง,ขัดแย้งกันน้อยลง บรรยากาศการทำงานดีขึ้น
-ด้านองค์กร ลดต้นทุนการลดออก จากการสรรหาพนักงาน, บริษัทเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น,สร้างวัฒนธรรมองค์กร เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน
-ด้านลูกค้า ความพึงพอใจเพิ่ม ,ยอดขายเพิ่ม
-ด้านครอบครัวพนักงานและสังคม ลดความเครียด ได้ใช้เวลากับครอบครัวอย่างมีความสุข,มีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
You must be logged in to post a comment Login